“อภิสิทธิ์” จับพิรุธรัฐบาลแจงยึดพาสปอร์ต “ปู” ชี้ตามระเบียบยกเลิกได้แล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ทำ หวั่นไทยตกเป็นจำเลยสังคมโลก หาก “ยิ่งลักษณ์” ขอลี้ภัยการเมือง
วันที่ 4 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีการยกเลิกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าขณะนี้เข้าเกณฑ์ในการยกเลิกแล้ว แต่เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันตามระเบียบในการขอหรือเพิกถอนพาสปอร์ตได้กำหนดคุณสมบัติบุคคลที่สามารถขอและเพิกถอนไว้ ซึ่งเท่าที่จำได้มี 2 ข้อ คือ 1.กรณีมีหมายจับ และ 2.ศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าเงื่อนไขทั้งสองข้อ ตนจึงสงสัยทำไมรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ตอบประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ตามระเบียบเป็นแบบที่ว่า แต่ใช้ดุลยพินิจว่าจะไม่ถอนก็ต้องอธิบาย การที่ให้ข้อมูลว่าต้องรอคำพิพากษาของศาลก่อนนั้น ทำให้ประชาชนสับสนและความจริงมันไม่ใช่
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เมื่อถามว่า ต้องรอยืนยันข้อเท็จจริงก่อนหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว จึงจะยึดพาสปอร์ตได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากำลังจะไปต่างประเทศแล้วมีหมายจับ ศาลห้ามออก หลักคือต้องไม่อำนวยความสะดวกให้ออกต่างประเทศได้ จะบอกว่าให้ไปอยู่ต่างประเทศก่อนแล้วจึงเพิกถอนพาสปอร์ต คือไม่ใช่เรื่อง ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลที่ดีที่ยังไม่จำเป็นต้องเพิกถอนก็ขอให้อธิบาย แต่อย่าบอกว่าไม่มีระเบียบ เพราะความจริงระเบียบกำหนดไว้
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า เท่าที่ดูไม่ค่อยมีความคืบหน้าในการติดตาม และสิ่งที่คิดว่ารัฐบาลจะต้องรับมือต่อไป คือ ถ้าออกนอกประเทศจริงคงจะมีการทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลไทยจะกลายเป็นจำเลยแทน เพราะจะทำให้เกิดความข้องใจในสังคมโลกว่าสรุปรัฐบาลไทยมีปัญหาถึงขนาดที่คนจะต้องขอลี้ภัยหรือไม่ ดังนั้น จึงสงสัยในความจริงจัง ความชัดเจนในการทำหน้าที่ของรัฐบาล ตนเป็นห่วง เฉพาะกรณีดังกล่าว เพราะเราไม่เคยเห็นอะไรที่บ่งบอกว่า ถูกคุกคามจากการใช้อำนาจจากฝ่ายบริหาร อย่างมากสุดคือติดตามใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์เกินไป แต่ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่ากระบวนการยุติธรรมหรือการร้องเรียน แปลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะผิดทุกเรื่อง เพราะเห็นยกฟ้องไปหลายเรื่อง แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต ศาลฎีกา จะกลายเป็นว่ากระบวนการยุติธรรมไทยเป็นที่ยอมรับหรือไม่
“สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือจริงจังในการติดตามตัว และรัฐบาลต้องเตรียมชี้แจงกับประชาคมโลกว่าคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคดีทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งความจริงโครงการรับจำข้าวถูกตรวจสอบก่อนที่จะรัฐประหารเสียอีก โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจในการบริหารแม้แต่น้อย แต่ถ้ารัฐบาลไม่ช่วยชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหายในกระบวนการยุติธรรม” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ที่มา : มติชนออนไลน์