“ประยุทธ์” สัญจร เจาะฐานเสียง เช็กกระแส พลังประชารัฐชุลมุน เคลียร์พิษการเมือง

แม้วันเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังวางโปรแกรม เดินสายประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรอย่างเหนือชั้น “เดินเท้า” ลงพื้นที่ กทม.และปริมณฑล อย่างต่อเนื่องในช่วง “โค้งสุดท้าย” ก่อนเลือกตั้ง โดยเฉพาะ กทม.ฝั่งตะวันออก ฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย

ตาม “ลายแทง” ของ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง-กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 14-15 ม.ค. “พล.อ.ประยุทธ์-ครม.” มีกำหนดการประชุม “ครม.สัญจร” กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน

ก่อนหน้านี้-ก่อนสิ้นปี”61 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ยก ครม.ไปประชุมที่ จ.อุดรธานี-หนองคาย ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นการประชุม ครม.สัญจร “นัดสุดท้าย” ภายหลังไทม์ไลน์วันเลือกตั้งชัดเจน คือ เลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62

ทว่า เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ยังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จึงเดินสายหาเสียง ชิงคะแนนนิยมต่อเนื่อง

ทั้งภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันเป็นเมืองหลวง-เมืองรองพรรคเพื่อไทย จึงเป็น “พื้นที่เป้าหมาย” ในการเข้าตี แม้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำทุกครั้งว่า “ไม่ได้หาเสียง”

ในจังหวะคู่ขนานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธได้ยากว่า พปชร.ไม่ใช่ “เนื้อเดียว” กันกับ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” เพราะมี 4 รัฐมนตรีในคณะ “รัฐบาลทหาร” เป็นทั้งหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค-รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ 4 รัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง ก็ยังไม่พ้น “ข้อครหา” ว่า เป็นพรรค “นั่งร้าน” ให้กับ “พล.อ.ประยุทธ์” สืบทอดอำนาจเพราะภาพ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” แม่ทัพเศรษฐกิจรัฐบาล-คสช. เป็น “ที่ปรึกษาทางใจ” ให้กับ 4 รัฐมนตรี ควบ “ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ” ให้กับรัฐบาล-คสช.

นับตั้งแต่ “แกนนำกลุ่มสามมิตร” สลายตัว-ควบรวมกับพรรคจนถึงปัจจุบัน “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน-อนุชา นาคาศัย” ต่างเดินสายประกาศ “ขายนโยบาย” อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน “กล่องดวงใจ-ฐานเสียง” พท.-ทักษิณ เป็นการเปลี่ยนจาก “ตั้งรับกลับกลายเป็นรุก” และ “ดีเลย์แท็กติก” ทางกฎหมายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี “เนติบริกร” นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย คอย “คุมจังหวะเกม” ในช่วงที่ พปชร.เพลี่ยงพล้ำ-เสียหลัก

หนึ่ง “พิษโต๊ะจีน” 200 โต๊ะ โต๊ะละ 3 ล้าน ทะลุเป้า 650 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รองหัวหน้าพรรค โต้โผงานระดมทุน กำลังตรวจสอบเพื่อรายงานต่อ กกต.ในวันที่ 18 ม.ค.

ส่วนที่มี “มือปล่อย” ผังโต๊ะจีน-รายชื่อผู้บริจาค โดยมี “ชื่อย่อ” ของหน่วยงานราชการ เช่น “คลัง-ททท.” นั้น “เสี่ยตั้น-ณัฏฐพล” ยืนยันว่า ในขั้นตอนตรวจสอบขณะนี้ไม่มีหน่วยงานของรัฐมาบริจาคให้กับพรรค

สอง “ทุกขลาภ” ของ 4 รัฐมนตรี ที่ยังไม่ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยรอ “เวลาที่เหมาะสม” คือ ร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศ-กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง

สาม ความ “ไม่ลงล็อก” ของนโยบาย เนื่องจากเลื่อนการแถลงนโยบายมาแล้ว 3 ครั้ง เพราะต้องรอ “แกนนำสามมิตร” ซึ่งขณะนี้ “ตะลอนทัวร์” ภาคอีสาน เสร็จสิ้นเสียก่อนเพื่อความ “พร้อมหน้าพร้อมตา” กับ 4 รัฐมนตรี

สี่ ความ “ไม่แน่นอน” ของ “แคนดิเดตนายกฯ” ที่ยังไม่ลงตัว-ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะ “พล.อ.ประยุทธ์” จะเป็น 1 ใน 3 ในบัญชีนายกฯหรือไม่

มิหนำซ้ำ ช่วงหลัง ๆ “พล.อ.ประยุทธ์” ออกห่างจากพรรคการเมือง-แสดงท่าทีเป็นกรรมการมากขึ้น “หลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ชัด เป็นธรรมดาที่บุคคลใด ๆ ก็แล้วแต่ต้องสงวนท่าที ดูความพร้อมในทุกด้าน”

“ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) แสดงเจตจำนงมาแล้วว่า ท่านสนใจการเมือง ฉะนั้น ท่านคงกำลังหาแนวทางการเมืองที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม ท่านคงดูความเหมาะสม ดูเวลา ดูนโยบาย”

“เชื่อว่าแนวทางของผู้บริหารพรรคมองถึงคนที่จะเหมาะเป็นผู้นำประเทศ ใครที่มีความสามารถก็จะพิจารณาคนนั้น” แกนนำพรรค พปชร.ระบุ

คาดว่าหลังจากร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศ และ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งชัดเจน ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ในบัญชีพรรค พปชร.จะชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่การ “จัดทัพ-จัดตัว” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 350 คน และบัญชี ส.ส.รายชื่อ 150 คน อยู่ในขั้นตอนกรรมการสรรหา อาทิตย์หน้าจะมีความชัดเจน

โดยบัญชี ส.ส.เขตมีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ 15 เขต ใน 15 จังหวัด หรือไม่ถึง 5% ส่วนบัญชี ส.ส.รายชื่อ 150 คน มีเกินความต้องการและยังจัดลำดับไม่สะเด็ดน้ำ

การยื้อ-ยืดวันเลือกตั้งออกไป จึงเป็น “ปัจจัยบวก” ให้ โกยคะแนนนิยม

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!