“บิ๊กตู่” ลั่นอยากได้นายกฯ แบบไหน ก็ไปเลือกตั้งกันมา ย้ำรบ.นี้ดูแลคนทั้งประเทศ

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ โดยจุดแรกนายกฯ เดินทางมายังลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือเกาะสมุย ต.หน้าทอน อ.เกาะสมุย โดยกล่าวกับประชาชนช่วงหนึ่งระบุว่า

วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงแล้วต้องคิดให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ถ้าคิดแบบเดิมติดอยู่แบบเดิม ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เหมือนอย่างปัจจุบันทุกคนอยากเขียนอยากแสดงความคิดเห็น จริงบ้างไม่จริงบ้างก็โพสต์ข้อความ จริงหรือไม่จริงไม่รู้โพสต์ไปแล้ว สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็สร้างความกดดัน ทำให้การทำงานยากขึ้น อะไรก็ไม่ได้ การเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องให้คนในพื้นที่ เพราะถ้าให้คนนอกพื้นที่มาทำก็จะไปต่อไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้จริงถึงความเดือดร้อน

“รัฐบาลนี้ไม่ใช่เลือกข้างใคร แล้วไม่ต้องการหรือ ไม่ต้องการการนำแบบนี้ในวันข้างหน้าหรือ ใครจะมาเป็นก็ได้แต่ให้ทำอย่างที่ผมทำ คือไม่เลือกว่าเป็นพื้นที่ของใคร เพราะทั้งหมดคือคนไทยทั้งประเทศ อย่าไปแยกแยะคนนั้นคนนี้ ผมทำแบบนั้นไม่ได้ วันนี้หลายโครงการเกิดขึ้น งบประมาณที่ใช้จ่ายก็ไม่ได้มากมายกว่าเดิมมากนัก ทุกอย่างยังรักษาสภาพคล่องของรัฐบาล ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับประเทศเลย

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งข้อสังเกตนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองหนึ่งที่ระบุว่า เราจะควบคุมช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง รัฐบาลจะรับซื้อข้าวทุกเม็ดจากชาวนานั้น จะใช้งบประมาณจากไหนมารับซื้อในราคาสูง แต่ละปีชาวนาผลิตข้าวได้จำนวนกี่ล้านตัน จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ จะเอาคลังที่ไหนไปเก็บข้าว ซื้อมาแล้วจะบวกให้อีก 10-15 เปอร์เซ็นเป็นราคาขาย ที่ผ่านมาซื้อแล้วก็มาเก็บในคลัง เน่าอยู่แบบนั้นเพราะขายใครไม่ได้ คิดแบบนี้ไม่ได้ ตนไม่ได้ว่าใครแต่ก็ต้องสอนวิธีคิดใหม่ ต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ รัฐบาลทำเองทั้งหมดไม่ได้และไม่มีใครในโลกนี้ทำกันฟังดูเหมือนดี

“ผมพูดตรงกลาง ไม่ว่าใครพรรคไหนจะออกมาพูดเช่นนี้ผมก็ทักท้วงทั้งหมด รวมถึงพรรคที่เอาชื่อผมไปขึ้นอยู่ ผมเป็นธรรมนะแต่เขาคงจะตั้งใจ แต่ไม่พูดดีกว่า ไม่พูดไม่เกี่ยว วันนี้ผมมาตรวจราชการแต่ต้องนึกถึงหลักความเป็นจริง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เราต้องอยู่กันด้วยความรัก ความสามัคคี วันนี้เรามีปัญหามากมายเราต้องแก้กันด้วยกฎหมาย ทยอยแก้ไข ถ้าไม่ใช้กฎหมายเรื่องก็จะทับซ้อนเป็นปัญหาหมักหมม ยืนยันว่านายกฯไม่ได้ฟังข้อมูลจากราชการเพียงฝ่ายเดียว ผมไม่ฉลาดน้อยแบบนั้น วันนี้ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ อะไรก็อยู่ที่นายกฯ ทั้งหมด เพราะฉะนั้นนายกฯ คือคนที่สำคัญที่สุด อยากได้นายกฯอย่างไรก็ไปเลือกตั้งกันมา ไม่ต้องมายุ่งกับผม เพราะเราต้องดูแลคนทั้งประเทศ รักใครชอบใครก็เลือกคนนั้น แต่ต้องนึกถึงบ้านเมืองด้วยว่าจะอยู่ต่อไปอย่างไร วันนี้ผมมาด้วยความรัก ถ้าไม่รักก็ไม่มาแม้เครื่องบินเหลือเพียง 2 เครื่องยนต์ก็จะมา แต่โชคดีเป็นเครื่องบินทหารมี 4 ใบพัด ดับไปใบหนึ่ง ถ้าบินต่อก็จะเหลือ 2 ใบ 2 เครื่อง แต่ก็ยังบินได้มันก็แปลก แต่ถ้าจะบินต่อมันก็เสี่ยงไปนิดจึงต้องกลับมาเปลี่ยน วันนี้รักทุกคน อย่าเกลียดชังฉันนักเลย เพราะถ้าตามใจมากก็จะเละเทะ ทุกอย่างต้องมีการหารือและแก้ปัญหา”

 

ที่มา : มติชนออนไลน์