เพื่อไทย-ทษช. ชิงมรดกทักษิณ เตะตัดขาบุกตัดแต้ม สู้ทุกที่…บี้ทุกเขต

รายงานพิเศษ

 

เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดอยู่ในประเภท “พรรคพี่-พรรคน้อง” 

แก้สูตรเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม จากรัฐธรรมนูญมีชัย ฤชุพันธุ์ และพวก

ความเดิมตอนที่แล้ว “เพื่อไทย” เก็บแต้มเขต “ทษช.” เก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์ แบ่งกันลงตัว

ทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง เพื่อไทยกับ ทษช.จะส่ง ส.ส.เขตไม่ทับซ้อนกัน โดยเพื่อไทยส่งผู้สมัครเลือกตั้ง 200 เขต ส่วน ทษช.ส่ง 150 เขต 

เพราะกลยุทธ์ที่ใช้ในคราวเลือกตั้ง 2562 ทษช.เก็บคะแนนตกน้ำที่แพ้ให้มากที่สุด ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ต้องเก็บแต้มชนะให้ได้มากที่สุดเกิน 7 หมื่นแต้ม งานนี้จึงไม่มีฝ่ายใดยอมให้กัน

 

พท.-ทษช.ตัดแต้มกันเอง

แต่ความในตอนใหม่ กลายเป็นว่า “เพื่อไทย” เจ้าของพื้นที่ 350 เขต กลับไม่แบ่งพื้นที่ให้ ทษช.ได้มีพื้นที่เล่น แม้จะมีคำสั่งจากดูไบ เว้นที่ให้ ทษช.บ้าง ตัวอย่าง เช่น 116 เขตเลือกตั้งภาคอีสาน ที่คนของพรรคเพื่อไทยครองพื้นที่ข้างมากอยู่

ทั้งซุ้มบ้านใหญ่ เจ้าของพื้นที่ ไม่ว่าอีสานเหนือ-อีสานใต้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หากเพื่อไทย-ทษช. ลงทับซ้อนกัน ชาวบ้าน “สับสน” และกลายเป็น “ตัดแต้มกันเอง”

แหล่งข่าวเพื่อไทยในระดับหัวหน้ามุ้งภาคอีสานกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้า ทษช.จะส่ง ส.ส.ลงสมัครเลือกตั้งเพื่อแค่เอาปาร์ตี้ลิสต์ ก็ควรจะส่งภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคใต้ ไม่ควรมาแตะภาคอีสาน ให้ชาวบ้านงง

ถูกขีดเส้นให้อยู่แค่ชายแดน 

ในมุม “เพื่อไทย” พื้นที่ที่ ทษช.จะลงได้จึงถูก “ขีดเส้น” ให้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้มีแค่ชายแดนอีสานใต้ 3 จังหวัด ประเภทชายแดน-เดนตาย เท่านั้นคือ บุรีรัมย์ โดยแบ่งกับเพื่อไทย พรรคละ 4 เขตไม่ทับซ้อนกัน เนื่องจากบุรีรัมย์เป็นฐานที่มั่นของ “ภูมิใจไทย” บางเขตมีโอกาสแพ้เป็นเบอร์ 2 มากกว่าชนะเป็นที่ 1

เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ ทษช.จะส่ง “บางเขต” ที่เพื่อไทยมีความเสี่ยงที่จะแพ้ เพราะช่วงหลังภูมิใจไทยโหมทำพื้นที่อย่างหนัก และนครราชสีมา ในบางเขตซึ่งมีความหลากหลายสูง และพรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์แพ้

ทว่า ทษช.มีแพลนว่าจะส่งผู้สมัครในภาคอีสานมากกว่า 3 จังหวัด หนึ่งในนั้นคือ จ.อำนาจเจริญ ที่มี 2 เขตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งปี 2554 เขต 1

เป็นของ “สมหญิง บัวบุตร” ส่วนเขต 2 เป็นพื้นที่ของ “อภิวัฒน์ เงินหมื่น” พรรคประชาธิปัตย์

มาการเลือกตั้งปี 2562 เพื่อไทยส่ง “ดนัย มหิพันธ์” ไปชนกับ “อภิวัฒน์” เจ้าของพื้นที่เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ แน่นอนว่าถ้า ทษช.ส่งคนไปอำนาจเจริญ เพิ่มอีก 1 คน เท่ากับเสี่ยง “ตัดแต้ม” กันเอง

ขณะที่สนามเลือกตั้ง 50 เขตภาคใต้ เพื่อไทย-ทษช.-เพื่อชาติ-ประชาชาติ ยังมีปัญหาการจัดทัพ เพราะ “ทับซ้อน” กันอีนุงตุงนังหลายเขต ในโซน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ “พรรคประชาชาติ” ขณะที่ “ภูเก็ต” เมืองใหญ่ก็ยังมีปัญหาที่คนของเพื่อไทยไม่ยอม “ปล่อยมือ” ทั้งที่ทีมงานการเมืองภาคใต้ของพรรคเพื่อไทย ได้ย้ายก้นมาอยู่ ทษช.กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วก็ตาม

และ ทษช.ยังมีปัญหาทับซ้อนกับพรรคเพื่อชาติ ที่มี “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. เป็นกองเชียร์อยู่หลังฉาก เตรียมส่งผู้สมัครครบทุก 50 เขตในภาคใต้ ชนกับ ทษช.ที่จะส่งครบทุกเขตเช่นกัน จนบางเขต-บางจังหวัดต้องวัดโพลเป็นตัวตัดสินว่า ระหว่างเพื่อไทย-ทษช.-เพื่อชาติ-ประชาชาติ จะวางตัวผู้สมัครกันอย่างไร

โดยเฉพาะ เพื่อชาติ ที่วางแพลนส่งผู้สมัครทุกภาค และอาจจะทุกเขตเลือกตั้ง จน ส.ส.เพื่อไทยนินทาลับหลังว่า “เอาเงินมาจากไหน” 

พท.ปิดประตู ทษช.ภาคเหนือ

ส่วนเหนือตอนบน เพื่อไทยขอกวาดเรียบ ไม่กั๊กให้ ทษช. โดยจะได้เห็น “บิ๊กเนม” อดีตไทยรักไทย คัมแบ็กกลับมาลง ส.ส.เขต เช่น เขต 7 เชียงใหม่ ที่เคยเป็นพื้นที่ของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ซึ่งบุตรชายนายบุญทรงได้ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทยจึงแก้เกม ส่ง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ที่ก่อนหน้านี้เคยนั่งเก้าอี้พรรคสำรอง “เพื่อธรรม” ก่อนย้ายสำมะโนครัวกลับมาอยู่ “เพื่อไทย” อีกครั้ง ลงชิงดำ

ส่วนเชียงราย จะเห็น “วิศาล เตชะธีราวัฒน์” อดีต รมช.มหาดไทย ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงแทน “วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์” บุตรสาว ที่ขอไม่ลงเลือกตั้งในปี 2562

ตอกย้ำด้วยซีนลงพื้นที่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งเพื่อไทย ทั้งอีสาน-ภาคใต้-ทั้งเหนือ ขายภาพพรรคเพื่อไทยเต็มกำลัง ไม่มีอ่อนข้อให้พรรคบริวาร ทษช.

ทษช.ลงแข่ง กทม.-ภาคกลาง-ใต้

แต่บางจังหวัดที่พรรคเพื่อไทย ยอมเปิดทางให้ ทษช.แน่ ๆ คือ กรุงเทพมหานคร แบ่งให้ ทษช.10 เขต อาทิ สวนหลวง คลองเตย บางนา ราษฎร์บูรณะ บางคอแหลม ภาคกลาง-ภาคตะวันตก อาทิ ฉะเชิงเทรา ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ภาคกลางตอนบน-เหนือตอนล่าง พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพราะจังหวัดต่าง ๆ เหล่านี้ คนของพรรคเพื่อไทยต้องเบียดแย่งแต้มกับพรรคประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ เสี่ยงที่จะ “แพ้” สูง

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าการวางผู้สมัคร หลบ-หลีกกันอย่างไร ทุกข่าวคราวต้องถึงหู “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทยเสมอ

เช่นเดียวกับโปรโมชั่น-แคมเปญ ลด แลก แจก แถม ผ่านนโยบายประชานิยม-รัฐสวัสดิการ ถูกพรรคการเมืองขาใหญ่ ขนาดกลางโหมกระหน่ำ เพื่อช่วงชิงคะแนนจากโหวตเตอร์ 51 ล้านเสียง

แม้ว่ายังไม่มีทั้งพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ประกาศวันเลือกตั้ง ยังไม่มีวันเลือกตั้งที่ชัดเจน-อย่างเป็นทางการ

จึงเป็นช่วงสุญญากาศ ที่พรรคการเมืองฉวยโอกาสเปิดแคมเปญสารพัดแคมเปญ เพราะเมื่อ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง มีผลบังคับใช้ กฎ กติกา ระเบียบเลือกตั้งสารพัดกฎ จะถูกนำมาล้อมคอกการหาเสียงให้อยู่ในกรอบทันที-และคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง

การวางแผนของ ทักษิณ-เพื่อไทย-ทษช. จึงเดินหน้าสร้าง และ ย้ำแบรนดิ้งว่า เพื่อไทย-ทษช.เป็นพรรคสายพันธุ์ไทยรักไทย แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้สำเร็จมาแล้วในอดีต

“อยู่กับเรากระเป๋าตุง… อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ” คือ “คาถาหาเสียง” ที่ให้ ส.ส.อีสาน ไปทำความเข้าใจกับชาวรากหญ้า

ส่วน ทษช.ขายภาพความเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาบริหารจัดการนโยบาย

ขณะที่ตัวนายใหญ่ทักษิณ เปิดเว็บไซต์ thaksinofficial.com โชว์วิชั่นเศรษฐกิจขนาบข้าง รุกพื้นที่โซเชียลทุกแพลตฟอร์ม

ทุกเวที ทุกความเคลื่อนไหว จะถูก “ทักษิณ” มอนิเตอร์ พร้อมกับทำโพลวัดความนิยมเป็นระยะ

“ทักษิณ” ยังคงบริหารจัดการ ทั้งเพื่อไทย-ทษช. และพรรคบริวาร แม้จะไม่ราบรื่นนักก็ตาม

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!