“บิ๊กตู่” เปิดใจพิเศษก่อนอำลาทำเนียบ แจงโผครม.ใหม่ “ป้อม-ป๊อก-สมคิด” อยู่ครบ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นัดสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง และให้สัมภาษณ์ ทุกประเด็น ตอบทุกคำถาม

หลายคำตอบของ “บิ๊กตู่” เหมือนเป็นการสั่งลา-มื้อสุดท้าย

“บิ๊กตู่” เปิดบทสนทนา-เปิดโอกาสให้นักข่าวถาม… “ถามมาเถอะ รับได้”

5 ปีที่ผ่านมานับว่ายาก-วันหน้ายิ่งยากกว่า

“วันนี้เดินหน้ามาด้วยกัน 5 ปีด้วยกัน ก็รู้ว่าอะไรดีขึ้นบ้าง อยากให้ทุกคนช่วยกัน แต่ปัญหา คือ คนไทยทั้งประเทศต้องร่วมมือกัน รัฐบาลไหนก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่ร่วมมือกันก็ลำบาก”

“อยู่มา 5 ปีก็มีเลขา ฯ (พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี) ต่อไปจะอยู่หรือไม่อยู่ก็แล้วแต่ท่าน ผมบังคับใครไม่ได้ ใครทำงานเหนื่อยมาก อยากพักผ่อน ไม่ว่ากัน”

“ทำยังไงก็ไม่ลืมรักแรก (พล.อ.วิลาศ) ทำไงก็ไม่ลืมรักแรก ก็แล้วแต่ เดินไปตามวิถีทาง ถ้าเพื่อความเชื่อมั่นก็ต้องทำ เชื่อมั่นทั้งเราและภายนอก ถ้าเราเชื่อแล้วคนอื่นไม่เชื่อก็ลำบาก”

“คนที่เป็นเลขา ฯ ต้องเป็นหลักให้นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ไม่ใช่ ส่วนจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ ขอดูก่อน มีคนดี ๆ อีกตั้งเยอะ ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน นักการเมืองดี ๆ ก็มีเยอะ”

“ทุกคนเรียนรู้แล้วว่าบ้านเมืองมีปัญหาอะไรมาบ้าง ต้องเดินหน้าไปอย่างไร วันนี้ทุกคาดหวัง วันหน้าก็คาดหวังอีกจากการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง คิดว่านักการเมืองก็รู้นะ นักการเมืองหลายท่านก็เห็นว่าจะปรับเปลี่ยนการทำงานให้ดีขึ้น ผมไม่อาจกล่าวว่าวันนี้ดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน”

“สิ่งสำคัญในวันนี้ คือ ความรัก ความสามัคคี จิตสำนึก เมื่อเช้าก็เอาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ การลงทุน มาดู รัฐบาลไม่ได้มองแต่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเดียว แต่รัฐบาลทำทุกอัน ซึ่งกำลังให้ทบททวนเรื่องการลงทุนของบริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็ก โดยเฉพาะบริษัทคนไทยในประเทศไทย เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ”

“วันนี้ทุกเรื่องยากที่กฎหมาย อยากให้ทำโน่นทำนี่ไม่ง่ายหรอก วันหน้ายิ่งยากใหญ่ เพราะต้องเข้าไปสู่ระบบประชาธิปไตย ระบบการเมือง เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเดินหน้าไปด้วยกฎหมาย กฎระเบียบ ถ้าทุกคนเคารพกฎหมาย กฎระเบียบ ทุกอย่างก็ไปได้”

“วันนี้สิ่งสำคัญที่อยากจะบอก คือ ทำอย่างไรที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนให้มีการใช้จ่าย คนมีตังค์เขามีอยู่นะ ถ้าทุกคนบอกว่าไม่ควรใช้จ่าย ไม่ใครใช้จ่ายตอนนี้ ไม่มั่นคง มันจะไปได้ไหม เพราะภาคการผลิตก็ผลิตทุกวัน จะเก็บเงินไว้ทำอะไร มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อยอย่างพอเพียง มีน้อยแล้วใช้มากก็วุ่น หนี้ก็เพิ่มขึ้น หนี้ไม่มีประโยชน์ลำบาก”

เปิดอก-โผรัฐมนตรีใหม่ คุณสมบัติประธานสภาฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ว่า เป็นกลไกของพรรคการเมืองที่จะเสนอขึ้นมา หลักการสำคัญ คือ เคารพเสียงของประชาชน แต่ละพรรคมีนโยบายดี ๆ หลายเรื่อง ต้องรับเข้ามาในคณะรัฐมนตรี (ครม.)

“อย่าคิดว่าเป็นการให้เก้าอี้ ต้องมองว่าจะทำให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไรใน ครม. ซึ่งกฎหมาย กฎ ระเบียบหลายอย่างเปลี่ยนไป ไม่สามารถทำได้เหมือนรัฐบาลในอดีตและอยู่ในการเฝ้ามองของประชาชน เช่น พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลัง บีโอไอ”

สำหรับคนที่จะมาเป็นประธานสภาจะต้องรู้งานในสภา ที่มีชื่อนายบัญญัติ ยังไม่รู้ คุยกันอยู่มั้ง แต่ประธานสภาไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม ยุติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ตามครรลอง ไม่ใช่ทำตามใจได้ สมาชิกเยอะแยะ

ส่วนเรื่อง ส.ว.250 คน ไม่ต้องกังวลเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ปล่อยให้ทำงานไปก่อน วันหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปก็ได้

ส่วนการบริหารรัฐบาลผสม 20 พรรคอาจจะบางพรรคไม่พอใจในการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง เป็นเรื่องของพรรคการเมืองไปก่อนและท้ายสุดคนที่ตัดสินใจคือนายกรัฐมนตรีคนใหม่

“ใครจะเป็นยังไม่รู้เลย เขาจะเลือกใครยังไม่รู้เลย แล้วมาบอกว่าฉันจะเป็น จะเป็นอยู่เนี่ย”

ยังไม่มั่นใจว่าจะคืนเก้าอี้ดับเบิ้ลเป็นนายก ฯ

ขึ้นอยู่กับมติของสองสภา (ส.ส.+ส.ว.) เป็นคนเลือก แม้มี ส.ว.250 คนอยู่ในมือ ส.ว.ก็มีสมอง อย่างน้อยก็ 50 คนที่ผมไม่ได้เป็นคนเลือก

“ต้องคุยกัน ร่วมมือกัน จะ 20 พรรค 30 พรรค 50 พรรคก็ชั่งมันเถอะ ถ้าทุกคนมองประเทศชาติ ประชาชน อย่างที่กล่าวอ้างกันมาตลอดเวลา ทำได้จริงหรือไม่ ต่อไปประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน วันหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกก็ได้”

“ผมพูดในฐานะประชาชน วันนี้จะเป็นอะไรไม่รู้ ไม่เป็นก็กลับบ้านนอน แล้วอย่าคิดถึงผมนะ”

4 เก้าอี้ ให้พรรคร่วมไม่ได้ กลาโหม มหาดไทย คมนาคมและคลัง

ควรจะอยู่ที่กับฝ่ายความมั่นคงไหมล่ะ ใครจะอยู่กับพรรคหลักไหม ใช่ไหม เพื่อจะดูแลให้เดินหน้าไปได้ อย่าไปมองว่าหวงผลประโยชน์ไม่ใช่ เพราะผมไม่เคยมีผลประโยชน์นี่นา

อยากให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กลับมาทำงานต่อ ?

ถ้าถามว่า อยากไหม ก็อยาก เพราะไว้ใจกันมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองด้วย ผมก็กังวลเรื่องสุขภาพของท่าน เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องชวน เดี๋ยวก็คุยกัน ส่วนท่านพลเอกอนุพงษ์ เรื่องของท่าน แล้วแต่ท่าน

เก้าอี้ รมว.คมนาคม-คลัง ควรจะอยู่พรรคหลัก ?

ไม่รู้ ๆ ๆ เดี๋ยวเขาคุยกันอยู่ ให้เขาคุยกันก่อน แล้วถ้าผมเป็นนายกฯ แล้ว ค่อยมาคุยกันอีกที

“วันนี้ไม่ใช่ผมคนเดียว วันนี้เดินหน้าไปทีละขั้น ประธานสภา ประธานวุฒิสภา เลือกนายกฯ จัด ครม. ต้องไปกันให้ได้ ทำงานร่วมกันได้ ถ้าตีกันไปกันมาก็ไปไม่ได้”

“แต่ละพรรคอย่ากังวล ผมให้เกียรติทุกพรรค หลักการของนายกรัฐมนตรีทุกคนต้องมองสัดส่วน ความเหมาะสม เสียงจากการเลือกตั้งของประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณา แต่ใครจะเหมาะสมตรงไหนค่อยว่ากันอีกที ให้บ้านเมืองไปได้”

“ทุกคนมีเจตนารมณ์ในการทำการเมืองเพื่อประเทศชาติไม่ใช่เหรอ ชาติ ศาสตร์ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน อันนี้เป็นม็อตโต้ของใคร ขอทำให้ได้จริง ๆ เถอะ”

ส.ว.250 คนจะแตกแถว ?

ไม่รู้….จะไปคุมอะไรเขา

ผมจะทำได้อย่างเดียว คือ ทำความดี ประพฤติตนเป็นเยี่ยงอย่าง เป็นตัวอย่าง สุดแล้วแต่ว่าเขาจะเชื่อมั่นผมแค่ไหน แหม่ ลูกทุกคนยังถูกเลี้ยงมาต่างกันเลย แต่เรารักทุกคนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำได้เท่าไหร่

ปรับตัวเมื่อเป็นนายก ฯ จากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ?

พูดคุยกันมากขึ้น ตอนนี้ทุกคนรอเพียงตั้งรัฐบาลเสร็จเพราะทุกอย่างปูพื้นฐานไว้หมดแล้ว เมื่อได้นายกรัฐมนตรี ได้รัฐบาลใหม่ ใครก็ได้ เขาก็พร้อมที่จะเต็มที่

รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ-อยู่ไม่ยืด ?

ไม่ยืดก็ไม่ยืด ให้เวลาเขาหน่อยสิในช่วงเปลี่ยนผ่าน คิดแค่นี้ ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น วันหน้าถ้าทุกคนแสดงผลงานออกมา วันหน้าถ้าหากมีการเลือกตั้งใหม่เขาก็พร้อมที่ Up ขึ้นมา ไม่ใช่หวงไว้ตลอด ไม่ใช่ ระยะเปลี่ยนผ่านทุกคนต้องปรับตัว

สืบทอดอำนาจ ?

มาตรา 44 ไม่มี ย้ายใครก็ไม่ได้ การใช้มาตรา 44 ที่ผ่านมาทั้งหมดเพื่อปลดล็อกปัญหาต่าง ๆ ปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ ลงโทษเมื่อมีความผิด

นายก ฯ จากการเลือกตั้ง ลบปม นายก ฯ ทหาร ?

ผมไม่มีปม เพราะผมเข้ามาเพราะความจำเป็นทางการเมือง สถานการณ์ในวันนั้น วันนี้ผมจะมายังไง ผมก็ยังเป็นผม เป็นตัวของผมเอง คือ ประเทศชาติ ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์และประชาชน ไม่มีอย่างอื่น ยืนยันไม่ต้องการผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องการชื่อเสียงด้วย

สิ่งที่ต้องปรับมีอย่างเดียว คือ พูดให้ช้าลง ทำหน้างอให้น้อยลง

ชีวิตครอบครัวที่เปลี่ยนไป

ครอบครัวก็คือครอบครัว ย่อมห่วงเป็นธรรมดา สิ่งที่ทำให้ผมอยู่ได้ทุกวันนี้ คือ ครอบครัวนะ ถามว่าเขาอยากให้ผมอยู่ไหม เขาไม่อยากให้ผมอยู่หรอก

ถ้าเราอยู่ อะไรที่ยังทำไม่สำเร็จ ถ้าได้อยู่ก็ทำให้สำเร็จ ทุกอย่างต้องเดินเป็นขั้น ๆ ไม่มีอะไรที่สั่งได้วันเดียวแล้วมันจบหรอก กฎหมายบางกฎหมายมีหลายกระทรวง เช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม ต้องมีคณะกรรมการที่ดิน เรื่องกัญชา ขณะนี้ก็เดินหน้าไปได้ระดับหนึ่ง ทั้งหมดไม่สามารถทำได้ตามใจที่ต้องการ เป็นขั้นเป็นตอน มีระยะเวลา

“นโยบายต่าง ๆ (กัญชา) จะทำได้หรือไม่ได้ต้องมาหารือกันใน ครม. ทุกกระทรวง พิจารณาร่วมกันทั้งหมด ไม่ใช่อนุมัติแล้วได้เลย”

สมคิด ยังยึดทีมเศรษฐกิจ ?

เดี๋ยวเขาก็คุยกัน ทำไม รังเกียจอะไรเขา…เป็นห่วงว่าอยากให้อยู่ หรือ ไม่อยากให้อยู่

ทุกคนทำงานเต็มที่ เดินมาจังหวะ เป็นขั้นเป็นตอน ท่าน (สมคิด) รู้เรื่องทั้งอดีต ปัจจุบันและทำอนาคตกับผม ก็สุดแล้วแต่จะว่ากันอย่างไร เขาคุยกันอยู่

พรรคร่วมรัฐบาลอาจจะมาช่วยเสริมทีมเศรษฐกิจสมคิด หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีตอบว่า … Ok ก็ช่วยได้ ช่วยได้หลายอย่าง เป็นรัฐมนตรีก็ได้ รัฐมนตรีช่วยก็ได้ เป็นทีปรึกษาก็ได้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีก็ได้อีก มีตำแหน่งเยอะแยะ ประธานกรรมาธิการก็มี

“ถ้าทุกคนมุ่งจะเป็นนายก ฯ กัน มุ่งจะเป็นรัฐมนตรีกัน มันก็มีตำแหน่งเดียว ช่วงนี้ต้องว่ากันไปก่อน ให้มันเกิดขึ้นให้ได้ ให้มันต่อเนื่อง แล้วจะเปลี่ยนแปลง ปรับตรงไหนค่อยว่าไป

มาตรา 44 กับอนาคตรัฐบาล

ใช้กลไกประชาธิปไตยให้เต็มที่ ยึดกฎหมายเป็นหลัก ถ้าใช้ช่องว่างทางกฎหมายมาสู้กันก็ไปไม่ได้ ทะเลาะกันอีก พ.ร.บ.ชุมนุม

ความเห็นเรื่องคดีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และสถานภาพพรรคอันดับ 3

เป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ได้สู้กับผม…เขาอยู่ฝ่ายไหนล่ะ เขาอยู่ฝ่ายค้าน จบไป เขาคงไม่อยู่ฝ่ายทางนี้มั้ง เขาก็แสดงทีท่าชัดเจนแล้ว ผมไม่ได้รังเกียจเขาหรอก แล้วแต่ แต่อย่างทำผิดกฎหมาย

ประเมินการทำงาน 5 ปี คสช.

พอใจ เดินมาได้ถึงขนาดนี้ จริง ๆ ยากมาก หลายคนไม่เข้าใจ ง่าย ทำไมไม่ใช้อำนาจ มันก้ำกึ่งนะ ระหว่างการใช้อำนาจกับใช้ความร่วมมือ ใช้ความเห็นชอบร่วมกัน ถ้าใช้อำนาจ หลักในการปกครอง ทหารมีวินัย มีข้อบังคับ มีระเบียบ มีการลงโทษ เข้มแข็ง เด็ดขาด เพราะต้องไปรบ ทหารชายแดนก็ถือว่าไปรบ อยู่เพื่อไม่ให้รบ

ต้องไว้ใจกันในการทำงาน ชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฏก็อยู่ได้หมด ให้กำลังใจ ส่งเสริมให้คนทำความดี ประเทศไทยต้องมีคนดีมากกว่า จิตสำนัก คนไม่ดีก็ต้องให้โอกาสตามกฎหมาย ให้แก้ตัว อยู่ร่วมกับสังคมในวันหน้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผมก็คนไทย นักการเมืองก็คนไทย แล้วจะมาทำลายกันเองทำไม ความเห็นไม่ตรงกันเหรอ ก็ไม่ควรเอาประเทศชาติเป็นเดิมพัน

คาดหวังว่า มันต้องดีกว่านี้ เพราะวันนี้ยังมีความขัดแย้ง

 


ภาพจาก : สำนักโฆษกฯ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี