‘อิทธิพร’ ตั้ง 35 อนุกรรมการวินิจฉัย รับมือสอบทุจริตเลือกตั้ง ‘คนมีตำแหน่ง’ นั่งพรึบ!

(แฟ้มภาพ)นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.

วันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 137/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จำนวน 35 คณะ รวม 175 คน โดยระบุอำนาจหน้าที่ไว้ให้มีอำนาจในการพิจารณา และวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาดพ.ศ.2561 และในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวข้องกับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่เกี่ยวกับการยื่นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทุกระดับและงานอื่นๆ ตามที่กกต.มอบหมาย

กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนอนุกรรมการวินิจฉัย คณะหนึ่งอาจไปร่วมพิจารณากับคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ อีกคณะหนึ่งเพื่อให้ครบองค์ประชุมในการพิจารณาและทำความเห็นได้ หากมีเหตุจำเป็นกกต.อาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯคณะใดคณะหนึ่ง หรือหลายคณะร่วมกันดำเนินการในเรื่องใด เรื่องหนึ่งตามที่ได้รับมอบหมายก็ได้

ทั้งนี้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯแต่ละคณะจะมีประธาน และอนุกรรมการรวม 5 คน มีผู้อำนวยการสำนัก หรือรองผู้อำนวยการสำนักของสำนักงานกกต. ทำหน้าที่เลขานุการ ซึ่งในการเลือกตั้งที่จะกำลังจะมีขึ้นคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ ดังกล่าวก็จะทำหน้าที่ในพิจารณากลั่นกรองสำนวนทุจริตเลือกตั้งที่จังหวัดส่งเข้ามา และเสนอความเห็นต่อกกต.ว่าสมควรจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือยกคำร้อง อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯของกกต.ชุดนี้มีการแต่งตั้งมากถึง 35 คณะ เพิ่มขึ้นจากในอดีตที่จะตั้งเพียง 25 คณะ

ขณะเดียวกันก็พบว่า มีการตั้งที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญประจำกกต. มาทำหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ ในหลายคณะ เช่น นายอนุชา จันทร์สุริยา ที่ปรึกษาประธานกกต. ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 1 นางธีราลักษณ์ รมยานนท์ ที่ปรึกษา นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 2

พล.ท.ยุทธนา ไทยภักดี นายประดิษฐ์ จันติกาโร ผู้เชี่ยวชาญประจำนายปกรณ์ มหรรณพ ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 12 และคณะที่ 19 พล.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้เชี่ยวชาญประจำ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยคณะที่ 18 นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี นายสมดี คชายั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญ ประจำนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ทำหน้าที่อนุกรรมการคณะที่ 28 และคณะที่ 35 เป็นต้น ซึ่งอาจเพื่อให้กกต.สามารถติดตามการทำงานของอนุกรรมการวินิจฉัยได้รวดเร็วขึ้น ต่างจากในกกต.ชุดที่แล้วที่จะหลีกเลี่ยงเนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาทับซ้อนและการครหาได้

นอกจากนี้ยังมีชื่อของนายประพันธ์ คูณมี อดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน นางนินนาท ชลิตานนท์ อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร นายประสาท พงษ์ศิวาภัย อดีตกรรมการป.ป.ช. ร่วมเป็นประธานและอนุกรรมการด้วย

 

 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์