
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 กันยายน ว่าสำหรับความคืบหน้าในส่วนคดีที่ ป.ป.ช.โจทก์ ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาคดีสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ล้อมสภาวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ยื่นอุทธรณ์เฉพาะ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.จำเลยที่ 4 นั้นโดยส่งคำอุทธรณ์ผ่านแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกาเตรียมจะส่งหมายแจ้งให้ พล.ต.ท.สุชาติทราบ และให้ทำคัดค้านอุทธรณ์ยื่นกลับมาภายใน 15 วัน นับจากวันที่ พล.ต.ท.สุชาติ จำเลยได้รับหมายแจ้ง ทั้งนี้หาก พล.ต.ท.สุชาติทำคัดค้านส่งมาแล้ว ตามขั้นตอน แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกาจะรวบรวมคำอุทธรณ์ของโจทก์, คำคัดค้านอุทธรณ์ของจำเลย และเอกสารสำนวนทั้งหมด เสนอให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามที่รัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 มาตรา 195 วรรคสี่ บัญญัติ แล้วจะให้ลงมติเลือกผู้พิพากษา 9 คน ที่มีอาวุโสไม่ต่ำกว่าระดับหัวหน้าคณะในศาลฎีกาและต้องไม่เคยนั่งพิจารณาที่ตัดสินนั้นมาก่อน เพื่อเป็นตัวแทนที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวินิจฉัยคำอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งคดีสลายม็อบ พธม.ถือเป็นคดีแรกที่ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญฯ ใหม่ ขณะที่ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใหม่ยังไม่ออกมาบังคับใช้
ที่มา : มติชนออนไลน์