“วิษณุ” เล่าความพิเศษ “เข็มลงยา” ความเป็นมาเข็มที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.10

“วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือ ผู้ที่สามารถถ่ายทอดประวัติศาสตร์-คุณค่าในฐานะอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทำเนียบฯ-อดีตเลขา ฯ ครม. หลายรัฐบาล-หลายนายกฯ

นายวิษณุ เล่าประวัติ-ความเป็นมาของการผลิตเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 (ร.10) ระหว่างเป็นประธานการแถลงข่าว เรื่อง การจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อประเทศมีงานสำคัญก็จะมีการทำเข็มที่ระลึกเสมอ เพื่อให้คนใช้ประดับหรือเก็บสะสมไว้

“อย่างเมื่อคราวงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า เมื่อครั้งถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ในรัชกาลที่ 7 หรือ เมื่อมีงานถวายพระเพลิงพระศพก็ดี หรือ โอกาสสำคัญของพระบรมวงศ์พระองค์ใดก็ดี จะมีการจัดทำเข็มที่ระลึกเสมอ แม้กระทั่งครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาสมัยถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9”

“เข็มที่ระลึกรูปแบบที่ทรงปรุง หรือ ปรับปรุงอีกครั้งหนึ่งแล้วนั้น ภายหลังทูลเกล้า ฯ ทูลกระหม่อมทรงพิจารณา 7-8 แบบ หัวใจอยู่ที่พระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. ตรงกลาง ซึ่งอยู่ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร หรือ ฉัตรขาว 9 ชั้น ซึ่งมีความหมายเป็นมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ตามราชประเพณี”

“ขณะเดียวกันจะมีเครื่องราชกกุธภัณฑ์ หรือ เครื่องใช้ของพระราชา 5 ชนิด ปรากฏอยู่ในเข็มที่ระลึกนี้ด้วย ได้แก่ 1.พระแสงขันค์ชัยศรี ทางด้านขวาของเข็มที่ระลึก 2.ธารพระกร หรือ ไม้ท้าว ทางด้านซ้าย 3.แส้ และ พัด รวมกันเรียกว่า วาลวิชนี4.พระมหาพิชัยมงกุฎอยู่เหนือขึ้นไป ซึ่งมีความหมายเป็นพระมหากษัตริย์ และ 5.ด้านล่างที่ฐาน เป็นฉลองพระบาทเชิงงอน หรือ รองเท้า”

“ทางขวาของเข็มที่ระลึก เป็นคชสีห์ เป็นสัตว์หิมพานต์ เหมือนราชสีห์แต่มีงวงช้าง จึงเรียกว่า คชสีห์ประคองฉัตร 7 ชั้น คชสีห์นั้นเป็นเครื่องหมายที่ใช้กันร่วม 100 ปี แสดงถึงทหาร ทางซ้ายของเข็มจะเห็นราชสีห์ประคองฉัตร 7 ชั้น ราชสีห์นั้นแสดงถึงความเป็นพลเรือน เพราะฉะนั้นจึงมีความหมายว่า ข้าละอองธุลีพระบาทที่เป็นทหารและพลเรือนร่วมกันประคับประคองราชบัลลังก์นี้ไว้”

“สีที่ปรากฏในเข็มที่ระลึกมีทั้งสีน้ำเงิน สีขาว สีม่วง สีทั้งหมดมีความหมายทั้งสิ้น เข็มที่จัดทำขึ้นครั้งแรก จะเป็นเข็มที่ใช้โลหะผสมดีบุกเขียนลายด้วยเส้นวาดลงยา เขียนด้วยมือ ต่อมาลงยา คือ ใช้ยาผสมสี เมื่อออกจำหน่ายครั้งแรก จำนวนไม่มากนักที่ยายังไม่แห้ง รีบผลิตนำออกมาจำหน่ายที่กรมประชาสัมพันธ์เมื่อในที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา สีที่ลงยาก็ไปกระทบกล่อง สำนักนายก ฯ จึงให้นำมาเปลี่ยน หรือ เก็บไว้สะสมเพราะถือเป็นของมาค่า หายาก เพราะเราได้ยกเลิกการลงยาทั้งหมดมาเป็นการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ เรียบ สวยงาม แต่ความประณีตจะต่างจากที่ลงยาด้วยมือ ถ้าเป็นผมลงยาแล้วเลอะก็จะเก็บไว้ เพราะถือว่าเป็นของหายาก”

นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ดำเนินการจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนได้อัญเชิญไปประดับในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยรายได้จากการจำหน่ายเข็มที่ระลึกฯ ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

สำหรับ เข็มที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จัดทำด้วยวัสดุดีบุกผสมทองแดง แข็งแรงทนทาน ขึ้นรูปตามแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีขนาดความสูง 3.8 เซนติเมตร ชุบทองด้านหน้าและหลัง พื้นสีน้ำเงิน ลงยา ขอบสีทอง พระปรมาภิไธย วปร ลงยาสีขาว มหาเศวตฉัตร 9 ชั้น และฉัตร 7 ชั้น ลงยาสีขาว แพรแถบสีทอง ราชสีห์ลงยาสีขาว และคชสีห์ลงยาสีม่วงอมชมพู ข้อความพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ลงยาสีเขียวสนิม ตัวหนังสือสีทอง ด้านหลังเข็มที่ระลึกจารึกตัวอักษรพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 เข็มกลัดด้านหลังพร้อมหัวล็อคใช้วัสดุทองเหลืองชุบทอง เข็มที่ระลึกฯ บรรจุในกล่องจัดทำด้วยกระดาษอาร์ตอัดลาย ความหนา 120 แกรม เคลือบสีเหลืองทอง หุ้มพลาสติก ขึ้นรูปทรงกล่องขนาด 6.7 x 6.8 x 2.8 เซนติเมตรฝากล่องด้านบนประดับด้วยตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พิมพ์ด้วยสีทอง ด้านข้างในกล่องเป็นสีขาวงาช้าง จำหน่ายในราคาชุดละ 300 บาท

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สปน. เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ ได้เปิดให้ประชาชนสั่งจองเข็มที่ระลึกฯ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เว็บไซต์ thailandpostmart.com ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นมา โดยสามารถสั่งจองได้ไม่จำกัดจำนวน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการสั่งจอง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ที่มีความประสงค์จะให้จัดส่งเข็มที่ระลึกฯ ถึงที่อยู่ผู้รับผ่านบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ ก็จะมีค่าธรรมเนียมการจัดส่งตั้งแต่ 40 บาท ขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับจำนวนของเข็มที่ระลึกฯ ที่สั่งจอง

ทั้งนี้ การจำหน่ายเข็มที่ระลึกฯ ดังกล่าว นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในการนำเข็มที่ระลึกฯ ไปจำหน่ายยังบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำนวน 150,000 เข็ม โดยในครั้งแรกจะจำหน่ายใน 10 สาขา ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2562 เป็นต้นไป (จนกว่าเข็มที่ระลึกฯ จะหมด) จำหน่ายสาขาละ 5,000 เข็ม รวม 50,000 เข็ม ภาคเหนือ จำหน่ายที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก ภาคใต้ จำหน่ายที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสงขลา (หาดใหญ่) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำหน่ายที่จังหวัดนครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลาง จำหน่ายที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคตะวันออก จำหน่ายที่จังหวัดระยอง กรุงเทพมหานคร จำหน่ายที่สาขาราชดำริ และสาขาดาวคะนอง โดยสาขาราชดำริจะเปิดจำหน่ายวันที่ 25 และ 30 เมษายน และวันที่ 2 พฤษภาคม2562 ทั้งนี้ จำกัดจำนวนคนละ 2 เข็ม ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองคลัง สปน. หมายเลขโทรศัพท์ 0 2283 4344 และ 09 2249 2671

พร้อมทั้ง รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนข้าราชการทุกหมู่เหล่า ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมประดับเข็มที่ระลึกฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และร่วมเฉลิมฉลองงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รวมทั้งเก็บรักษาไว้เป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำ โดยวิธีการประดับเข็มที่ระลึกฯ นั้น ชุดเครื่องแบบข้าราชการ ชุดเครื่องแบบปกติขาว ชุดเครื่องแบบเต็มยศ ประดับเข็มที่ระลึกฯ ไว้ที่หน้าอกขวา ส่วนการแต่งกายเสื้อสีเหลือง ชุดไทย และชุดอื่น ๆ ให้ประดับเข็มที่ระลึกฯ ไว้ที่หน้าอกด้านซ้าย