“สมคิด” โยน “บิ๊กตู่” เคาะรายชื่อครม.โผสุดท้าย เดือดไม่มีโควตาส่วนตัว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนำนายหลี่ ซี สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวริสต์จีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลกวางตุ้ง เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อข้อซักถามที่ว่าทางจีนได้สอบถามถึงการเมืองไทยหรือไม่ว่า ทางจีนไม่เคยถามอะไรที่เกี่ยวกับการเมืองของไทยเลย ไม่ว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรก็เป็นมิตรกับเราเสมอ และยืนอยู่ข้างเราเสมอ และในเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดิม ก็มีความต่อเนื่องในความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ และมีความต่อเนื่องในเชิงนโยบายอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องถามก็ทราบดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากอะไรบ้าง นายสมคิดกล่าวว่า ได้ฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และฝากให้ดูแลนักลงทุนไทยที่ไปจีน ทุกอย่างชื่นมื่น พวกเราที่มีเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ก็มาจากมณฑลกวางตุ้งทั้งนั้น หน้าตาก็คล้ายคล้ายกัน

เมื่อถามว่าความชื่นมื่นที่จะต่อเนื่องไปได้ จะต้องมีทีมงานคณะรัฐมนตรี (ครม .) มองเรื่องนี้อย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของนายกฯโดยตรง พรรคการเมืองก็ต้องเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นสมควรให้กับท่านนายกฯ การตัดสินใจก็ต้องเป็นของท่านนายกฯทิศทางข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร ต้องเลือกบุคคลที่ดีที่สุดมาทำงาน และท่านคงจะเชิญทุกท่านที่เกี่ยวข้องมา ดูเรื่องนโยบายร่วมกัน ประเทศต้องมีการขับเคลื่อน และทุกคนก็พยายามส่งคนดีให้ท่านนายกได้เลือกสรร เป็นหน้าที่ของท่าน

เมื่อถามว่าในขณะนี้ทุกพรรคได้พยายาม จับจองเก้าอี้ที่ตัวเองต้องการ นายสมคิด กล่าวว่า อย่างที่ผมได้พูดไปแล้ว พรรคก็คัดสรรบุคลากรส่งไปให้ท่านนายกฯ ท่านนายกฯก็ฟอร์มให้ดีที่สุดก็แล้วกัน เพราะว่าประเทศต้องเดินไปข้างหน้า นี่ก็เป็นธรรมชาติของการเมืองอยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่าได้เห็นข่าวที่มีการถกเถียงกันและโพสต์กันออกมา เรื่องเก้าอี้และตำแหน่งของแต่ละพรรค ควรเป็นไปตามที่ตกลงกันแล้ว นายสมคิดกล่าวว่า เห็นหน้าตาผมไหม สดชื่น ผมไม่ได้อ่าน อ่านมากก็ไม่ค่อยสดชื่น ผมว่าประเทศกำลังเข้าสู่จุดที่ดีขึ้น ก็อยากให้สามัคคีกันไว้ และท่านนายกฯก็ฟอร์มครม. ก็ให้ท่านดูให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ผมเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองก็คงมุ่งทำดีต่อประเทศทั้งนั้น

เมื่อถามต่อว่า คิดว่าทุกอย่างจะลงตัวด้วยเร็วไหม นายสมคิดกล่าวว่า

“คงอยู่ที่ท่านนายกฯ ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรควรจะเอาคนหนุ่มๆสาวๆ เข้ามาทำงานให้มากขึ้น ผู้ใหญ่อายุมากๆแล้วก็ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้”

ต่อข้อถามว่าบรรยากาศที่ออกมาเป็นการต่อรองเก้าอี้ สะท้อนถึงเรื่องอะไรบ้างไหม นายสมคิดกล่าวตอบว่าผมไม่ทราบ ผมไม่ได้อ่าน ไม่ได้ดู

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าส่วนตัวมองว่าคนเก่าๆ ควรจะถอยไปเป็นที่ปรึกษามากกว่าไหม นายสมคิดกล่าวว่าอันนี้แล้วแต่ แต่ละคน คนอายุมากก็มีประสบการณ์ที่ดี อยู่ที่สุขภาพอนามัยด้วย

“ผมอยู่มา 2 สมัย 10 ปีพอดี ผมคิดว่ารับใช้บ้านเมืองมาพอสมควรแล้ว ก็ไม่ได้หวงอะไรเลย คือถ้าจะอยู่ก็ต้องดูว่าทำอะไรให้บ้านเมืองได้ไหม เดือนหน้าก็อายุ 67 ปีแล้ว สุขภาพก็ทรุดโทรมทุกวันเห็นไหม ผมผอมลงไหม ตอนนี้ตัวเล็กกว่าภรรยาแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ชื่อของอาจารย์ยังไม่เคยหลุดจากโผ ครม. นายสมคิด กล่าวว่า ผมบอกแล้วไงว่า เป็นเรื่องของท่านนายกฯ และพยายามส่งคนดีให้ท่านนายกฯได้คัดสรร บ้านเมืองต้องไปได้ อยากให้มองในแง่ดี ทั้งจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา มาเมืองไทยหมด เราต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเรามีเอกภาพ เรามองโลกในแง่ดี

เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีเห็นศักยภาพจะอยู่ต่อได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ผมไม่ทราบครับอันนี้อยู่ที่ท่านนายกฯ”

ถามว่ามองอย่างไรที่ว่ากันว่ามีสัดส่วนในโควตาของอาจารย์อยู่ด้วยนายสมคิดกล่าวว่า ฟังไว้เลย ผมเป็นคนที่ไม่มีโควต้า ผมมาทำงานแต่ละครั้ง ผมไม่ได้รับใช้ใคร ผมมาทำงานให้บ้านเมืองเท่านั้น และการที่ผมสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ในครั้งนี้ ผมมองว่าท่านเป็นคนที่ช่วยดูแลประเทศไทยได้เท่านั้นเอง ทุกคนที่เข้ามาต้องดูแลประเทศชาติทั้งนั้น นักการเมืองทุกคนที่เข้ามาก็ต้องทำเพื่อบ้านเมือง ถ้ามาแล้วทำงานกันไม่ได้ ประเทศก็จะลำบาก ถ้าเราคิดเสียอย่างนี้ทุกคน ก็เป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันทั้งนั้น เดี๋ยวเขาก็ดีกันเองไม่มีอะไร อย่าไปอ่านมากอย่าไปลงข่าวมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้คาดหวังอะไรมากที่สุดในสมคิดกล่าวว่า “ได้เลี้ยงหลานนานๆไง”