นายกฯออกสาร แนะมองพรรคการเมืองรวมกลุ่ม กำลังทำดีเพื่อชาติ ไล่ขจัดคนไม่ดีออกไป

นายกฯออกสาร ชี้พรรคการเมืองรวมกลุ่มทำความดีเพื่อชาติ ขออย่ามองรวมเสียงตั้งรัฐบาลมุ่งต่อสู้ทางการเมือง แนะคนไทยรับสารอย่างระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อคำบิดเบือน หวั่นดึงประเทศไปสู่อันตรายเดิมๆ

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกสารนายกรัฐมนตรี ความว่า การทำงานของรัฐบาลและคสช. เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภาครัฐในห้วงที่ผ่านมาได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง สร้างความรัก ความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้เพื่อประเทศชาติและประชาชนอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคน

ข่าวสารการรวมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคต่างๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกังวลอยู่เวลานี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นการมุ่งเน้นการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว หากแต่เป็นการรวมกลุ่มกันเพื่อทำความดีให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชน และขจัดคนไม่ดีหรือคนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายออกไป สื่อต่างๆขอให้นำเสนอข่าวอย่างพอเหมาะพอควร ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านเมืองของเรา สร้างความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาความขัดแย้งการขาดความรักความสามัคคีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคที่สำคัญของความสงบสุขเรียบร้อย การพัฒนา และการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงขอให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ความระมัดระวังในการรับรู้ข่าวสารใดๆ ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ โซเชียลมีเดีย โดยขอให้พิจารณาอย่างมีเหตุมีผล ประกอบข้อเท็จจริงทั้งในปัจจุบันและในอดีต ขออย่าได้หลงเชื่อคำบิดเบือนต่างๆ อันจะนำอันจะทำให้ประเทศกลับไปสู่อันตรายเดิมๆ ที่เราได้เคยร่วมกันฝ่าฟันมาแล้ว

การเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่ให้ความสำคัญแต่เพียงเสียงมากเสียงน้อย ใครเป็นฝ่ายค้าน ใครเป็นรัฐบาล แต่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่พี่น้องประชาชนจะได้รับ อันได้แก่ได้รัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ ประชาชนทุกฝ่ายไม่ว่าจะเลือกใครได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงหรือไม่ ประเทศชาติได้รับการสร้างความเข้มแข็งและการเพิ่มขีดความสามารถหรือไม่ นี่คือสิ่งสำคัญที่รัฐบาลนี้ยึดถือเป็นหลักมาโดยตลอด

การพัฒนาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากคนหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชนและภาคเอกชน รวมถึงทุกพรรคการเมืองนักการเมืองทุกคน เราต้องยอมรับว่าวิธีการเดิมๆ ตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลนี้เข้ามาไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการใหม่ๆ ที่ทันต่อเทคโนโลยี มีการบูรณาการอย่างแท้จริง โดยเราจะต้องสร้าง สนับสนุน รณรงค์ สร้างการเรียนรู้ ช่วยกันปรับปรุงพัฒนาทุกเรื่องให้ครบวงจร สร้างความเข้มแข็งให้เกิดความยั่งยืน มิใช่แก้ปัญหาที่ปลายทางอย่างเดียวภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ดีๆ ที่เป็นอนาคตและหลักชัยของประเทศ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลควรต้องสานต่อขยายหรือปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไป

โดยสรุปแล้วความสงบสุขของบ้านเมือง ความรัก ความสามัคคีของพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาประเทศก้าวต่อไป อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีเสถียรภาพ

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์