“อภิสิทธิ์” ช่วยลูกพรรคหาเสียง กทม. ชี้ “บิ๊กตู่” มีส่วนได้-เสีย ส.ว. 250 คนชัดเจน

เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) พร้อมคณะแกนนำพรรค อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีต ผู้ว่าราชการ กทม. นายเจริญ คันธวงศ์ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส. พรรค ปชป. และคณะ ลงพื้นที่ทักทายพี่น้องประชาชนในสวนสุขภาพสมาคมแต้จิว แขวงยานนาวา เขตสาทร เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรค ปชป. และ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เบอร์ 4 โดยนายอภิสิทธิ์ได้รับการต้อนรับจากสมาคมผู้สูงอายุที่มาออกกำลังกายในยามเช้า เข้ามาทักทาย ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูป อาทิ ประธานผู้สูงอายุกลุ่มฟ้าใส ได้มอบช่อดอกเฟื่องฟ้าสีชมพูให้เป็นกำลังใจกับคณะของนายอภิสิทธิ์ด้วย จากนั้น นายอภิสิทธิ์ และคณะได้ขึ้นรถแห่รณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม จากสมาคมแต้จิ๋วไปยังตลาดกิตติ และลงเดินทักทายประชาชนในตลาดเช้ากิตติ ในซอยเซ็นหลุยส์ และตลาดสะพานสอง

นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังการเดินพบปะพี่น้องประชาชนในสวนสุขภาพและตลาดเช้าวันนี้ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจพรรคปชป. หลังจากลงพื้นที่ไปหลายจังหวัด ก็รับรู้ถึงความผูกพันของพี่น้องประชาชนที่มีต่อพรรคปชป. ล่าสุดไปที่จังหวัดสุโขทัย พี่น้องชาวสุโขทัยก็ออกมาให้การต้อนรับ และให้กำลังใจ ทำให้พรรคฯมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเริ่มกังวลเรื่อง ส.ว. 250 คน จะรวมกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ชิงจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้แสดงจุดยืนตั้งแต่ต้นว่าแม้สมาชิกวุฒิสภาจะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่น เพื่อที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้ประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับ สมาชิกวุฒิสภาก็ควรจะดูเจตนารมย์ของประชาชน ตนเรียกร้องทุกพรรคการเมืองว่าเราควรจะมาหากระบวนการภายในสภาผู้แทนราษฎรให้ชัดเจนว่าเสียงข้างมากของ ส.ส. สนับสนุนใครเป็นรัฐบาล สนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าทุกพรรคทำอย่างนี้ก็จะทำให้การเลือกตั้งสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

เมื่อถามต่อว่า เกรงว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดหรือไม่ เมื่อกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากจะบอกกับคนที่คิดจะทำอย่างอื่นว่า อย่าทำเลย ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ให้ชาวโลกมีความมั่นใจในกระบวนการประชาธิปไตยของไทย ส.ว. ตามโครงสร้างรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ต้องการให้มีความเป็นกลาง นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นในอดีตปชป.เป็นฝ่ายที่ทักท้วง เวลาที่มีพรรคการเมือง หรือ รัฐบาลใด พยายามที่จะเข้าไปครอบงำ ส.ว. ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เห็นว่านี่เป็นหลักการที่ถูกต้องท่านก็ควรจะสร้างความมั่นใจในฐานะที่เป็นรัฐบาลขณะนี้ และในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าต้องไม่เข้าไปครอบงำวุฒิสภา

“ความจริงแล้วควรจะพูดว่าให้วุฒิสมาชิกสนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาล หากพูดอย่างนี้เชื่อว่าประชาชนทุกฝ่ายจะสบายใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านเป็นหัวหน้า คสช. มีส่วนในการแต่งตั้งวุฒิสภา มีส่วนได้เสียคือวุฒิสภาสามารถกลับมาเลือกท่านได้ อันนี้เป็นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้หมายความว่าคนที่มีปัญหานี้ เป็นคนดี หรือคนไม่ดี แต่เป็นปัญหาที่โดยหลักสากล หลักธรรมาภิบาล ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะจะเกิดคำถามตลอดเวลาว่าการตัดสินใจของแต่ละฝ่ายมีผลประโยชน์อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะฉะนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้มีความชัดเจนก็ควรจะประกาศหลักการเช่นเดียวกับที่พรรคการเมืองต่างๆ ประกาศว่าให้ ส.ว. สนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนเลือกมา และสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้” หัวหน้า ปชป.กล่าว

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่าในส่วนของพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลจะไม่ชิงจัดตั้งรัฐบาลกลับ ส.ว. 250 คน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอบว่าเราไปตอบแทนพรรคการเมืองเหล่านั้นไม่ได้ แต่คิดว่าในขณะนี้ทุกเวทีเราก็จะสอบถามเพราะเราคิดว่าการที่จะทำให้การเลือกตั้งไปเป็นไปแบบมาตรฐานสากลน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย สำหรับปัญหาเศรษฐกิจวันนี้

 

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์