“จาตุรนต์” ชูแคมเปญ เปลี่ยนนโยบายการคลัง – ลดงบทหาร ชี้ 5 ปี ครม.บิ๊กตู่สร้างหนี้ 6.5 ล้านล้าน

นาย​จาตุรนต์ ฉาย​แสง ประธาน​คณะ​กรรมการ​ยุทธศาสตร์ และ​นาย​พิชัย น​ริ​พทะ​พันธุ์ คณะ​ทำ​งาน​ด้าน​เศรษฐกิจ พรรค​ไทย​รักษา​ชาติ หารือ​กับ​กลุ่ม​ญาติ​วีรชน​พฤษภา 35 ที่​เดินทาง​มา​ให้​กำลังใจ​การ​ทำ​งาน​ของ​พรรค ที่​พรรค​ไทย​รักษา​ชาติ เมื่อ​วัน​ที่ 12 ธันวาคม 2561

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Chaturon Chaisang” ในหัวข้อ “เปลี่ยนนโยบายการคลังและงบประมาณ” ว่า ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังตกต่ำ ประชาชนทุกระดับรู้สึกถึงความเดือดร้อนทั่วกันหมด รัฐบาลกำลังเอาเงินที่มาจากภาษีของประชาชนไปแจกอย่างต่อเนื่องเพื่อหาเสียงมากกว่าจะแก้ปัญหาความยากจนไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นและระยะ พร้อมกันนั้นก็มีข่าวกองทัพกำลังจะซื้อรถถังจากจีนอีก 14 คันเป็นเงิน 2,300 ล้านบาท รวมทั้งหมด 5 ปีหลังรัฐประหารมานี้กองทัพไทยซื้ออาวุธจากจีนไปแล้วทั้งสิ้นรวมเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมเรือดำน้ำอีก 2 ลำ ที่ใช้งบราว 27,000 ล้านบาทในปี 2562 นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้น่าสนใจว่าเกิดอะไรกับนโยบายการคลังและงบประมาณของประเทศในรอบหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้ง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ ขาดดุลเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อขาดดุลประจำปีเพิ่มอีกไม่ได้แล้วก็ใช้วิธีอนุมัติงบประมาณที่มีผลผูกพันไปในอนาคต จนถึงปีงบประมาณปัจจุบันมีการผูกพันงบประมาณไปในระยะ 5 ปีข้างหน้าถึง 1,178,275 ล้านบาท

นายจาตุรนต์ ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งให้ความเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายของปี 2562 ไปด้วยวงเงิน 3 ล้านล้านบาท พิจารณาย้อนหลังไปหลายปีจะพบว่าหลังจากการรัฐประหารสองครั้งที่ผ่านมา ทำให้งบประมาณของกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องโดดเด่นเป็นพิเศษ  ใน ปีงบประมาณ 2558-2562 มีข้อค้นพบที่น่าสนใจดังนี้

1.งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่สูงอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมทั้งปี 2562 นี้  เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 3%

2.งบประมาณกระทรวงศึกษาธิการชะลอตัวหรือลดลงอย่างต่อเนื่องคือ -0.6% ในปี2560,-1.2%ในปี2561, และ  -4%ในปี2562 ตามลำดับ

3.งบประมาณสำหรับรายจ่ายประจำ เงินเดือนและค่าจ้างสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีงบประมาณ 2562 นี้มีสัดส่วนสูงเป็นประวัติการณ์คือ 35 %ของงบประมาณโดยรวม

4.มีการตั้งงบประมาณผูกพันสำหรับการซื้ออาวุธเป็นจำนวนมากราว 43,860 ล้านบาท มีการผูกพันงบประมาณตั้งแต่ปี 2561-2565และปีต่อๆไปรวม 1,229,937.1ล้านล้านบาทและพบว่ามีการกระจุกตัวใน 3 กระทรวงใหญ่

5.การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐใน 5 ปีมานี้ทำให้เป็นหนี้สะสมราว 6.5 ล้านล้านบาท มีการประมาณว่าการสร้างภาระผูกพันไปข้างหน้านี้จะทำให้หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับ 42%ต่อ GDP ในปัจจุบัน จะเพิ่มเป็น 47.30% ในปี 2564

นโยบายการคลังและงบประมาณในหลายปีมานี้มีลักษณะหลงทิศผิดทางและเป็นผลเสียทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การตั้งงบประมาณในปี 2562 และการใช้จ่ายงบประมาณในระยะหลังนี้ยิ่งมีลักษณะเป็นการทิ้งทวนเพื่อประโยชน์ทางการเมืองจากฐานของรัฐบาลคือกองทัพกับข้าราชการและเพื่อการหาเสียงต่อประชาชนโดยตรงอีกด้วย

“เมื่อพรรคไทยรักษาชาติเป็นรัฐบาล เราจะเปลี่ยนนโยบายการคลังและงบประมาณเสียใหม่ โดยจะลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมลงให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการป้องกันประเทศและสภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ขยายโอกาสในภาคส่วนต่างๆ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นี่ไม่ใช่การที่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองล้ำเส้นกองทัพ แต่เป็นภาระหน้าที่โดยชอบในระบอบประชาธิปไตย ที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไปในอารยประเทศ นายจาตุรนต์ ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัว