พงศ์เทพ จี้กกต.ชี้แจง พปชร.เตรียมดึง หน.คสช. แคนดิเดตนายกฯ ช่วยหาเสียง เข้าข่ายจนท.รัฐชัดเจน

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 13 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่พรรคพลังประชารัฐมีความพยายามจะดึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไปช่วยหาเสียงนั้น ปัญหาสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรกลับไปทบทวน เนื่องจากมีข้อโต้แย้งเพราะขาดคุณสมบัติจากลักษณะข้อห้ามในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ล่าสุด มีการตั้งประเด็นว่า ขณะที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช.ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญหากเข้าข่ายนี้จะไม่มีสิทธิถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ เนื่องจากหัวหน้า คสช.รับค่าตอบแทนเท่ากับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สามารถใช้ได้ทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ จากมาตรา 44 และที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยว่าผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น ต้องถามว่าหัวหน้า คสช.ไม่เข้าข่ายได้อย่างไร เรื่องนี้ กกต.ต้องมีคำตอบให้ชัดเจนโดยเร็ว

“สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่บางพรรคการเมืองนำไปหาเสียง ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาจริง หากฝืนใช้ต่อไปจะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าไม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ขณะที่ คสช.เมื่อมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว ยังมีอำนาจเข้าไปควบคุมองค์กรอิสระจากการใช้มาตรา 44 โดยใช้อำนาจปลด กกต.หรือ ป.ป.ช.ได้ทันที และบุคคลที่เข้าไปทำหน้าที่องค์กรอิสระทั้งหลายก็มาจาก คสช.เห็นชอบโดยผ่านกลไกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ทำงานในลักษณะเปิดปุ๊บติดปั๊บ บางเรื่องผ่าน 3 วาระรวดโดยไม่ได้ฟังความเห็นจากส่วนอื่น ที่สำคัญการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมายังต้องใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาบางประการ แสดงว่าการใช้กฎหมายตามปกติมีปัญหาใช่หรือไม่ ดังนั้น หากฝืนใช้รัฐธรรมนูญต่อไปก็จะสร้างปัญหาไม่จบ หากเกิดวิกฤต นายมีชัย ฤชุพันธ์ 1 ในแม่น้ำ 5 สายจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่พรรคการเมืองที่หาเสียงในขณะนี้ก็เห็นปัญหา แต่จะใช้วิธีการแก้ไขอย่างไร ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก ดังนั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือของคนไทยทั้งประเทศ” นายพงศ์เทพ กล่าว

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์