“เจ๊หน่อย” ลั่น เลือกความสงบจุดจบลุง วอนแฟนคลับ พท. อย่าเลือกสะเปะสะปะ จะแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย อาคารกีฬาเวศน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย – ญี่ปุ่นดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยว่า ตนไปออกรายการมักตั้งหัวข้อว่าอนาคตหลังเลือกตั้ง ตนคิดว่าคำถามนี้ไม่ถูกต้อง เพราะอนาคตไม่เคยหยุดรอการเลือกตั้ง อนาคตวิ่ง เทคโนโลยีวิ่งไปหมดแล้ว แต่เราหยุดมา 5 ปีแล้ว ดังนั้น คำถามคือ หลังเลือกตั้งเราจะไล่อนาคตทันได้อย่างไร เพราะเศรษฐกิจปัจจุบันจะเห็นสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงทำให้สั่งซื้อของจากไทยน้อยลง เทคโนโลยีเปลี่ยน คนตัวเล็กตัวน้อยเปลี่ยนไม่ทัน บริษัทใหญ่เปลี่ยนทันเพราะมีทุนมีความรู้ แต่คนตัวเล็กเปลี่ยนไม่ทัน รัฐต้องช่วย ที่ผ่านมาเดือนที่ 2 ลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลถ้าไม่เก่ง ถ้าไม่เก่งอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ต้องแก้ ซ่อมและสร้างใน4 ปี โดยพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ดำเนินการ

“ดังนั้น การท่องเที่ยวต้องเดินหน้า หารายได้ 3 ล้านล้านบาท ส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง ส่งออกหาตลาดใหม่เจรจาเอฟทีเอใหม่ เอาโลกทั้งโลกเป็นตลาดของสินค้าไทย ต้องทำให้เกิดการลงทุนในประเทศ ที่ขู่เพื่อไทยมาไม่สงบ ไม่จริงเราต้องการสงบ เพราะต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่สงบก็ทำกันเองทั้งนั้นแหละ การใช้จ่ายภาครัฐ ต้องกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ประชาชนต้องกระเป๋าตุง 1.ปรับหนี้ 2เติมเงิน 3 ลดภาษี 4 สร้างเศรษฐีใหม่ ซึ่งทุกคนรวยได้ ให้โอกาสสร้างเงินที่เยอะขึ้น ขายน้อยแต่ราคาแพงขึ้น ไม่จำเป็นต้องขายของราคาถูก เอาเทคโนโลยีให้ไปช่วยเกษตรกร สิ่งเหล่านี้ต้องให้นักบริหารมืออาชีพมาบริหาร และต้องตรวจสอบได้ เรามารับใช้ประชาชนไม่ใช่มาตะคอกใส่ประชาชน เหตุผลที่เลือกเพื่อไทย เข้าใจอนาคต พาประชาชนไปสู่อนาคตได้ เลือกเพื่อไทยเพราะหัวใจคือประชาชน ไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวัง เข้าใจปัญหา เข้าใจวิธีทำ และเราทำได้ 24 มี.ค.ให้ถล่มทลาย” นายชัชชาติ กล่าว

ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรค และแคนดิเดตนายกของพรรค กล่าวปราศรัยว่า วันนี้เมื่อ เมื่อ27 ปีที่แล้วมีความสำคัญมากสำหรับตน เพราะได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก 22 มี.ค.2535 ได้เกิดทางการเมืองในพื้นที่ กทม. และสุดารัตน์ได้เริ่มชีวิตการเมืองที่ไม่ง่ายเลย พอเลือกตั้งจบได้เกิดกงล้อการเมืองเหมือนวันนี้ ตัวละครคล้ายกัน และซ้ำกัน คณะรัฐประหารก็ชื่อคล้ายกัน รสช. กับ คสช.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เหมือนกัน เป็นกติกาที่เอื้อให้คนนอกที่ไม่ได้เป็น ส.ส. มาเป็นนายกฯ ได้ ทำให้ประชาชนไม่ยอม ลุกขึ้นมาขัดขวางไม่ให้สืบทอดอำนาจของเผด็จการคือเหตุการณ์พฤษภา 35 ตัวละครเกือบจะเหมือนกันทั้งหมด ผบ.ทบ.นามสกุลเหมือนกัน คนร่างรัฐธรรมนูญชื่อเดียวกันคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ แต่ครั้งนี้หนักกว่านายมีชัยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในกระเป๋าเรายังไม่ตุง แต่ในกระเป๋าตุงมี ส.ว.250 คนแล้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ที่มายืนวันนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ มีแต่การต่อสู้ มีอุปสรรค เลือกตั้งครั้งนี้เหนื่อยที่สุด หนักที่สุด ออกกติกาให้เพื่อไทยเล็กลงโดยเฉพาะ ได้ ส.ส.เขตเยอะ ไม่ต้องมีปาร์ตี้ลิสต์ เอาคะแนนคนแพ้มานับรวม มีกำลังเจ้าหน้าที่มากดดันทุกอย่างแม้แต่ตนเองยังเจอติดตามจากผู้มีอำนาจ แต่ไม่ท้อ ครั้งนี้ขอเวลา 6 เดือน จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ และนาฬิกาของเราไม่ได้ยืมใครมา เดินตรง และจำได้หรือไม่ใครพูดอะไรทำได้หรือไม่ ขายฝันหรือไม่ แต่ไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย 17 ปีทำได้จริง

เราไม่เคยชี้หน้าประชาชน เราไม่เคยเห็นพี่น้องเป็นพลทหาร เห็นพี่น้องเป็นลูกจ้าง เห็นพี่น้องเป็นนายของเรา เห็นพี่น้องมีความสุขและทำให้กระเป๋าตุง ยิ่งบริหารเผด็จการ 4-5 ปียิ่งพัง เพื่อไทยจะไม่ปล่อยอีกแล้ว ใช้งบ 13 ล้านล้าน มากกว่ามีรัฐบาลที่ผ่านๆมา ทุกรัฐบาล 5 ปีไม่ทำให้เดินหน้าได้เลย มีแต่ถอยหลังลงคลอง มีแต่ความสงบที่เงียบสงัด ขายของไม่ได้ คนทั้งประเทศมีความทุกข์และจนลง เพื่อไทยคืนความสงบสันติ ให้บนเศรษฐกิจที่ดี

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นได้เลยถ้า 24 มี.ค.ไม่สร้างพลังชนะอย่างถล่มทลาย คือวันที่เราต้องออกไปเลือกตั้ง เลือกเพื่อไทยพรรคเดียวอย่างถล่มทลาย ไม่ใช่ว่าเราโลภมากที่ไปเลือกเพื่อไทยเท่านั้นถล่มทลาย เพราะกติกาที่วางไว้ผ่านรัฐธรรมนูญ 62 เท่ากับการยึดอำนาจประชาชนอีกครั้งภายใต้รัฐธรรมนูญลายพราง คือการมี ส.ว.250 ที่ประชาชนไม่ได้เลือก วันนี้คนซื้อเสียงมีคนในเครื่องแบบอารักขา แต่ขณะเดียวกันก็มากดดันเรา เอื้ออำนวยให้บางพรรคทุจริตเลือกตั้งได้ ส.ส.เราโดยยัดคดี แต่ไม่ยอมแพ้ จะเอาชนะให้ได้วันที่ 24 มี.ค. เพราะเราต้องมีเสียงที่มากพอไปแย่งกันเป็นคู่แข่งจัดตั้งรัฐบาล กับ ส.ว.250 คนที่อยู่ในกระเป๋าลุง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เลือกเพราะรัก เกลียดใครไม่ได้เลย แต่เลือกเพราะห่วงตัวเองให้มากๆ จะอยู่อย่าง 4-5 ปี ไหวหรือไม่ ถ้าไม่ไหวมีทางเดียวคือเลือกเพื่อไทยถล่มทลายเท่านั้น มีเพียงเพื่อไทยพรรคเดียที่มี ส.ส.มากพอที่จะไปแข่งกับ ส.ว.จัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเลือกสะเปะสะปะไม่มีพรรคนำไปแข่งขันกับ ส.ว.250 คนได้ ก็แพ้ตั้งแต่ในมุ้ง เลือกให้เพื่อไทยมีเสียงมากพอในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพี่น้องทำสำเร็จในวันที่ 24 มี.ค.จากนั้นเป็นหน้าที่ของทีมเพื่อไทยทำให้หายทุกข์”

“วันนี้ความสงบไม่ได้หยุดที่เขาคนนั้น แต่ความสงบจะเป็นจุดจบของเขาคนนั้น เพราะตลอดเวลาพยายามสร้างให้เกิดความขัดแย้ง ตรงไหนมีความปรองดองบ้าง ถ้าบ้านเมืองสงบเขาไม่มีที่ยืน เลือกตั้งก็สอบตกมาตลอด มี 2 ประเภทอยากได้อำนาจไม่อยากลงเลือกตั้งเพราะมีปืน แต่พรรคการเมืองที่แพ้ตลอด 17 ปีไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องบอยคอตเลือกตั้ง ปิดคูหาเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร พวกที่ไม่ชัดเจนอย่าไปหลงเลือกเพราะจะไปต่ออายุให้เผด็จการได้ เราต้องบอกต่อว่าช่วยกันหยุดสืบทอดอำนาจ 24 มี.ค. ย้อนไปเมื่อ 22 มี.ค.การแจ้งเกิดทางการเมืองของสุดารัตน์ เราหยุดการสืบทอดอำนาจ รสช.สำเร็จ 24 มี.ค.หยุดสืบทอดอำนาจ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ สร้างประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานในอีก 20 ปีมาขอบคุณเรา” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย กล่าว