โค้งสุดท้าย สนช.เล็งผ่าน กม. 100 ฉบับ “พรเพชร” แนะปม 150 วัน ให้ กกต.ชงศาล รธน.ชี้ชัด

แฟ้มภาพ

“พรเพชร” เล็งโค้งสุดท้าย สนช. ผ่านกฎหมาย 100 ฉบับ ยังไม่จบปม 150 วัน ชี้ช่องขัดแย้งอีก แนะ กกต.ชงศาล รธน.ชี้ชัด

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงแนวทางการพิจารณากฎหมายของ สนช. หลังมีประกาศเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ว่าระหว่างเดือน ธันวาคม 61 – มกราคมนี้ มีร่างกฎหมายส่งมาค้างการพิจารณาในวาระ 2-3 ประมาณ 100 ฉบับ จึงให้ กมธ.เร่งรัดการพิจารณาอย่างรอบคอบให้แล้วเสร็จ โดยไม่มีข้อผิดพลาด คาดว่าที่ประชุม สนช.จะพิจารณาแล้วเสร็จเกือบ 100 ฉบับ น่าจะตกพิจารณาสัปดาห์ละ 10-15 ฉบับ แม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดให้ สนช.อยู่ทำหน้าที่จนถึงวันเปิดประชุมสภาครั้งแรก แต่ด้วยมารยาทและความเหมาะสม สนช.ก็จะหยุดพิจารณากฎหมาย ก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม หนึ่งสัปดาห์ เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน อาทิ มีพันธสัญญาระหว่างประเทศที่ต้องพิจารณา มีเหตุร้ายแรงที่รัฐบาลจำเป็นต้องตรา พ.ร.ก.เป็นต้น ระหว่างนี้ก็ กมธ.สนช.ก็จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนศึกษารายงาน เพื่อส่งต่อให้สมาชิกสภาชุดใหม่ดำเนินการต่อไป

นายพรเพชรกล่าว ถึงข้อถกเถียงถึงการจัดเลือกตั้งและรับรองผลการเลือกตั้ง ภายใน 150 วัน ที่จะครบในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ว่า ในฐานะ สนช.ที่พิจารณารัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีข้อห่วงกังวลว่า เมื่อ กกต.ประกาศให้เลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม แต่ยังมีนักกฎหมายบางฝ่ายตีความว่า ต้องรับรองผลภายใน 150 วัน โดยหยิบยกมาตราหนึ่งในรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาล ที่ระบุว่า จัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จนั้น ทำให้สังคมเกิดความสับสน และจะกลายเป็นกับดัก เพราะตน กมธ.ของ สนช.และ กรธ.เห็นว่า นี่คือคนละเรื่องกัน เนื่องจากมาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญ ระบุชัดว่า กกต.ต้องรับรองผลการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง

“หากลองคิดกลับ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาภายในกรอบ 150 วันแล้ว มีพรรคการเมืองไปร้องเรียนต่อ กกต.ว่า มีการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ กกต.บอกว่า เวลาหมดแล้ว ฝ่ายที่เดือนร้อนจะได้รับการเยียวยาอย่างไร ดังนั้น ปัญหานี้ กกต.จึงควรสร้างความชัดเจน หากไม่รู้ไม่แน่ใจ ก็ต้องส่งคำร้องถามไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะผมมองว่าการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเร็ว โดยเกรงเรื่องกรอบเวลา 150 วัน ไม่ใช่เหตุผลและอำนาจไปสู่ความขัดแย้งได้เช่นกัน” ประธาน สนช.กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์