เบื้องหลังโพสต์ “อนุทิน” ต่อรองเก้าอี้ผ่านโซเชียล หวัง “win win” ตามรอย “เนวิน”

ช่วงที่พรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องเคลียร์ปัญหาเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งภายใน-ภายนอกพรรค ต่อรอง-แลกเก้าอี้ กับพรรคร่วมรัฐบาลฝุ่นตลบ

จู่ ๆ เสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาโพสต์ข้อความส่วนตัว

“กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว !!!”  “คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยวฯ เปลี่ยนไม่ได้”

แค่ 1 ประโยค ทำเอาโลกโซเชียลร้อนระอุ ชาวเน็ตเข้ามาทั้งให้กำลังใจ ด่าทอ และบางข้อความ “สมน้ำหน้า” ที่ถูกหักหลัง

เป็นเอฟเฟ็กต์ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่ ภท.ภายใต้การนำของ “เสี่ยหนู” ยกมือโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2

ผ่านไป 24 ชั่วโมง “เสี่ยหนู” ไม่แคร์เสียงตำหนิในโซเชียล โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กอีกครั้ง เป็นภาพพระ พร้อมแคปชั่นใต้ภาพว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ เนื้อจัด พิมพ์ครู ดูง่าย”

แถมใช้เป็นเวทีเปิดศึกสั่งสอน “ธนกร วังบุญคงชนะ” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ “อนุทิน” เรื่องต่อรองโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี 1 ในหลายบรรทัดที่ “ธนกร” แลกหมัดกับ “อนุทิน” เช่น ไม่มี
ใครแลกอะไรกันไปมา มีแต่หาความเหมาะสม ไม่ให้คนเขานินทา ว่าเลือกกระทรวงให้บริษัท #ถูกต้องนะครับ

เมื่อมีคนโพสต์ถาม “อนุทิน” ว่า “พลังประชารัฐดูง่ายไหม ?” อนุทินตอบคอมเมนต์กลับว่า “ผมว่ายากนะครับ” เมื่อมีคนคอมเมนต์ถามว่า “รุ่นนี้ กันคนปากดี สามมิตรได้ปะคะ” อนุทินพิมพ์ตอบว่า “แบบนั้นต้องเอาตะกร้อครอบปากเท่านั้นครับ”

ก่อนหน้าที่ “อนุทิน” จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโพสต์รัว ๆ หวังผลประจานเกม “ดีล” ที่ปิดไม่ลงของฝั่งพรรคพลังประชารัฐ

“อนุทิน” รุกโซเชียลมีเดียเต็มสูบตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง มีทั้งเพจ “ผมว่าอนุทินมาว่ะ” และเพจ-เว็บไซต์ข่าว ringside การเมือง ซึ่งเมาท์ในวงนินทาการเมืองว่า เบื้องหลังผู้ผลิตก็คือ ทีมงานจากภูมิใจไทย ดันแคมเปญกัญชาเสรีจนเป็นกระแส

ลีลา-อนุทินบนเฟซบุ๊ก แม้โดนด่าเป็นพันข้อความ แต่เขาก็เด้งเชือกไปมา ผลลัพธ์สุดท้ายคือ “ยึดพื้นที่สื่อ” มัดมือพรรคพลังประชารัฐยอมปล่อยเก้าอี้ให้ภูมิใจไทยตามที่ขอ

win-win คือสูตรสำเร็จ “อนุทิน” ตามรอยพี่ใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ”

ที่ประสบความสำเร็จจากการใช้สื่อโซเชียล ทุกมิติ ทั้งแบบปาก-ต่อ-ปาก และพูดผ่านเพจสื่อส่วนตัว
อีกทั้งในอดีต “เนวิน” เคยครอบครองสื่อสิ่งพิมพ์ ใช้เว็บไซต์ส่วนตัวในการจรยุทธ์สร้างกระแสข่าวการเมืองกระหึ่มมาแล้ว