“ชัชชาติ” ลงพื้นที่หัวหมาก วิ่ง-ปั่นจักรยาน-เข็นรถ พร้อมระบุ ชัดอยู่แล้ว พท.-ปชป.ไม่จับมือกัน ย้ำ พท.ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ใช่แค่ตัวคน แต่รวมถึงหลักการ-อุดมการณ์-นโยบายด้วย
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 12 มีนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่เขตหัวหมาก-พลับพลา พร้อมนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร กทม. เขตที่ 13 พรรค พท. โดยร่วมวิ่งออกกำลังกาย รำไทเก๊ก รำกระบอง ที่สวนสุขภาพการกีฬาแห่งประเทศไทย ก่อนจะปั่นจักรยานเข้าตลาดเสรี ราม 24 พร้อมกลับขึ้นรถเมล์สาย 71 เดินทางจากตลาดเสรีไปหมู่บ้านเยรูซาเลมเพื่อไปดูห้องสมุดชุมชนที่ต้องการการพัฒนา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปกับนายชัชชาติและผู้สมัครจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดินไปหมู่บ้านเยรูซาเลมมีรถเสียกลางสี่แยกไฟแดงแยกพระราม 9 นายชัชชาติและนายตรีรัตน์จึงวิ่งเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรซึ่งมีอยู่นายเดียวเข็นรถด้วย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นายชัชชาติกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะมีการปรับให้ตามสภาพเศรษฐกิจเพื่อให้ผู้สูงอายุดูแลตัวเองได้ นอกจากนี้ต้องดูแลเรื่องสุขภาพ โดยเน้นการป้องกันให้สุขภาพแข็งแรง ขณะเดียวกันจะมีนำพื้นที่ราชการบางส่วนมาปรับเป็นสวนสาธารณะให้มีพื้นที่ออกกำลังกายมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องเพื่อสัดส่วนการออมเพื่อระยะยาวให้มากขึ้น เพื่อให้มีทุนทรัพย์เพียงพอให้การใช้ชีวิตหลังเกษียณ นอกจากนี้อาจจะต้องเพิ่มแรงจูงใจภาคเอกชนด้วยนโยบายด้านภาษีเพื่อให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุที่เกษียณแล้ว แต่ยังมีกำลัง มีความรู้ความสามารถ นำประสบการณ์มาพัฒนาประเทศต่อได้
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุ หากได้เป็นนายกฯต่อจะทำให้ดีกว่าเดิม นายชัชชาติกล่าวว่า สิ่งที่ท่านพูดกับประชาชนมาโดยตลอด เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจเอง และท่านฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ต้องพูดให้ประชาชนเชื่อมั่น ซึ่งผ่านมา 5 ปี ซึ่งทั้งมีทั้งอำนาจและมาตรา 44 มีทุกอย่าง แต่เมื่อมาอยู่ในระบบรัฐสภาเชื่อว่าท่านจะทำงานยากขึ้น พร้อมเอาใจช่วยและให้กำลังใจ วันที่ระบุว่าหากทำไม่สำเร็จจะกลับบ้านไม่ได้นั้น ตนมองว่าเรื่องกลับบ้านได้ หรือไม่ได้เป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องใหญ่คือผลกระทบต่อประเทศ
เมื่อถามถึงตารางการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งสอดคล้องกับการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกฯพอดี นายชัชชาติกล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร ประชาชนก็เห็นอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องดีที่นายกฯจะได้ไปสัมผัสประชาชนได้รับรู้ถึงปัญหาอย่างแท้จริงว่าเศรษฐกิจฐานรากนั้นอ่อนแอ แต่สิ่งสำคัญคือขออย่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพราะจะทำให้ไม่สามารถทราบถึงปัญหาได้อย่างแท้จริง และจะได้เข้าใจว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมานี้มีปัญหาอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ สำหรับของสุดท้ายของพรรค พท.ก็ยังเร่งเดินหน้าพบปะกับประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งชี้แจงนโยบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่มีอะไรต้องกังวล
เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุจะไม่จับมือกับพรรค พท. นายชัชชาติกล่าวว่า หรือว่ามีความชัดเจนอยู่แล้วที่พรรค ปชป.จะไม่ร่วมมือกับพรรค พท. แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนและรอคำตอบคือจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร.หรือไม่ โดย พท.ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวบุคคล แต่รวมถึงหลักการและอุดมการณ์ รวมถึงนโยบายด้วย
