“ธนาธร” โชว์วิสัยทัศน์นอกสภา ต้องกล้าฝัน กล้าเปลี่ยน พร้อมเป็นนายกฯ ที่พาประเทศไปข้างหน้า

ภายหลังที่มีการถอนญัตติแสดงวิสัยทัศน์บุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตัวแทนบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในฝั่งพรรคเพื่อไทย 7 พรรค ได้แถลงบริเวณจุดแถลงข่าวด้านล่างห้องประชุมสภา ว่า น่าเสียดายที่ตนอดแสดงวิสัยทัศน์ว่า หากได้รับเลือกเป็นนายกฯ จะนำพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างไร จึงขอพื้นที่ตรงนี้สื่อสารวิสัยทัศน์ไปยังคนไทยทุกคนในฐานะแคนดิเดตนายกฯ หากอยากให้สังคมไทยเป็นของคนกลุ่มเดียวในสังคมมีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย โดยไม่ยึดหลักความชอบธรรมใด ก็คงไม่ต้องฟัง แต่ใครอยากเห็นสังคมไทยที่เป็นของคนทุกคน เคารพเสียงประชาชน คนไทยสามารถยืดอกได้อย่างสง่างาม ท่านคิดเหมือนตน ท่านมีความฝันเหมือนตน
“ผม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของประชาชนไทย ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเป็นจริง จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง และจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่พาประเทศไทยไปข้างหน้า” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธรกล่าวว่า ประการแรก นายกฯ แห่งความจริง ต้องยอมรับว่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทยยังไม่ดีพอ อันเกิดจากปัญหาฐานราก และปัญหาเฉพาะตัว GDP ไม่อาจสะท้อนความจริงได้อีกต่อไป งบประมาณถูกใช้ไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ คนจำนวนไม่น้อยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ จากผู้มีอำนาจ เพื่อจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เราจำเป็นต้องมองประเทศไทยที่เรารัก ด้วยสายตาแห่งความเป็นจริง ต้องยอมรับว่า ปัญหาเหล่านี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เศรษฐกิจและการเมืองคือ เรื่องเดียวกัน มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก ต้องแก้ปัญหาพร้อมกัน เช่น ปัญหาทุนผูกขาดก็แก้ไม่ได้ หากไม่แก้ระบบอุปถัมภ์เส้นสาย ความจริงในสังคมโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน สงครามการค้า มีพลวัตรเปลี่ยนแปลงเร็ว การส่งออกที่ถดถอยกระทบต่อเราทุกคน ไม่ว่า จะทำอะไรอยู่ที่ไหน ดังนั้นผู้นำของประเทศไทย ต้องรู้เท่าทันยุคสมัยเท่าทันโลก ประเทศไทยต้องวางตำแหน่งแห่งที่ให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยการใช้ประโยชน์จากโลกาภิวัฒน์ให้ได้

นายธนาธรกล่าวว่า สอง นายกฯแห่งความเปลี่ยนแปลง ต้องการชนปัญหาที่ต้นตอ ต้องกล้าฝัน ต้องกล้าเปลี่ยน สังคมไทยผ่านวิกฤตมามากมาย ซึ่งคนไทยก็ร่วมแรงกันฟันฝ่ามาได้ แต่วิกฤตคราวนี้ไม่ใช่สงครามรบกัน แต่เสมือนกบที่กำลังถูกต้มในน้ำที่กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะรู้ว่า โลกเปลี่ยนไป ก็อาจสายไปเสียแล้ว การบริโภคการค้าการลงทุนอ่อนกำลังลง ในขณะที่หนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะสูงขึ้น บริษัทขนาดใหญ่เติบโต แต่บริษัทเล็กไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ ความเหลื่อมล้ำทะยานมากขึ้นทุกปี แม้น้ำจะยังไม่เดือด แต่ก็ถือว่า ร้อนขึ้นทุกขณะ และเมื่อน้ำเดือดก็อาจสายไปเสียแล้ว

“การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่อาจสำเร็จเพียงข้ามคืน หรือเพียงคนๆ เดียว แต่ต้องทำงานอย่างเป็นทีมและเป็นระบบ โดยทางออกที่ชัดเจนมีทางเดียวคือ เผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เผชิญกับทุนใหญ่ และต้องกล้าชนกับความไม่เป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมา นำบทเรียนจากต่างประเทศที่ผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้ว มาประยุกต์ใช้กับสังคมไทย” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธรกล่าวว่า ประการสุดท้าย นายกฯที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า นี่คือภารกิจของชีวิตตน และ ส.ส.ทุกคนที่มีความฝันเหมือนตน การพัฒนาเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา เรากำลังโดนประเทศที่เริ่มต้นพัฒนาเศรษฐกิจใกล้เคียงกับเราแซงหน้าเราไปทีละประเทศมากขึ้นทุกที ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ในคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่ตอนนี้ รุ่นลูกของเรากำลังจะโดนเวียดนามแซง ซึ่งผมได้ยินตั้งแต่เล็กจนโตว่า ไทยคือประเทศกำลังพัฒนา เชื่อว่าทุกคนคงไม่พอใจ ประเทศไทยมีสามารถมีสถานะเป็นประเทศโลกที่ 1 ได้ ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว เพราะเรามีศักยภาพ มีทรัพยากรเพียงพอ ที่จะกระจายความมั่งคั่งให้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียม ทำให้ จะดีแค่ไหน ถ้าเราสามารถส่งต่อ ประเทศไทยที่อยู่ในโลกที่หนึ่ง ให้กับลูกหลานของเราได้ ประเทศไทยที่คนมีสิทธิเสรีภาพ มีความเป็นธรรม และไม่มีรัฐประหาร


“ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่พาประเทศไทยไปข้างหน้า และขอยืนยันหลักการประชาธิปไตยอย่างแน่วแน่อีกครั้งว่า ผมจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านระบอบรัฐสภา ใช้กลไกที่ยึดโยงกับประชาน มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลยึดมั่นในระบบนิติรัฐ และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขควบคู่กับระบอบประชาธิปไตยอย่างมั่นคงสถาพร แม้จะยาก จะนานเพียงใด ก็ต้องยืนยันเส้นทางนี้ ไม่มีทางลัด การด่วนรัฐประหาร ล้มกระดาน บิดเบือนเสียงของประชาชนมีแต่จะพาประเทศไทยเข้าสู่ทางตัน เราต้องช่วยกันทำให้ ส.ส. เป็นผู้แทนของราษฎร ไม่ใช่ ตัวแทนของอำนาจนอกระบบ อำนาจทหาร และอำนาจทุน ช่วยกันทำให้รัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ เป็นสถานที่ที่ปัญหาของประชาชนถูกนำมาถกเถียงเพื่อหาทางออก ไม่ใช่ สถานที่ที่ผู้คนเอือมระอา เสียดายคะแนนเสียงของตัวเอง และหมดศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งหมดนี้เป็นภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ ในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์” นายธนาธรกล่าว