“สมชาย” รีไทร์การเมือง หลีกทาง “เจ๊หน่อย” ไฟแรง

4 เม.ย. 2561 อาจกล่าวได้ว่า เป็นวันที่ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะที่พรรคเพื่อไทยเป็นครั้งสุดท้าย ประกาศว่า “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” หรือ “เจ๊แดง” ผู้เป็นภริยา “เลิกเล่นการเมือง” ก่อนเร้นกายหายเข้ากลีบเมฆ

“สมชาย” ในวัยใกล้ 72 กำหนดวงโคจรของตัวเองในวัยเกษียณวนเวียนอยู่ กทม.-เชียงใหม่ และต่างประเทศเป็นครั้งคราว

จากที่เคยนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำหนดเกม-คุมจังหวะการเมืองทั้งฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติของรัฐบาล

แต่หลังจากรัฐประหาร 2557 ชื่อของ “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” แรงขึ้นมาในพรรคมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วน “สมชาย” เริ่ม “เฟดตัวเอง” ออกจากพรรค

และหลีกทางให้ “คุณหญิงสุดารัตน์” นั่งคุมเชิงหัวโต๊ะเพียงผู้เดียว กระทั่งกลายเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค เมื่อ “สมชาย” ปรากฏตัวอีกครั้งจึงต้องถามว่า หลีกทางให้คุณหญิงสุดารัตน์หรือไม่ เขาตอบว่า

“ข่าวก็คือข่าว ผมคิดว่าอยากให้คนที่มีพลังเยอะ ๆ ไฟแรงสูงอยู่ มีความทะเยอทะยานอยากช่วยประชาชน ที่จะช่วยประชาชน มาช่วยกันเยอะ ๆ การเมืองไม่ใช่เรื่องของเราคนเดียว เป็นเรื่องของส่วนรวม ต้องเผื่อแผ่กัน”

“ส่วนการเข้าไปที่พรรคเพื่อไทย ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เป็นคนสังกัดพรรคเพื่อไทยอยู่ ถ้ามีการมีงานก็ไป ไม่ได้มีปัญหากับพรรค เพียงแต่การทำงานเราก็อยากให้คนที่มีความรู้ความสามารถและมีความทะเยอทะยานมาทำงาน จะดูดีกว่าเรานะ อย่าคิดว่าเราเก่งเสมอไป คนเก่งกว่าเราก็มีที่จะช่วยพรรคช่วยประชาชนได้ก็อยากให้เข้ามา ทำคนเดียวไม่ได้”

“ผมเชื่อมั่นศักยภาพพรรคว่าจะชนะเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์” 

ส่วนเหตุผลที่ “หายไป” จากพรรคเพื่อไทย เขาตอบทำนองว่า “แก่แล้วจะทำอะไรก็ได้”

“ไม่ได้ทำอะไร คนแก่แล้ว เป็นชิ้นเป็นอันไหม…ไม่เชิง ช่วยดูงานให้ครอบครัวบ้างลูกเต้าก็ทำงาน ทำธุรกิจ ไปเที่ยว ไปตีกอล์ฟ ช็อปปิ้ง ไปงานสังคม ตรงไหนที่เขาอยากให้ไปร่วมงานก็ไป เกษียณแล้วในฐานะเป็นคนแก่แล้ว ทำประโยชน์อะไรได้ก็ทำ ทำไม่ไหวก็อยู่เฉย ๆ” 

การที่หายไปเฉย ๆ ถือว่ารีไทร์การเมืองตามผู้เป็นภริยาหรือไม่ เขาตอบไม่ต้องคิดว่า “รีไทร์อยู่แล้ว พอออกจากนายกฯก็รีไทร์” 

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลกับ “เจ๊แดง” ในคดีจำนำข้าวภาค 2 เป็นที่มาของข่าวลือว่าเธอหลบหนีออกนอกประเทศ เขาปฏิเสธแทนภริยา

“ผมก็ประหลาดใจอยู่ในสื่อบางส่วน รวมถึงโซเชียล มาพาดพิงถึงครอบครัวผม จริง ๆ ผมยังไม่ทราบเรื่องว่ามีอะไรอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ใครมาเที่ยวกล่าวหาครอบครัวผมจริงหรือไม่จริง หรือ ป.ป.ช.จะมาไต่สวนเรื่องภริยาและครอบครัวผมหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ ทราบแค่ข่าว ในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในครอบครัวนี้ ผมยืนยันได้ว่าคนในครอบครัวผมบริสุทธิ์แน่นอน ไม่เคยข้องแวะคนอย่างว่าหรอก เรื่องคอร์รัปชั่น ยืนยันว่าไม่มี ชีวิตผมมาจนถึงป่านนี้ ไม่เอาชีวิตและชื่อเสียงมาทิ้ง”

“แม้ผมไม่ร่ำไม่รวย แต่ผมไม่เคยทำมาหากินกับเรื่องแบบนั้น แต่ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นก็พร้อมต่อสู้กันในฐานะที่มั่นใจในตัวเราและข้อเท็จจริง ก็ว่ากันไป ถ้ามีเรื่องอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”

“ที่ข่าวมาถี่ หลายคนมองว่าเป็นปัญหาที่จะดิสเครดิตทางการเมืองหรือเปล่า ภริยาผมก็วางมือไปแล้ว ผมเองติดตามการเมืองในฐานะประชาชนไปแล้ว ตอนนี้ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถที่คิดว่าช่วยนำพาประเทศชาติและช่วยเหลือประชาชนได้ ก็โอเค ส่วนเราช่วยเหลืออะไรได้ ก็ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

เป็นการเปิดใจ “สั้น ๆ” แต่ได้ใจความนับตั้งแต่เร้นกายจากการเมือง