การเมือง

สุเทพ : จี้จุดตายระบอบทักษิณ ดีล 270 เสียง โหวต “บิ๊กตู่” จัดตั้งรัฐบาล

สัมภาษณ์พิเศษ/ปิยะ สารสุวรรณ

 

ปี 2556 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ยืนอยู่แถวหน้ามวลมหาประชาชนนับล้าน ในนามเลขาธิการ กปปส. ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-รัฐบาลผู้น้องของ “ทักษิณ ชินวัตร” ประกาศเป็นศัตรู-คู่แค้นกับระบอบทักษิณ

ปี 2562 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็น 1 ในผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) เอาชีวิตเป็นเดิมพัน สานต่อเจตนารมณ์มวลมหาประชาชนกวาดล้างระบอบทักษิณออกจากกระดานการเมือง

ผลตอบรับเดินคารวะแผ่นดิน?

คนตอบรับดีมาก ในเมืองและตัวอำเภอ 80% แต่ที่ไม่ได้ดั่งใจ คือ หนึ่ง เราไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ลึกพอถึงตำบล ถึงหมู่บ้าน สอง การประชาสัมพันธ์ของพรรคตามช่องทางสื่อมวลชนไปถึงประชาชนน้อย

เราพยายามใช้การปราศรัยและผู้สมัคร ส.ส.ออกมาเดิน เพื่อบอกกับประชาชนว่า เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค เราจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจชาวบ้าน ทำให้รายได้ดีขึ้น รายจ่ายลดลง เกษตรกรขายได้กำไร 100%

ต้องประกาศว่าต้นทุนเท่าไหร่ เช่น ราคามันสำปะหลังต้นทุนกิโลกรัมละ 1.50 บาท เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องประกาศราคาขายว่า ราคาเป้าหมาย คือ 3 บาท ต้นทุนข้าวนาปี 6,000 บาท ราคาเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการให้เกษตรกรขายได้ คือ 12,000 บาท ทุกคนเสมอภาคกัน กำหนดราคาเป้าหมายสินค้าเกษตรทุกชนิด เกษตรกรทุกประเภท

ต่อไปนี้ต้องเป็นการเกษตรแบบวางแผนเป็นระบบ ครบวงจร ทำสำมะโนเกษตร ประกาศโซนนิ่ง ที่แล้วมาเป็นเกษตรตามยถากรรม ดังนั้นจะผลิตอะไร ที่ไหน เท่าไหร่ ต้องให้พอดีกับกระบวนการแปรรูป และพอดีกับความต้องการของตลาด

ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกรรายย่อย ต้องกำหนดเส้นมาตรฐานแห่งความพอเพียง เช่น 15,000 บาท รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลให้สามารถอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ไม่ใช่เอาเงินไปแจก

รัฐบาลต้องทำโครงการพิเศษ อบรม ฝึกอาชีพ หางานให้ทำงานในบ้าน ไม่ใช่แค่ทำโปรเจ็กต์ เพื่อไปสู่เส้นมาตรฐานของความมั่นคงให้ได้ คือ มีรายได้ 25,000 บาท ชีวิตมีความสุขขึ้น

ปฏิรูประบบการศึกษา เพราะต้องการให้ลูกหลานของประชาชนได้เรียนหนังสือฟรีจนจบอาชีวะ จบเทคนิคและมีงานทำ เยาวชน 80% ต้องได้เรียนอาชีวะ เป็นบุคลากรที่ตลาดต้องการ

พรรคเราประกาศว่า จะยึดมั่นในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชา พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เดินตามรอยพระยุคลบาท เลิกกันเสียที ระบบลด แลก แจก แถม ต้องพึ่งพิงตัวเอง รัฐบาลจัดหาเครื่องมือให้

ส่งเสริมการเกษตรและปศุสัตว์ออร์แกนิก รัฐบาลสนับสนุนเรื่องการตลาด นี่คือโอกาส วันนี้ต้องจ้างปราชญ์ชาวบ้านมาเป็นเจ้าหน้าที่ส่งเสริมอาชีพ ฝึกอบรม กฎหมายต้องแก้ได้ ต้องปฏิรูป เปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศ

วันนี้เป้าหมาย คือ ต้องทำประชาชนให้รอด วันนี้คิดอ่านเรื่องเศรษฐกิจมหภาค จีดีพีเท่านั้น เท่านี้ 4.5, 4.8% แต่คนจนจะไปรอดเหรอ เราจึงต้องเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาทำอย่างจริงจังเพื่อให้อยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

เป้าหมายเป็นพรรครัฐบาล?

ถูกต้อง ต้องต่อสู้ให้ได้เป็นรัฐบาล หรืออย่างน้อยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล พรรคถึงบอกใครมาขอให้เราร่วมรัฐบาล เราขอจองกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเกษตรฯ เพราะถ้าเกษตรกรยากจน ประเทศไปไม่ได้

ผมบอกตรง ๆ หนึ่ง เราไม่ร่วมมือกับระบอบทักษิณ ไม่ยอมให้ระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจในประเทศไทย มาเป็นรัฐบาลครึ่งหนึ่งก็ไม่เอา เรารู้ว่าระบอบนี้ทำร้ายประเทศ ทำร้ายคนไทย

วันนี้การเลือกตั้งในสายตาของเราเป็นพวกเอาทักษิณกับไม่เอาทักษิณ ไอ้ที่สร้างวาทกรรมว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการเนี่ย มันหลอก

พรรคเครือข่ายทักษิณโฆษณาว่า อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องสู้กับฝ่ายเผด็จการ เพราะงั้นถ้าพรรคไหนโง่ ไปประกาศชูธงประชาธิปไตย ก็แสดงว่าเตรียมตัวที่จะร่วมกับพรรคทักษิณ

การเมืองสำหรับเราวันนี้ คือ หนึ่ง ประเทศชาติจะได้อะไรหลังเลือกตั้ง จะดีขึ้นอย่างไร เราจะปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างไร เราจะได้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย สอง ประชาชนจะได้อะไร ปัญหาชาวบ้านจะได้รับการแก้ไข

เรามีโอกาสที่จะต้องร่วมมือกับ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น เพราะ หนึ่ง เราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เอาทักษิณ สอง พล.อ.ประยุทธ์ร่างรัฐธรรมนูญวางแนวทางการปฏิรูปประเทศ สาม พล.อ.ประยุทธ์สุจริต

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับกับเราได้หรือไม่ว่า การทำงานการเมืองข้างหน้า จุดสำคัญ คือ ประชาชน ต้องเอาฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชนเป็นตัวตั้ง

เข้าใกล้เส้นชัย ?

ใกล้แล้ว แต่ต้องทำงานหนัก เลือกตั้งคราวนี้ต้องสกัดกั้นให้ได้ เลือกตั้งครั้งนี้ต้องชนะเด็ดขาด ให้มันกลายเป็นตัวประกอบในวงการเมือง ไม่ใช่เป็นตัวหลักที่มากำหนดอิทธิพลเหมือนคราวที่แล้ว แต่ต้องระวังนะ มันมีตัวร้ายตัวใหม่นะ อันนี้น่ากลัวมาก

จุดแตกดับระบอบทักษิณ ? 

ประชาชน ไม่มีอย่างอื่น ต้องประชาชน ต้องอาศัยพลังประชาชนเท่านั้น ล้มไม่ได้ถ้าประชาชนไม่ออกมา เหมือนปี”56-57

เพื่อไทยไม่ชนะเด็ดขาด ?

ส.ส.ในสภามี 500 คน ถ้าพรรคอย่างเราไม่เอาทักษิณ ต่อต้านทักษิณ มีจำนวนมากขึ้น ไอ้โน่นก็ลดลง มันก็ไม่สามารถรวบรวมกำลังได้ นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ต้องพูดความจริง

ยุบ-ไม่ยุบไทยรักษาชาติ ?

อันนั้นส่วนหนึ่ง แต่ไม่บังควรพูดและอยู่ในศาล แต่เราพูดขอให้ประชาชนครุ่นคิดพิจารณานะว่า มันต้องการกลับมามีอำนาจในประเทศไทยและไม่คำนึงว่าจะมีวิธีการอะไร แม้แต่วิธีการที่ไม่สมควร ไม่คำนึงว่าจะเสียหายต่อประเทศอย่างไรบ้าง

แตกแบงก์พันสำเร็จ-ล้มเหลว ?

เรายังประเมินไม่ได้ เพราะไม่มีเงินที่จะทำโพล เหมือนตอนชุมนุมเดินขบวน เราไม่มีฝ่ายเสนาธิการมาวางแผน เราไม่มีเครื่องทุ่นแรง เรามีแต่หัวใจ โทษนะ หัวใจกับส้นตีนน่ะ (หัวเราะ) วันนี้เราก็ทำอย่างนั้น

เสถียรภาพรัฐบาลใช้กี่เสียง ?

250 เสียง พูดกันตรง ๆ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ หนึ่ง เริ่มต้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีเสียงในสภาล่างอย่างน้อย 126 เสียง เพราะมีต้นทุนแล้ว 250 (ส.ว.) เท่ากับ 376 เสียง เกินครึ่งของรัฐสภา ลงคะแนนเสียงให้เป็นนายกฯ

พอเป็นนายกฯเสร็จก็ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ก็เรียกพรรค ก.มา มามั้ย คุณมีเงื่อนไขอะไร เรียกพรรค ข.มา เรียกพรรค ค.มา ผมเคยเป็นผู้จัดการรัฐบาล ผมทำเป็น รวมแล้วได้ 270 เสียง กฎหมายเข้าสภาเมื่อไรก็ผ่านหมด

ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ผมก็ต้องระวัง ไม่ให้ฝ่ายทักษิณรวบรวมพรรคการเมืองจนมีเสียงเกิน 251 เสียง ไม่งั้นจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาล เป็นนายกฯก็จริง แต่เสนอกฎหมายอะไรก็แพ้หมด

เนื้อเสียงของพรรครัฐบาล ?

วันนี้มีโอกาสที่คะแนนจะออกมาสูสีพรรคใหญ่ ๆ อาจจะมีสักพรรคที่หลุดเกิน 100 เสียง ที่เหลือไม่ถึง 100 เสียงและมีบางพรรคที่ลงมาระดับ 60-70 เสียง ถ้าพรรคใหญ่ได้ 100 เสียง 3 พรรคก็ได้ 300 เสียงแล้ว เหลืออีก 200 เสียง พรรคที่เหลือก็ต้องหารกัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่เขาจะรวมกันแล้วได้ 250 เสียงเป็นไปไม่ได้

ผมมองว่าพรรคทักษิณจะได้ไม่ถึง 250 เสียง เพราะผมหวังว่าไทยรักษาชาติไปไม่รอด ถึงหลุดก็เป็นรอยในใจประชาชน ประชาชนไม่โหวตให้ พอพรรคนี้แป้ก มันมีผลต่อกระบวนการพรรคเครือข่ายทักษิณ เท่ากับว่าเสียงลดไปเกือบครึ่งหนึ่ง

ประชาธิปัตย์เป็นเสียงที่สำคัญ ? 

ผมว่าประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยรวมกันยังไม่ถึง 250 เสียง แต่ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าโจมตีกัน

ผมไม่ต้องการโจมตีใคร และผมออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

เป็นเรื่องธรรมดาที่ยังมีคนที่ยังรักใคร่ในประชาธิปัตย์ แต่ผมไม่เว้นให้นะ ผมส่งคนลงสมัคร ส.ส. ส่ง 350 เขต แต่ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะก็ยังเป็นเพื่อนกัน แต่ในเรื่องทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ไม่สิ้นสุดทางเพื่อน ปชป. ?

อือ ผมไปหาดใหญ่ กินข้าวบ้านถาวร เสนเนียม ถาวรเกือบโดนไล่ออกจากพรรค ไปหาดใหญ่อีกรอบ ถาวรตามมากินข้าวกับผม ผมถามว่าไม่กลัวเหรอ ถาวรบอกว่า ผมได้ลงสมัครแล้ว (หัวเราะ)

ผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางของประชาธิปัตยที่เอาตัวเองไปยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย เพราะนี่สอดคล้องกับท่าทีของเพื่อไทยเลย มี 2 ครั้งที่ผมคิดว่า ประชาธิปัตย์วางจุดยืนของตัวเองตรงกันข้ามกับพวกผม หนึ่ง วันที่ประกาศจะเอาหรือไม่เอารัฐธรรมนูญ สอง ประกาศท่าที จุดยืนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยต้องสู้กับเผด็จการ ซึ่งเท่ากับประกาศตัวไปอยู่ข้างทักษิณเลย

ปชป.จุดยืนต่างจากพรรคทักษิณ?

ถ้าเขาประกาศว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วไอ้โน่นบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องสู้กับฝ่ายเผด็จการ แสดงว่าคุณไม่ต้องการร่วมมือกับฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ คุณกำลังสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์

พวกที่เป็นเพื่อนผม คิดแบบเดียวกับผม ถ้าคนที่คิดไม่เหมือนผมก็ไม่ใช่เพื่อนผมน่ะสิ ไม่คบกันอยู่แล้ว

ยืมมือเพื่อนช่วย ? 

ไม่รู้ ผมไม่เข้าไปยุ่งในพรรคเขา ผมยุ่งแต่พรรคของผม ไม่ไปแทรกแซง ผมไม่ใช่คนตั้งรัฐบาล ผมเป็นผู้จัดการรัฐบาลเมื่อปี”51 เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ผมเป็นคนนอก

ผมยืนยันว่า หนึ่ง ผมรักษาสัจจะเหมือนเดิม ผมไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ผมไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรค ตำแหน่งที่เขียนลอย ๆ เป็นเพียงเจ้าของร่วม ทำหน้าที่สมาชิกคนหนึ่ง ผู้ก่อตั้งพรรคคนหนึ่ง ออกแรง ผมวางตัวเองเป็นที่ปรึกษา เป็นโค้ช เป็นพี่เลี้ยง ผมมีประสบการณ์โชกโชน และผมจะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ในคณะรัฐบาล นี่เป็นจุดยืน เป็นสัจจะของผม

ผู้จัดการรัฐบาลกระดูกแข็ง ?

ไปได้ คุณคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์กระดูกไม่แข็งเหรอ กระดูกไม่แข็งจะอยู่มาได้อย่างไร 5 ปี คุณคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้การเมืองเหรอ 5 ปีที่ผ่านมาเรียนของจริงมาเลย

ประยุทธ์วันนี้กับประยุทธ์ก่อนที่จะเป็นนายกฯ เปลี่ยนไปเยอะแล้ว เมื่อก่อนอาจจะมีเหลี่ยมอยู่บ้าง ตอนนี้อาจจะกลมเลย (หัวเราะ) ถูกเจียระไนมาเยอะแล้ว

เพียงแต่ว่าเขามีวิถีชีวิตการทำงานเหมือนทหาร ต้องเชื่อฝ่ายเสนาธิการ สตาฟ วันนี้เป็นข้าราชการเสียส่วนใหญ่ ลอยตามน้ำไปเรื่อย ๆ แต่พอมาเป็นนายกฯ ต้องฟังพรรคการเมือง พรรคการเมืองก็ต้องฟังประชาชน เพราะฉะนั้นเขาไปรอดไม่ต้องห่วง

สถานการณ์หลังเลือกตั้ง ?

ผมมองโลกในแง่ดี สถานการณ์หลังการเลือกตั้งประเทศต้องราบรื่น ผมเชื่อเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์เชื่อ ภายใต้พระบารมีของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 บ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย

หัวใจในการเชื่อมั่น คือ พิสูจน์แล้วว่า ศูนย์รวมใจของคนไทยจริง ๆ คือ หนึ่ง สถาบันพระมหากษัตริย์ ประสบการณ์เกิดขึ้นจริงในชีวิตประชาชน สอง ประชาชนได้เรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วว่า ความวุ่นวายทั้งหลายที่ทำให้ประเทศชาติเสียเป็น 10 ปี เสียโอกาส ประชาชนไม่ยอมรับ

วันนี้ประชาชนมีความคิดที่จะทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมากขึ้น ดูทิศทางของพระมหากษัตริย์มากขึ้น แต่อีกพวกหนึ่งทำอะไรที่ไม่ดีไว้กับสถาบัน ทำแบบมีชั้นเชิง ทำแบบตรงไปตรงมาบ้าง คนอ่านออก คนเห็นสถานการณ์