ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ในคดีที่เกี่ยวกับการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๒ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ในคดีที่เกี่ยวกับการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ๒ คดี ดังนี้

คดีหมายเลขดำที่ ๔๔๕/๒๕๖๒ หมายเลขแดงที่ ๒๙๙/๒๕๖๒ ระหว่าง คณะราษฎรไทยแห่งชาติ โดยนายพลภาขุน เศรษฐญาบดี กับพวกรวม ๓๔ คน ผู้ฟ้องคดี กับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามสิบสี่ฟ้องว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา ๒๖๙ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๙๐ (๑) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา ๓ มาตรา ๕ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๔๓ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์/นโยบายของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ประกาศต่อสาธารณชนไว้ ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองแต่งตั้งบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมืองเป็นคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๑ ต้องด้วยมาตรา ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีการฟ้องคดีเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มิใช่เป็นเรื่องการใช้อำนาจทางปกครอง หรือดำเนินกิจการทางปกครอง ศาลปกครองจึงไม่อาจรับคำฟ้องไว้พิจารณาพิพากษาได้ตามมาตรา ๑๙๗ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และเมื่อคดีนี้ศาลปกครองไม่อาจรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งสามสิบสี่ไว้พิจารณาได้ จึงไม่มีกรณีที่ต้องนำบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามสิบสี่อ้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาใช้บังคับแก่คดีนี้แต่ประการใด ศาลจึงไม่จำต้องดำเนินการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้งสามสิบสี่

และคดีหมายเลขดำที่ ๔๙๓/๒๕๖๒ หมายเลขแดงที่ ๓๐๐/๒๕๖๒ ระหว่าง นายเอกราช อุดมอำนวย ผู้ฟ้องคดี กับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกฟ้องคดี

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา ๒๖๙ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้ดำเนินการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา โดยไม่เปิดเผยขั้นตอนและวิธีการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งให้ประชาชนทราบทำให้ประชาชนทราบข้อมูลไม่ครบถ้วน อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีเปิดเผยขั้นตอนและวิธีการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว รายชื่อคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา รายชื่อบุคคลที่คณะกรรมการเลือกตั้งจัดให้การเลือกตั้ง และรายชื่อบุคคลที่ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา

ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการสรรหาบุคคลซึ่งสมควรเป็นสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา เป็นกระบวนการขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มิใช่การกระทำทางปกครองหรือการใช้อำนาจทางปกครองการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ผู้ฟ้องคดีอ้างในคดีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๑๙๗ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ประกอบมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

ดังนั้น ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องคดีทั้งสองสำนวนนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ