เผยเบื้องหลังพี่ปลดน้อง “อัศวิน” ยันไร้ปมขัดแย้ง “อำนวย นิ่มมะโน” แต่ทุกอย่างเปลี่ยนได้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม.พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. เป็นรองผู้ว่าฯกทม. เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าตามที่ให้พล.ต.ท.อำนวย พ้นจากตำแหน่งนั้น ไม่ได้ทำให้การบริหารของ กทม.สะดุดแต่อย่างใด เนื่องจาก พล.ต.ท.ชินทัต เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในด้านการทำงานของกทม.เช่นกัน โดยการให้ พล.ต.ท.อำนวย พ้นจากตำแหน่ง ไม่ได้เกิดมาจากปัญหาส่วนตัว ทุกอย่างอยู่ในดุลยพินิจของตนว่าใครควรจะอยู่ทำงานหรือพ้นจากตำแหน่ง

เมื่อถามว่าการให้ พล.ต.ท.อำนวย ออกจากตำแหน่งนั้นเป็นคำสั่งการจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า “ไม่ได้เป็นคำสั่งจากใคร เป็นคำสั่งของผมซึ่งผมมีอำนาจที่จะเปลี่ยน และไม่จำเป็นต้องหารือกับนายกรัฐมนตรี เพราะผมบริหารหน่วยงานต่างๆ มาเยอะแยะแล้ว อะไรที่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผมจะทำ ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะมีลับลมคมใน หรือเลือกที่รักมักที่ชัง ทุกอย่างเป็นเหตุและผลในการปฎิบัติ และไม่ต้องห่วงในการทำงานเพราะคลื่นลูกใหม่มาแทนคลื่นลูกเก่า อาจจะแรงกว่าก็ได้มันคงไม่เฉากว่าแน่นอน”

เมื่อถามถึงการแบ่งงานของรองผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การแบ่งงานตนจะมอบหมายให้พล.ต.ท.ชินทัต เข้ามาดูแลในส่วนงานของ พล.ต.ท.อำนวยที่ได้รับมอบหมายทั้งหมด อาทิ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักกฎหมายและคดี กองประชาสัมพันธ์ ซึ่งพล.ต.ท.ชินทัต ได้ร่วมทำงานพร้อมกับพล.ต.ท.อำนวย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้สั่งการให้เร่งรัดในส่วนงานทุกเรื่องตามนโยบายผลักดันทันใจ แก้ไขทันที

เมื่อถามอีกว่าพล.ต.ท.อำนวย รู้ล่วงหน้าหรือไม่ว่าจะให้พ้นจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า “ผมรู้แต่พล.ต.ท.อำนวยคงไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน อาจจะรู้ประมาณ 4-5 โมง ซึ่งยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง เพราะ พล.ต.ท.อำนวย เป็นลูกน้องตนมาตลอดเกือบทั้งชีวิต ตั้งแต่ครั้งเป็นนักเรียนนายร้อยร่วมกันก็ได้เป็นรุ่นน้องของผม ซึ่งก็ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอด ไม่อยากให้คิดว่ามีปัญหาขัดแย้งกันแต่เป็นการเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมและเหตุผลส่วนตัวของพล.ต.ท.อำนวย คือ การติดภารกิจอื่นค่อนข้างเยอะ ซึ่งตั้งแต่ได้ลงนามในคำสั่งยังตนยังไม่ได้พบกับพล.ต.ท.อำนวย เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรเพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนกันได้ ยกเว้นเรื่องเมียที่เปลี่ยนไม่ได้”

ด้านแหล่งข่าวจากศาลาว่าการกทม. เปิดเผยว่า สาเหตุที่พล.ต.อ.อัศวิน ให้พล.ต.ท.อำนวย พ้นจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.นั้น อาจเกิดปัญหาความขัดแย้งในการทำงานหลายเรื่อง อาทิ ปัญหาการลงนามขอจัดสรรงบประมาณจากสภากทม.เพื่อซ่อมรถดับเพลิงจำนวน 176 คัน ซึ่งเป็นรถดับเพลิงล็อตแรกที่กทม.ได้นำออกจากบริษัทเทพยนต์ แอโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด ที่อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 โดยพล.ต.ท.อำนวย ไม่ยอมลงนามในการเสนอขอจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเพื่อให้สภากทม.พิจารณา เนื่องจากเป็นงบประมาณผูกพัน ที่เกี่ยวเนื่องกับการซ่อมรถดับเพลิงอีกจำนวน 139 คัน เกรงว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง ขณะที่พล.ต.อ.อัศวิน ก็รอให้ พล.ต.ท.อำนวย ลงนาม เพราะหากไม่ดำเนินการ ทางสภา กทม.จะตัดงบในการซ่อมแซมรถดับเพลิงทั้งหมด และได้กล่าวกับพล.ต.ท.อำนวย ว่า “ถ้าไม่ยอมเซ็นจะเซ็นเอง” กระทั่งช่วงค่ำ พล.ต.ท.อำนวย ได้เซ็นอนุมัติเอกสารดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้มีปัญหาเรื่องการร่างกฎหมายลูกหรือระเบียบการให้รางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแส ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่ถูกท้วงติงว่า ไม่มีการทำกฎหมายลูกมารองรับ ทำให้กระบวนการร่างระเบียบล่าช้า รวมถึงเรื่องการบริหารงานของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ที่ไม่มีความรู้ ความเช้าใจ หรือความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว ทำให้การทำงานไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบาย กทม. เช่น การเสนอให้ยกเลิกโครงการเดินรถบีอาร์ที

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า พล.ต.ท.อำนวย เป็นผู้ที่มีบุคลิกเป็นตัวของตัวเองสูง มีการบริหารงานเพียงสั่ง แต่ไม่ได้ศึกษาถึงรายละเอียดและความเป็นไปได้ในเรื่องที่สั่งหรือเสนอแนะในที่ประชุมต่าง ๆ ทำให้พล.ต.อ.อัศวิน ต้องออกรับหน้าแทนหลายครั้ง ประกอบกับพล.ต.ท.อำนวย ต้องปฎิบัติภารกิจอื่นจำนวนมาก ส่งผลให้มีเวลาทำงานในกทม.น้อย กระทั่งพล.ต.อ.อัศวิน ได้ลงนามคำสั่งให้ออกจากตำแหน่ง โดยที่พล.ต.ท.อำนวย เพิ่งทราบข่าวเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมประมาณ 4-5 โมง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์