“อภิสิทธิ์” ชวนปชช.ออกไปใช้สิทธิ์ 24 มี.ค. ตอกกลับภูมิใจไทย อาจทำคนไทยกินข้าวแพง

“อภิสิทธิ์” ลุยหาเสียงสวนธนบุรีรมย์ ชวน ปชช. ออกไปใช้สิทธิ์ 24 มี.ค.นี้ ตอกกลับ “ภูมิใจไทย” ยัน นโยบาย ปชป.ทำจากประสบการณ์ ย้อนถาม เอาแนวคิด “อ้อย-น้ำตาล” มาใช้กับนโยบายข้าว ต้องการให้คนไทยกินข้าวแพงใช่หรือไม่

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายถวิล ไพรสณฑ์ ผู้สมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พร้อมคณะได้เดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนในสวนธนบุรีรมย์ เพื่อรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ยังได้ขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคปชป. และ นายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 12 เขตเลือกตั้งที่ 24 (เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ) เพื่อเดินหน้านโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ” ซึ่งการเดินรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ มี พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ เขตบางบอน-หนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) และนายสากล ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน ร่วมเดินรณรงค์ขอคะแนนเสียงสนับสนุนช่วยนายสาทรด้วย จากนั้นนายอภิสิทธิ์และคณะได้ขึ้นรถแห่หาเสียง ไปยังตลาดใหม่ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61 เพื่อเดินรณรงค์พบปะทักทาย แม่ค้า พ่อค้าประชาชนในตลาดฯ โดยรถแห่รณรงค์หาเสียงของนายสาทรประกาศข้อความว่า

“หนึ่งเสียงของท่าน จะเป็นพลังบริสุทธิ์เพื่อประชาธิปไตย โปรดเลือกเบอร์ 12 สาทร ม่วงศิริ”

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตทุ่งครุ ว่ากระแสการตอบรับพรรคฯ ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนมีความตั้งใจอยากให้ประเทศเดินหน้าโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง อยากให้แก้ไขให้ตรงจุด ขณะเดียวกันประชาชนก็อยากมีความมั่นใจว่าการเมืองจะต้องเดินหน้าไปอย่างสุจริต เพราะฉะนั้นสิ่งที่ปชป.พยายามนำเสนอ คือประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริตด้วยนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนทุกพื้นที่เป็นอย่างดี

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปราศรัยว่ามีนโยบายเรื่องข้าวดีกว่าพรรคปชป. มีความเห็นเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กลไกลการทำงานของพรรคปชป.กับพรรคภท.มีความแตกต่างกัน อย่างเรื่องข้าวพรรคปชป.ทำนโยบายข้าวจากประสบการณ์ โดยใช้นโยบายประกันรายได้ ถือว่าประสบผลสำเร็จมาระดับหนึ่ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีการปรับปรุงยกระดับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เป็นนโยบายที่พิสูจน์แล้วว่าดำเนินการไปแล้วระบบการเงิน การคลังไม่เสียหาย และที่สำคัญไม่มีการทุจริต และกลไกการขายข้าวไม่พัง ข้าวไทยยังสามารถแข่งขัน และส่งออกได้เป็นอย่างดี นี่เป็นแนวทางของปชป.

“พรรคภท.ผมเข้าใจว่าจะเอาแนวคิดเรื่องระบบอ้อย น้ำตาลมาใช้กับข้าว ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ความจริงแล้วตลาดอ้อย น้ำตาล กับตลาดข้าวมีความแตกต่างกัน ที่ผ่านมาระบบอ้อย น้ำตาล สามารถทำได้ เพราะสามารถตรึงราคาน้ำตาลในราคาที่สูง จะเห็นได้ว่าทันทีที่มีการลอยตัวราคาน้ำตาล และน้ำตาลลดลงราคาอ้อยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นคำถามก็คือว่า ถ้าเอาระบบอ้อย น้ำตาล มาใช้กับข้าว ก็แปลว่าให้คนไทยกินข้าวแพงใช่หรือไม่ และการป้อนอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาล มีโรงงานน้อย มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ ในขณะที่การค้าขาย ข้าวมีหลายประเภท โรงสีมีจำนวนมาก ตรงนี้เป็นปัญหาที่จะทำได้ยาก เรื่องนี้สามารถฟังจากนักวิชาการว่าสามารถเป็นไปได้จริงหรือ ที่จะนำระบบอ้อยน้ำตาลมาใช้กับพืชเช่นข้าว” นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์