“พปชร.” โยนเงื่อนไขเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องเป็นนายกฯ โอ่ คะแนน popular vote นำโด่ง

“พปชร.” โยนเงื่อนไขเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องเป็นนายกฯ โอ่ คะแนน popular vote นำโด่ง อ่อมแอ้มจำนวนส.ส.เขตเป็นรองพท.

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต แบบไม่เป็นทางการ

นายอุตตม ยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามแนวทางตั้งแต่ต้นว่า พรรคใดที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และพรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด โดยพรรคจะเดินหน้าพูดคุยกับทุกพรรคการเมืองที่มีแนวทางสอดคล้องนโยบายด้วยกัน เพื่อเดินหน้าสู่การจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ นายอุตตม ระบุว่า จากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคพลังประชารัฐถือว่า ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย และมีคะแนนรวมสูงสุด 7,939,937 คะแนน จึงขอให้ความมั่นใจว่า พรรคจะดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป

นายอุตตม ยืนยันว่า ไม่ได้มีหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ กรรมการบริหารพรรคมีมติมอบหมายให้ตนเองและนายสนธิรัตน์ ไปดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม นายอุตตม ปฏิเสธที่จะบอกว่า จะมีกี่พรรคการเมืองเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะร่วมกับพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขอเวลาในการดำเนินการ ยังไม่ขอพาดพิงถึงพรรคไหน และขอเวลาให้พรรคได้ทำงาน โดยยืนยันว่าจะไม่ล้าช้า และเมื่อรวมรวมคะแนนเสียงได้ ก็จะมีสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างชัดเจน

ด้านนายสนธิรัตน์ ย้ำว่า พรรคจะเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเท่านั้น เพราะถือว่า ได้รับฉันทามติจากประชาชนที่ไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป

เลขาธิการพรรค ยืนยันว่า พรรคมีความชอบธรรมในการรวบรวมคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งการที่พรรคจะรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งคะแนนนิยมของประชาชนทั้งประเทศจะไม่เสียเปล่า จึงนำไปสู่การคิดจำนวนส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค ซึ่งอยู่บนคะแนนรวมของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐถือได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุด และมั่นใจว่า พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ส่วนข้อเรียกร้องพรรคการเมืองต้องการให้สมาชิกวุฒิสภา เคารพการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า พรรคให้ความเคารพสมาชิกวุฒิสภา และเชื่อว่า ส.ว.ก็มีความเป็นห่วงบ้านเมือง จึงควรเป็นเอกสิทธิของส.ว.ในการพิจารณา ซึ่งทางพรรคไม่ขอก้าวล่วง