ครั้งแรกตั้งแต่ 2475 “พิธีเปิดประชุมรัฐสภา” ที่กระทรวงต่างประเทศ

ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2562 เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเชิญเสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ไปทรงเปิดประชุมรัฐสภา ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งนี้ “รัฐพิธีประชุมสภา” เริ่มมีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม2476ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวภายหลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปีพ.ศ. 2475 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แต่ก่อนหน้านั้น พ.ศ.2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯตั้ง “สภากรรมการองคมนตรี” ขึ้นและได้เปิดประชุมครั้งแรกในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2470 จึงเป็นพระราชพิธีอันเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยตรง

แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดประชุมด้วยพระองค์เอง แต่ได้พระราชทานพระราชดำรัสให้เจ้าพระยามหิธร ราชเลขาธิการ อัญเชิญไปอ่านในการเปิดประชุม  พระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “…ท่านย่อมทราบแล้วว่าตำนานของกรุงสยามตั้งแต่โบราณกาลมาการปกครองประเทศย่อมอยู่ในพระราชอำนาจอันสิทธิ์ขาดของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียว แต่เมื่อบ้านเมือง เจริญขึ้น มีราชการมากขึ้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ทรงตั้งแต่งผู้ที่ทรงวางพระราชหฤทัยเป็นเสนาบดี ให้บังคับบัญชากระทรวง ทบวงการต่าง ๆ เพื่อปลดเปลื้องพระราชภาระ…”

หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง  ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในวันที่ 28 มิถุนายน 2475 ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ได้อาศัยราชประเพณีที่ถือปฏิบัติมาใช้เพื่อการเปิดประชุม โดยรัชกาลที่ 7 รับสั่งให้เจ้าพระยามหิธร เสนาบดีกระทรวงมุรธาธร อัญเชิญไปอ่านเปิดการประชุม ความว่า

“ วันนี้ สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมเป็นครั้งแรก นับว่าเป็นการสำคัญอันหนึ่งในประวัติการณ์ของประเทศอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าเชื่อว่า ท่านทั้งหลายคงจะตั้งใจที่จะช่วยกันปรึกษาการงานเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศสยามสืบไป และเพื่อรักษาความอิสรภาพของไทยไว้ชั่วฟ้าและดิน ข้าพเจ้าขออำนวยพร แก่บรรดาผู้แทนราษฎรทั้งหลายให้บริบูรณ์ด้วยกำลังกาย กำลังปัญญา เพื่อจะได้ช่วยกันทำการให้สำเร็จตามความประสงค์ของเราและของท่านซึ่งมีจุดมุ่งหมาย อันเดียวกันทุกประการเทอญ”

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบันทึกรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา อาจกล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปี นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475  ที่ “รัฐพิธีเปิดประชุมสภา” ไม่ได้ประกอบพิธี ณ ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต

“วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ที่เปิดเผยเหตุผลว่า “เนื่องจากเกี่ยวพันกับสถานที่เมื่อพระที่นั่งอนันตสมาคมที่ใช้ทำพิธีเปิดประชุมสภาฯ ปิดปรับปรุง จึงต้องมีการเตรียมสถานที่ใหม่”

“ส่วนเหตุที่ครั้งนี้เรียกว่าพิธี จะเรียกว่ารัฐพิธีก็ได้ แต่อยากจะเรียกว่าพิธี เพราะในหมายกำหนดการเรียกว่าพิธี เนื่องจากไม่ได้มาทำพิธีที่รัฐสภา แต่ในความหมายของกฎหมายเรียกว่ารัฐพิธี”

“ห้องประชุมวิเทศสโมสร” กระทรวงการต่างประเทศ ผ่านการประกอบพิธีสำคัญทางรัฐสภามาแล้ว 1 ครั้ง คือ ครั้งที่รัฐบาล  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้แถลงนโยบายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เมื่อวันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

โดยเปลี่ยนสถานที่การประชุมในการพิจารณาคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จากอาคารรัฐสภาไปยังห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากมีเหตุการณ์ผู้ชุมนุมประท้วงทำการปิดล้อมอาคารรัฐสภาจนทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชุมได้ซึ่งที่ประชุมที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นั่งเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์

จากนั้นประธานรัฐสภาได้ให้เลขาธิการรัฐสภาเชิญพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมรับทราบ 2 ฉบับ คือ 1. พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

และ 2.พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 จากนั้นประธานรัฐสภาได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องด่วน คือ คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 176 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จากนั้นเป็นช่วงเวลาที่นายอภิสิทธิ์ แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ