“เอนก” ยันแผนปฏิรูปการเมือง ต่อยอดที่ คสช.ทำมา ลั่นแม้เวลาน้อย แต่จะไม่เหนื่อยฟรี

“เอนก” เผยแผนปฏิรูปการเมืองกรอบ 5 ปี ยึดแนวทางที่ คสช.-สปช.-สปท. ทำไว้มาต่อยอดให้เกิดผล พร้อมนำแนวทางสร้างความปรองดองบรรจุไว้ด้วย คาดสิ้น ธ.ค.นี้นำเสนอคณะกรรมการปฏิรูป 11 คณะได้ ยอมรับระยะเวลาทำแผนสั้น แต่ไม่เหนื่อยฟรี

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 กันยายน ที่รัฐสภา นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯนัดแรกว่า ที่ประชุมได้มีการชี้แจงและกำหนดกรอบการทำงานตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม 2560 โดยมีการหารือเพื่อจัดทำแผนปฏิรูปการเมือง 5 ปี ส่วนในช่วงกลางเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนนี้ จะเป็นขั้นตอนการร่างแผนปฏิรูปการเมือง คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน จากนั้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม จะนำแผนปฏิรูปการเมืองมาหารือ หากทุกฝ่ายเห็นพ้องกันก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 คณะ ในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ก่อนส่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาต่อไป

“ในการจัดทำแผนปฏิรูปการเมืองทางคณะกรรมการฯจะไม่เริ่มจากศูนย์หรือนับหนึ่งใหม่ แต่จะนำแผนที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และแนวทางที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการไว้ รวมถึงผลการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ มาต่อยอด ทั้งนี้ผมยอมรับว่า ช่วงเวลา 3 เดือนที่ทำแผนปฏิรูปการเมืองถือว่าสั้น แต่ก็มั่นใจว่าสิ่งที่ทำจะไม่เหนื่อยฟรี และไม่คาดหวังว่าแผนจะครอบคลุมทุกอย่าง แต่รัฐบาลก็ตั้งใจอย่างเต็มที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยกล่าวไว้ว่า คณะกรรมการชุดนี้จะเป็นชุดสุดท้ายในการทำแผนปฏิรูปการเมือง จึงขอให้ตั้งใจทำงานเต็มที่และหากเห็นว่าจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายใดก็ให้เสนอมา ซึ่งนายกฯเองก็กำชับว่าอย่าใช้งบประมาณมาก” นายเอนกกล่าว

นายเอนกกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันในการจัดทำแผนปฏิรูปการเมืองก็จะต้องมีการนำแนวทางการสร้างความปรองดองมาบรรจุไว้ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ แต่การเขียนแผนจะไม่ลงรายละเอียดที่มากเกินไป เพราะอาจส่งผลกับการทำงานของผู้ปฏิบัติงานที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนที่มีการมองว่าการจัดทำแผนปฏิรูปการเมืองอาจเป็นกับดักที่ทำให้การเมืองเข้าสู่ภาวะวิกฤตนั้น ทางคณะกรรมการฯจะต้องไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดและจะไม่ทำงานแบบผลีผลาม รวมทั้งพร้อมที่จะรับฟังคำเตือนและคำแนะนำจากทุกฝ่าย

 


ที่มา : มติชนออนไลน์