“นิวเดม-เก่าแก่” ประชาธิปัตย์ ยื้อสุดตัวกั๊กร่วมพปชร. รัดคองูเห่า ฟื้นชีพพรรคต่ำร้อย

การต่อรอง-ต่อขาพรรคร่วมรัฐบาล 18 พรรค 259 เสียง ที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำ ตอกลิ่มความขัดแย้ง “ศึกใน” ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อย่างปฏิเสธไม่ได้

“ขออนุญาตลาออกจากกลุ่ม เพราะรับการกระทำวันนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เข้าใจว่าการเมืองคือเรื่องสีเทา แต่ไม่ยืนยันอุดมการณ์ของตัวเอง แบบนี้มันไร้เกียรติ”เป็นข้อความ “อดีตผู้สมัคร ส.ส.” ของกลุ่ม “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่” หรือ “นิวเดม” ก่อนจะอัปเปหิตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ 93 คน ภายหลังการประชุมสภา ฯ นัดแรกลงมติเลือก “ชวน หลีกภัย” เป็นประธานสภา ท่ามกลางการชิงไหวชิงพริบ-เกมการเมืองท่วมสภา

1 แก๊ง-วัยละอ่อน ที่มี “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” หลานชาย “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้า “แก๊งไอติม” งัดอุดมการณ์ 73 ปี ขึ้นมาฟาดฟัน “คนกันเอง” – สนับสนุนแนวทาง “ฝ่ายค้านอิสระ”

“นี่อาจจะเป็นโพสต์สุดท้ายของผม…ถ้าพรรคมีมติสนับสนุน นายประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ ผมจะต้องขอยุติบทบาททางการเมือง จนกว่าจะมีเหตุผลที่ดีพอที่จะกลับมาอีก”นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย สมาชิกกลุ่ม “นิวเดม” โพสต์ข้อความขอยุติบทบาทในพรรค ภายหลังพลังประชารัฐส่งเทียบเชิญประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล

ขณะที่ 2 ก๊ก-วัยเก๋า ระหว่าง “กลุ่มเพื่อนถาวร” กับ “กลุ่มเพื่อนอภิสิทธิ์” เล่นเกมจิตวิทยา-วิชามาร ปล่อยข่าว “เตะตัดขา” นายอภิสิทธิ์ เตรียมลาออกจาก ส.ส.บัญชารายชื่อ หากที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) กับ ส.ส. มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชารับ-สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายก ฯ อีกสมัย

“กรณีที่มีข่าวออกไปทางสื่อเกี่ยวกับผม ขอเรียนว่าผมยังไม่เคยให้สัมภาษณ์ใด ๆ ขอให้ฟังจากการให้ข่าวที่เป็นทางการจากผมเท่านั้นครับ”นายอภิสิทธิ์ดับข่าวเลื่อยขาเก้าอี้ผ่านแอฟลิเคชั่นไลน์ @Mark_Abhisit

ก่อนจะมีข่าวสะพัดอีกรอบ ว่า “อภิสิทธิ์” ได้ร่างหนังสือเตรียมลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ หากประชาธิปัตย์มีมติตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐและสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี หลังแกนนำพลังประชารัฐเดินทางมาเทียบเชิญประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล

ทว่า คราวนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ปฏิเสธข่าวลือ แต่ “โนคอมเมนต์” ทิ้งไว้เป็นปริศนา-ระเบิดเวลา

ด้าน “กลุ่มเพื่อนถาวร” ถึงแม้นักสังเกตการณ์ทางการเมืองจะฟันธงไปแล้วว่า ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐแน่นอน นับตั้งแต่ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวแถว-ศิษย์เก่าพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม ชูชื่อ “ชวน หลีกภัย” นั่งบัลลังก์ประมุขนิติบัญญัติ แบบ “ไร้คู่ชิง” ที่เหลือ คือ “สินสอด” และ “พิธีกรรม”

ทว่าด้วยความขบเหลี่ยมกันภายในพรรคกันถึง “สามก๊ก” ของประชาธิปัตย์ จึงไม่มีใครรับประกันว่า จะไม่มี “งูเห่า” เกิดขึ้น หาก “มติพรรค” ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายก ฯ จนต้องปล่อย “ฟรีโหวต”

ทำให้ประชาธิปัตย์ “เจ้าสาว” ต้องเรียกแพง-เรียกหนัก โดยเฉพาะกระทรวงเกรดเอ-เกษตรและสหกรณ์ เพื่อเก็บเล็กผสมน้อย “คะแนนนิยม” หากจับพลัดจับพลูรัฐบาลอายุสั้น-เลือกตั้งใหม่

แถมพ่วงด้วย “ลูกติด” แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายอภิสิทธิ์ ทำคลอดเอาไว้ตั้งแต่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งการลงประชามติ เพื่อเรียกศรัทธาอุดมการณ์ “เสรีนิยมประชาธิปไตย” หลังจากตลอด 10 ปีที่ผ่านมา “พรรคเก่าแก่” ไม่หลงเหลือต้นทุนของพรรคแถวหน้า-ตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย-ต่อสู้เผด็จการทหาร

“ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่เจาะจงมาว่าถ้าเป็นตนแล้วจะยอมรับ ถ้าต่อรอง ผมคงไม่รับ ไม่มีเงื่อนไข แม้กระทั่งเรื่องโควตา”นายชวนตอบข้อสงสัยเก้าอี้ประธานสภาฯ-ต่างตอบแทนเข้าร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐหรือไม่

แฟ้มภาพ

 “จะใช้โอกาสนี้ทำให้ดี ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสถาบันนิติบัญญัติมากขึ้น สำคัญที่สุดจะต้องมีกระบวนการที่รับปัญหาของประชาชนผ่านผู้แทน นำมาสู่สภา และสภาเป็นศูนย์กลางเพื่อส่งต่อไปยังฝ่ายบริหาร และฝ่ายบริหารสามารถใช้สภาส่งไปยังประชาชน ผ่านผู้แทนของเขา สภานิติบัญญัติไม่เพียงแต่ออกกฎหมายและมีหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายนิติบัญญัติในระบบนี้เป็นผู้เลือกรัฐบาล”

“ยอมรับว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาภาพของสภาในฐานะที่เป็นสมาชิกสภามา 50 ปี รู้สึกว่าช่วงหลังๆ เราได้รับการมองไปในทางลบและถูกวิจารณ์ในทางที่เสียหาย ซึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่”คำเปิดใจของนายชวน-ว่าที่ประธานสภา ฯ คนใหม่

การตัดสินใจร่วม-ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐและสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายก ฯ อีกคำรบ ของประชาธิปัตย์ครั้งนี้ จึง “เดิมพันสูง” ทั้งสถานะฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติของประชาธิปัตย์ เพื่อกู้วิกฤตจาก “พรรคต่ำร้อย” กลับมาเป็น “พรรคทะลุร้อย” ให้ได้