“เพื่อไทย” ลับฝีปากเปิดศักราชฝ่ายค้าน อภิปรายโชว์โซเชียล-ตรวจสอบทุกตารางนิ้ว

แม้ตามทฤษฎีพรรคการเมืองฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย นำโดยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย จะยังมีสิทธิเป็นขั้วรัฐบาล

แต่ในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะรวบรวมกำลังเสียงในสภาได้แค่ 244 เต็มที่ 246 เสียง กลายเป็นเสียงข้างน้อยทันที ขั้วพรรคพลังประชารัฐ ปิดดีลจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

สถานะในสภาของพรรคเพื่อไทยและพันธมิตร จึงเป็นแค่ “ฝ่ายค้าน”

พรรคเพื่อไทยเคยเป็นฝ่ายค้านมาแล้ว 1 ครั้ง หลังจากการเมืองพลิกขั้วเมื่อปลายปี 2551 เมื่อพรรคประชาธิปัตย์จับมือพรรคร่วมรัฐบาล หักเหลี่ยมเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมา

เกมในสภา 2562 ต่างจาก 2551 เพราะเพื่อไทยประเมินสถานการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่า อาจต้องเป็น “ฝ่ายค้าน” จึงเตรียมพร้อมทำหน้าที่ “ตั้งป้อม” ถล่มฝ่ายรัฐบาล ตั้งแต่หลังเลือกตั้งจบไปหมาด ๆ

สำแดงอิทธิฤทธิ์เรียกน้ำจิ้มเบื้องต้น เมื่อวันโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเปิดประเด็นว่า มีข่าวลือว่าฝั่งพลังประชารัฐจะขอเลื่อนวาระการประชุมเลือกประธานสภาออกไป เพราะตกลงกันไม่ลงตัว

จากนั้น วาระเลือกประธานสภาก็ชักเข้า-ชักออก ชุลมุนเกือบทั้งวัน จนสภาฝุ่นตลบ-วุ่นวาย

เบื้องหลังงานสภาเพื่อไทยยกแรก มีการแต่งตั้งวิปชั่วคราวประมาณ 40 ชีวิต คุมเสียง ส.ส.ของพรรค-กำหนดจังหวะการเคลื่อนไหวในสภาผู้แทนราษฎร โดยใช้สัดส่วน วิป 1 คน คุม ส.ส. 5 คน ทำงานในลักษณะ “วอร์รูม”

แกนนำพรรค อาทิ ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรค นั่งมอนิเตอร์เหตุการณ์ในสภาทุกนาที ขณะที่ทีมวิป เช่น ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ นพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม

“วิปชั่วคราว” ทำหน้าที่เบื้องต้นไปจนถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วจะมีการหารือในกลุ่มพรรคพันธมิตร 7 พรรค แบ่งสัดส่วนตั้งเป็นวิปฝ่ายค้านตัวจริง หลังเลือกนายกฯ

“นพ.ชลน่าน” ผู้เปิดเกมแท็กติกกล่าวว่า สภาชุดนี้เป็นสภาไม่ปกติ ในอดีตต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ส.ส. และ ส.ว. จะไม่ข้องเกี่ยวกัน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนบทเฉพาะกาลเอาไว้ให้ ส.ว.ทำหน้าที่เหมือนสภาเดียวกัน เช่น การพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป ซึ่งการตรากฎหมายปฏิรูป 11 ด้าน มีด้านอื่น ๆ ที่กฎหมายอาจถูกตีเข้าเงื่อนไขปฏิรูป ให้ ส.ว.มาร่วมพิจารณา

แต่การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล อาจเป็นข้อเชิงบวกของฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งมีเสียง 246 เสียง ซึ่งเสียงมาก ๆ อย่างนี้กระบวนการตรวจสอบการทำงานจะเข้มข้น โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และการจัดตั้ง กมธ.สัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะเข้าไปครึ่งต่อครึ่ง จากจำนวนตัวเลข ส.ส.ฝั่งพลังประชารัฐ มีเสียง 254 เสียง ส่วนฝั่งประชาธิปไตย มี 246 เสียง สัดส่วน กมธ.จึงจะอยู่ที่ 18 ต่อ 17 คณะ

ส่วนการเตรียมการของเพื่อไทย จะต้องมีประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะมีการฝึกอบรม ติวเข้มมอบภาระหน้าที่ทุกอย่างต้องจบก่อนการไปทำจริง ร้อยละ 80 ทำงานล่วงหน้าไว้เรียบร้อย อีก 20 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่หน้างาน พลิกผันตามสถานการณ์ จำเป็นจะต้องใช้ไหวพริบ ถ้าหลุดก็หลุดไปเลย ต้องกลมกลืนและสอดคล้อง เช่น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเลือกประธานสภา

“นพ.ชลน่าน” ยกตัวอย่างบุคลากรของพรรคเพื่อไทย มีความเก๋าในสภา อย่าง “ไชยยา พรหมมา” ส.ส.หนองบัวลำภู “ชวลิต วิชยสุทธิ์” ส.ส.นครพนม “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม “ขจิตชัยนิคม” ไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ซึ่ง ส.ส.เหล่านี้รับมือในสภาได้ มั่นใจว่าฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่ค้านแบบตีรวน ถ้ากฎหมายดี ๆ เสนอมา 7 พรรค ยกมือพร้อมสนับสนุน ถ้ากฎหมายดีแล้วเพื่อไทยโหวตค้าน เพื่อไทยตาย แต่กฎหมายที่ไม่ดีก็จะค้านให้ถึงที่สุด

“การหารือในพรรคขณะนี้อยู่ระหว่างการหาแนวทางการทำงาน การประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกำหนดประเด็นการทำงานเบื้องต้น” หมอชลน่านกล่าว

ขณะที่ “สมคิด เชื้อคง” ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ซึ่งประจำการอยู่ในวิปชั่วคราว กล่าวถึงการทำงานในฐานะหากเป็นฝ่ายค้านว่า เท่าที่คุยกันในกลุ่ม ต่อไปนี้ถ้าเป็นฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ ไม่ประท้วงในประเด็นที่ไม่มีสาระ เพราะจะทำให้สภาป่วนเปล่า ๆ

แต่ความเป็นผู้แทนก็อาจจะมีหลุดกันบ้าง แต่เชื่อว่าฝ่ายค้านเที่ยวนี้จะทำให้ต่างไปจากเดิม เพราะประชาชนจ้องดูการทำงานของผู้แทนเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งโซเชียลมีเดีย ทั้งโทรทัศน์

ขณะที่ “ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังการประชุมสภานัดแรก แกนนำพรรคได้รับฟังเสียงสะท้อนการทำหน้าที่ของ ส.ส. ที่ได้รับการชื่นชมจากประชาชน ขณะนี้มี ส.ส.หน้าใหม่หลายคนสนใจจะเข้าฝึกอบรมการอภิปรายในสภา โดยพรรคจะเชิญ ส.ส.ฝีปากกล้ารุ่นพี่มาเป็นครูฝึกให้ อาทิ นพ.ชลน่าน นายจิรายุ

เพื่อไทย พร้อม-ตั้งป้อมฝ่ายค้าน ลับฝีปาก รับมือขั้วพรรคพลังประชารัฐเสียงปริ่มน้ำ