“บิ๊กตู่” ไม่ปรับ ครม. แม้ 4 รมต.ลาออก แย้มอนาคต ถ้าอยู่ก็อยู่ในบัญชีนายกฯ ไม่เป็นนายกฯ คนนอก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีที่ 4 แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ว่า คงไม่มีปัญหา รัฐบาลทำงานต่อไปได้ 3 กระทรวงมีรัฐมนตรีช่วยว่าการทำหน้าที่อยู่แล้ว ถ้ากระทรวงใดไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการต้องไปดูระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำหนดอยู่แล้วว่าถ้ารัฐมนตรีไม่อยู่ในตำแหน่งจะให้รัฐมนตรีคนใดรักษาการแทน แต่ถ้าหลุดจากนั้นไปจะต้องให้รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ กำกับดูแล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของนายกอบศักดิ์ มีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงนายสมคิดที่จะต้องช่วยดูอยู่แล้ว เพราะงานของนายกอบศักดิ์เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน และ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งนายสมคิดจะดูให้ในเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมมีนายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรมดูแล ส่วนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อนายสุวิทย์ไม่อยู่ก็จะมีนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดูแล ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็มี นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ รักษาการแทนเช่นเดียวกัน ถ้าหากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ยังมีรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจกำกับดูแล จึงไม่น่ามีปัญหาการทำงาน

“ในช่วงเช้า 4 รัฐมนตรีมาพบผม ขอลาออกทำงานการเมือง ผมก็ขัดข้องไม่ได้ แม้ผมจะเสียดายมากน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะที่ผ่านมาช่วยผมทำงานมานานพอสมควรและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายๆ เรื่อง อย่างไรก็ตามมีกลไกในแต่ละกระทรวงที่จะช่วยทำงานหรือกำกับดูแลอยู่แล้ว อย่ากังวล ยังทำงานต่อไปได้ ไม่มีการปรับครม.ในช่วงนี้แน่นอน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการตัดสินใจทางการเมืองของตนนั้น ต้องรอพรรคการเมืองมาเชิญตนก่อน เมื่อเชิญแล้วต้องนำนโยบายเขามาศึกษาว่านโยบายเป็นไปได้อย่างไร แต่ละนโยบายตนรับได้หรือไม่ ในเมื่อทำมา 4-5 ปีพอจะรู้บ้างว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ทำได้หรือไม่ได้ เพราะตนศึกษากฎหมายทุกตัวที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป

“เมื่อเขามาเชิญผมขอเวลาสักนิดในการพิจารณาว่าควรจะอยู่หรือไม่อยู่ ทำต่อไม่ทำต่อ ยังมีเวลาให้ตัดสินใจ เพราะการเสนอชื่อนายกฯ ในช่วง 4-8 ก.พ.ก็คงรู้กันตอนนั้นว่าอยู่ไม่อยู่ อย่าเร่งรัดมากนักผมมากนัก ในเรื่องบทบาทของผม ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ช่วยไปให้หารือฝ่ายกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เกิดความชัดเจน เช่น การเยี่ยมประชาชน การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ การจัดรายการทุกวันศุกร์ การเปิดเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม เพราะผมต้องรอบคอบในการตัดสินใจ ถ้าหากผมไปตอบรับอยู่ในบัญชีรายชื่อจะต้องระวังอะไรหรือไม่ต้องหารือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเมืองที่จะทำผิดกฎหมาย และผมไม่จำเป็นต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะถ้าลาออกไปแล้วใครจะทำ กฎหมายไม่ให้ออกก็ไม่ออก อีกทั้งกฎหมายยังให้ คสช.อยู่จนมีรัฐบาลใหม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า คนในครอบครัวให้การสนับสนุนในการตัดสินใจทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนตัดสินใจบางอย่างก็ไม่ต้องถาม เพราะทุกคนเข้าใจสถานการณ์ของตนอยู่แล้วให้เกียรติซึ่งกันและกัน

เมื่อถามว่า จะอยู่ในบัญชีนายกฯ หรือ กับนายกฯ คนนอกสิ่งไหนเสี่ยงกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ถ้าอยู่ก็ต้องอยู่ในบัญชีนายกฯ ไม่มีอย่างอื่น เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวจะไปนายกฯ คนใน คนนอก วุ่นวายไปหมด ถ้าอยู่ก็อยู่ก็อยู่ในบัญชีนายกฯ”