‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณ 18 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล-ปชช. ให้โอกาสทำหน้าที่นายกฯต่อ

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 62 เวลา 13.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าพิธีรับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า โปรดกระหม่อม แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 สมัยที่ 2 ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์  กล่าว ถึงพระกรุณาธิคุณที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า

” ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและ เป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ผมและครอบครัวรู้สึกสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตาม พระปฐมบรมราชโองการ

ผมขอยืนยันว่า จะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายาม มุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็น ของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคมให้มีความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์  เกื้อกูลกันในทุกโอกาส เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย

ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน และให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทุกท่านตั้งใจไว้ ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคประชาสังคม ธุรกิจเอกชน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยของเรา   ให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป ”

โดยก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า จะเห็นได้ว่า ตนพูดอะไรไม่ได้มากจะพูดได้ต่อเมื่อเป็นนายกฯ แล้ว หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแล้วถึงจะคุยกับพรรคการเมืองได้ตามกฎหมาย ที่ผ่านมามีเพียงแต่สื่อเขียนวิเคราะห์มากมาย ตนต้องหาทางที่จะพูดคุยคำนึงถึงความเหมาะสม หาจุดที่ลงตัวให้ได้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญ รวมถึงประชาชนด้วย

“นโยบายของทุกพรรคเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้น แต่ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศในการเอานโยบายเหล่านั้นมาปรับให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งแผนงานเดิม แผนงานใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด คาดว่าเรียบร้อยโดยเร็ววัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนการยกเลิกคำสั่งคสช.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา.44 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่อยากมีไว้ สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นก็จะเร่งดำเนินการโดยฝ่ายกฎหมาย ส่วนความกังวลหากไม่ยกเลิกแล้วจะทำให้อำนาจ คสช.ดำรงอยู่นั้น ไม่ต้องกังวลทุกอย่างจะแล้วเสร็จก่อนรัฐบาลใหม่ ซึ่งรัฐบาลใหม่จะมีผลต่อเมื่อถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น รัฐบาลนี้ยังมีอำนาจอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่หายไปจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษานั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งรายชื่อสำรอง ส.ว.ตนได้ส่งไปแล้วพร้อมจะเปิดเผยในราชกิจจานุเบกษาต่อไป