มาตามนัด ! ”บิ๊กตู่” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ พปชร. ลั่น ยอมตายเพื่อแผ่นดิน ยอมรับมีทั้งคนรักและคนเกลียด

เมื่อเวลา 19.45 น.ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน จ.กรุงเทพฯ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัครหาเสียง ช่วงโค้งสุดท้ายภายใต้ชื่องาน “เปิดใจประชารัฐ ร่วมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังประมาณ 12,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ได้ปรากฎตัวที่สนามเทพหัสดิน โดยเดินเข้าสู่สนาม พร้อมทักทายพี่น้องประชาชนตลอดสองฝั่ง ซึ่งประชาชนตอบรับอย่างล้นหลาม ตะโกนเชียร์ลุงตู่ สู้ๆ รักลุงตู่ พร้อมทั้งมอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีการเปิดวิดิโอประมวลภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งดำรงตำแหน่งประกอบเพลง หยุดตรงนี้ที่เธอ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะจับไมค์ร่วมร้องเพลงดังกล่าว และปราศรัยกับ ประชาชนตอนหนึ่งว่า

สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ท่านที่มาและไม่ได้มา รวมถึงต่างจังหวัดด้วยสวัสดีทั้ง 77 จังหวัดกรุงเทพฯเป็น 1 ใน77 จังหวัดของประเทศไทยคือประเทศไทย ผมสัญญาว่าจะนำพาทั้ง 77 จังหวัดเดินไปข้างหน้าให้มีอนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ผมมาวันนี้มาเพื่อขอบคุณคนไทยทุกคนขอบคุณคนไทยทั้งประเทศในความร่วมมือที่ให้มากับผมมา 5 ปี ผมรู้ว่าทุกคนเหนื่อยบางครั้งผมก็เหนื่อยแต่ผมเหนื่อยไม่ได้ถ้าผมเหนื่อยผมท้อแล้วพวกเราจะไม่ยิ่งกว่าผมเหรอ

ดังนั้นผมจะทำต่อไปให้ดีที่สุด จะมีคนเชียร์ให้เอาถึง 20 ปี พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าเอา 24 มีนาให้ได้เสียก่อน 24 มีนา รวมพลังไปให้ได้ ทุกคนเห็นรูปผมอยู่แล้วผมเป็นทหารมา แต่วันนี้ผมเป็นประชาชนเหมือนกับท่านผมมีหน้าที่ของผม ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดและนโยบายที่ออกมาดีทุกวัน แต่จะต้องหาคนมานำ และทำไม่ได้ต้องมีคนนำ ผมยืนหยัดว่าผมจะทำอย่างเต็มที่ทำให้กับพี่น้องคนไทยทุกคนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนสูงอายุ อนาคตที่เกิดมาแล้วในวันนี้และที่กำลังจะเกิดอีกในวันนี้พรุ่งนี้มะรืนนี้ หรือจะจบปริญญาตอนอายุ 20 ปี จะต้องวางอนาคตประเทศไว้เป็นขั้นเป็นตอนและมีวิธีการที่เหมาะสม

อยากจะบอกว่าทุกวันนี้ตนมีความสุขทุกครั้งที่เห็นพี่น้องประชาชน ไปทุกจังหวัดไปมากกว่า 60 จังหวัดในการทำงานของผม มีทั้งคนรักคนไม่รัก แต่ในนี้ผมคิดว่ารักผมทุกคน จะมากจะน้อยก็ให้กำลังใจให้ผมในการทำงานต่อไป ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ไม่ให้กำลังใจกันและกัน ก็ไปไม่ได้ เติมใจให้กันจับมือกันให้เข้มแข็งเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งทำได้ ถ้าเราจับมือกันทั้งหมด 68 ล้านคนแล้วจะทำได้ทุกอย่าง 5 ปีที่แล้วเรารู้อะไรคือปัญหาและอุปสรรค เป็นสิ่งสำคัญที่สุดไปโน่นมานี่ได้ เพราะว่าบ้านเมืองสงบสุข ท่านต้องทำสิ่งนี้ให้ได้อย่างยั่งยืน
ต่อจาก 5 ปีที่เราทำมา เราจะต้องลดความขัดแย้งเราจะต้องมีความรัก ความสามัคคีคืนมา ความรัก รักตัวเอง รักพ่อแม่ รักครอบครัว รักชาติรักศาสนา รักพระมหากษัตริย์

เราทุกคนต้องก้าวเดินไปพร้อมกับผม พยุงกันไปว่ากันไป เพราะว่าเรามีศักยภาพมากมายประเทศไทยมีศักยภาพเยอะแยะมีโอกาส แต่มีวิกฤตมาเสมอเราอย่าทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาอีก ขอบคุณทุกคน ขอบคุณในกำลังใจ ขอบคุณที่ให้ความรักและความปรารถนากับผม

“ผมจะยอมตายเพื่อผืนแผ่นดินนี้ แผ่นดินที่ให้ผมเกิดให้ผมกิน ให้ผมหลับนอน ให้ผมมีอาชีพ ผมจะรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้กับลูกหลานของเราในอนาคต ใครจะไปกับผมหรือเปล่า ประเทศไทยจะต้องไม่ล้มอีกต่อไป จะไม่นั่งรอใครอีกต่อไป เราจะเดินไปข้างหน้าเราจะยืนขึ้นจับมือกันไป จับมือกันเดินไปข้างหน้า ขอบคุณอีกครั้ง ขอบคุณในกำลังใจ ทุกกำลังใจ เราคงได้ร่วมทำเพื่อประวัติศาสตร์ไทย พาประเทศไปในสิ่งที่ดีกว่าอะไรที่ไม่ดีจำไว้ ถือเป็นบทเรียนอย่าให้ใครมาบอกว่าลืมอันนั้น จำอันนี้ หรือให้ไปทำอันนั้น มันไม่มีอนาคตทั้งสิ้น”

วันนี้ตนอดไม่ได้พอเปิดไปในเฟซบุ๊กเห็นฟังกันเพลินก็อดไม่ได้ ทุกวันนี้พี่น้องกำลังเสียขวัญ แต่อย่าเสียขวัญ ขวัญอยู่กับตัวจะกลัวอะไร ขวัญอยู่ที่หัวศรีษะ และขวัญอยู่ที่ใจ หัวใจอันยิ่งใหญ่ หัวใจแห่งความรักสามัคคี ทำบ้านเมืองเราให้สงบปลอดภัย จะมีพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ใครทรยศมิได้โดยเด็ดขาด เราจะต่อสู้เพื่อรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอบคุณทุกกำลังใจ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับ พร้อมกับเพลง ‘จับมือกันไว้’ และพิธีกรกับประชาชนตะโกนว่า “ลุงตู่สู้ๆ” โดย พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาปราศรัย 7 นาที