“สมชัย” โต้ สูตรคำนวณกกต. ชี้ชัดต้องยึดม.91(4) มี 14 พรรคได้ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ใช่ 25 พรรค

“สมชัย” ติวเข้ม คำนวณสูตรปาร์ตี้ลิสต์ ระบุต้อง ยึด รธน.มาตรา91 (4) ทำให้ 58 พรรคเล็กวืด เหตุ ได้คะแนนไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมี มีแค่ 14 พรรคได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ 25 พรรคตามที่ กกต.ชี้แจง แนะ เปิดเวทีรับฟังทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ เตือน ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาหาตัดสินใจคำนวณพลาด

เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 8 เมษายน ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคปชป. แถลงถึงสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อโดยไล่เรียงการคำนวณตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ตั้งแต่ (1) ถึง (7) มาแจกแจงวิธีการคำนวณอย่างละเอียดต่อสื่อมวลชน ว่า เราต้องพิจารณากฎหมายสองฉบับคือ รัฐธรรมนูญมาตรา 91 และกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 โดยสิ่งที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งส.ส.กำหนดไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากสามารถถอดค่าและนำมาคำนวณได้ แต่สูตรที่ตนคำนวณแตกต่างจากผลลัพธ์ที่ กกต.ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า จะมีพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 25 พรรคที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในขณะที่สูตรของตนจะมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 16 พรรค เนื่องจากต้องตัดพรรคเพื่อไทย(พท.) ที่ได้ส.ส.เขต 137 คน เกินกว่าจำนวนส.ส.พึงมี 111 คน ทำให้ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ และตัดพรรคประชาชาติออก เนื่องจากได้จำนวนส.ส.พึงมีที่ 6.8316 และได้ส.ส.เขตมาแล้ว 6 คน ทำให้เศษที่เหลือสำหรับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 1 คน จึงต้องตัดทิ้ง เท่ากับเหลือพรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 14 พรรคการเมือง ซึ่งจะต้องนำมาปรับอัตราส่วนใหม่ให้รวมแล้วได้ 150 คน ตามที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 กำหนดไว้ โดยส.ส.บัญชีรายชื่อที่ทั้ง 14 พรรคจะได้รับ มีรายละเอียดดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 คน พรรคอนาคตใหม่ 56 คน พรรคปชป. 22 คน พรรคภูมิใจไทย(ภท.) 13 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) 5 คน พรรคเศษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) 4 คน พรรคชาติพัฒนา(ชพน.) 2 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และพรรคพลังชาติไทย 1 คน

นายสมชัย กล่าวว่า ส่วน 58 พรรคเล็กที่ไม่ได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นไปตามที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 (5) ที่กำหนดว่า การจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มีส.ส.เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 91(4) เนื่องจากทั้ง 58 พรรคได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประชากร 71,057.4980 จึงต้องตัดทิ้งไปตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม จะนำสูตรคำนวณของตนจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้ กกต.อย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ และอยากให้ กกต.ดูข้อความในกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 (5 ) ที่กำหนดไม่ทำให้พรรคการเมืองมีส.ส.เกินกว่าจำนวนที่พึงมีให้ดี ๆ ว่าแปลว่าอะไร ซึ่งในขณะนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าจะถึงวันที่ 9 พฤษภาคมที่ กกต.จะต้องประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการร้อยละ 95 จึงอยากให้ กกต.จัดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ทั้งนักกฎหมาย นักคณิตศาสตร์ หรือจะเชิญตนก็ยินดี และสุดท้ายเมื่อได้รับข้อมูลครบถ้วนค่อยตัดสินใจว่าสูตรที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

“ผมขอให้ กกต.เอาการติดยึดกับประโยคที่บอกว่าถูกแล้วออกไปจากหัวก่อน ไม่อยากให้ กกต.ติดยึดสิ่งที่เคยเผยแพร่ไป ควรเปิดกว้างรับฟังก่อน ไม่มีใครกดดัน กกต. ท่านต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกใช้สูตรใดในการคำนวณส.ส.บัญีรายชื่อและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเองด้วย เพราะหากคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อผิด ก็ถือว่าบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่แต่เป็นการบกพร่องเจตนาหรือไม่เจตนาต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง หากบกพร่องโดยตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่สังคมพยายามสะท้อนถึง กกต.แล้วก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย อย่างไรก็ตามหากมีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อผิดพลาด ก็ไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะสามารถแก้ไขผลลัพธ์ให้ถูกต้องได้ ส่วนข้อเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นเห็นว่าก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมไม่มีช่องทางที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ กกต.จึงต้องตัดสินใจเอง ผมอยากให้ กกต.ยึดหลักไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีหน้าตาที่ต้องเสีย แต่ต้องให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ อย่าติดยึดเรื่องการเสียหน้า เมื่อผิดก็แก้ไข เชื่อว่าสังคมเข้าใจ” นายสมชัย กล่าว