กกต.เคาะ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 26 พรรค-พรรคเล็กคะแนนไม่ถึง 7 หมื่นแต้ม ได้อานิสงส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศ กกต.เรื่องผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 26 พรรค จำนวน 149 คน ประกอบด้วย พลังประชารัฐ 18 คน อนาคตใหม่ 50 คน ประชาธิปัตย์ 19 คน ภูมิใจไทย 12 คน เสรีรวมไทย 10 คน ชาติไทยพัฒนา 4 คน เศรษฐกิจใหม่ 6 คน ประชาชาติ 1 คน เพื่อชาติ 5 คน รวมพลังประชาชาติไทย 4 คน ชาติพัฒนา 2 คน พลังท้องถิ่นไท 3 คน รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน
และพรรคที่มีพรรคละ 1 ที่นั่งจำนวน 13 พรรค ประกอบด้วย พลังชาติไทย ประชาภิวัฒน์ ไทยศรีวิไลย์ พลังไทยรักไทย ครูไทยเพื่อประชาชน ประชานิยม ประชาธรรมไทย ประชาชนปฏิรูป พลเมืองไทย ประชาธิปไตยใหม่ พลังธรรมใหม่ ไทรักธรรม และ พลังปวงชนไทย

โดยมีพรรคที่ได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส.พึงมี 71,168.5141 คะแนน จำนวน 11 พรรค ประกอบด้วย ประชาภิวัฒน์ ไทยศรีวิไลย์ พลังไทยรักไทย ครูไทยเพื่อประชาชน ประชานิยม ประชาธรรมไทย ประชาชนปฏิรูป พลเมืองไทย ประชาธิปไตยใหม่ พลังธรรมใหม่ และไทรักธรรม

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 128 และ 129 ซึ่งกรณีที่ไม่สามารถจัดสรรได้ครบจำนวน 150 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดตาม 128(7) ได้บัญญัติให้คำนวณตามอัตราส่วนที่ทุกพรรคการเมืองจะได้รับการจัดสรรให้ได้ ส.ส.เมื่อรวมแล้วไม่เกิน 150 คน โดย กกต.คำนวณตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 128 ส่วนที่จะมีการร้องเรียน หาก กกต.จัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำกว่าคะแนนค่าเฉลี่ย ส.ส.พึงมี 71,000 คะแนนนั้น ยืนยันว่า กกต.ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ถ้าเห็นไม่เป็นไปตามกฎหมายก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้

“การที่ กกต.ใช้สูตรคำนวณดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย สำนักงาน กกต.เห็นว่ามีสูตรนี้ที่สำนักงานเสนอเห็นว่าถูกกฎหมาย และเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาสูตรนี้เพียงสูตรเดียว ทั้งนี้ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ได้บอกว่า กรณีที่ไม่สามารถจัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ได้ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ให้ใช้วิธีคิดคำนวณตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 (3) (4) (5) (6) (7) กำหนดให้จัดสรรแก่ทุกพรรคการเมือง และ ไม่มีปัญหาเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กกต.จึงพิจารณาตามมาตรา 128 ถ้าสูตรนี้ถูกคงไม่มีสูตรอื่นๆ อีก เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเป็นอย่างอื่น” นายแสวง กล่าว

นายแสวง กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการประกาศไม่ครบทุกเขต เพราะมีการสั่งเลือกตั้งใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 จ.เชียงใหม่ นั้น โดย กกต.จะพิจารณาตามมาตรา 129 เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ให้ดำเนินการคำนวณใหม่ และจัดสรรจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อให้ถูกต้องตรงตามผลการคำนวณนั้นทุกครั้งที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น เว้นแต่จะพ้นเวลาหนึ่งปีนับแต่วันเลือกตั้ง ทั่วไป