พรรคร่วมมีเสียว “ประยุทธ์” เผย มีบางชื่อหลุดโผ ครม. ยันกลางเดือนหน้ามีรัฐบาลชัวร์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ว่า อยู่ระหว่างการเรียกมากรอกประวัติต่างๆ เพื่อมารับรองตนเอง หากวันหน้าถ้าไม่เป็นไปตามที่รับรองก็ต้องโดนคดี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ โดยเป็นเรื่องของเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการ  แต่ตอบได้อย่างเดียวมีรัฐบาลทันเวลาแน่นอน กลางเดือนหน้ามีรัฐบาลแน่นอน

@ พรรคร่วมเสียว มีบางคนหลุดโผ

เมื่อถามว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีจะเป็นไปตามที่แต่ละพรรคเสนอมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ ยังไม่บอก บอกไม่ได้ เพราะถ้าบอกใครได้ใครไม่ได้ก็ไม่จบเสียที  เมื่อถามว่ารายชื่อที่พรรคร่วมรัฐบาลส่งมาจะมีหลุดโผบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็คงมีบ้างแหละมั้ง เพราะมีอยู่ 36 ตำแหน่ง ถ้ากระทรวงไหนมีรัฐมนตรีหลัก ถ้ามีการควบตำแหน่งก็ต้องมีรัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่ถ้าไม่เป็นรัฐมนตรีก็เป็น ส.ส.ทำงานในสภา หวังอย่างเดียวทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ทำให้ประเทศเดินหน้า ไม่ใช่จ้องจะล้มกันตลอดเวลา แต่ห้ามไม่ได้ ให้ประชาชนตัดสินเอาเองว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ”

เมื่อถามว่าจะทูลเกล้าฯ ก่อนไปประชุมผู้นำ G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิ.ย.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ประมาณนี้แหละ อย่าเอาทุกอย่างไปเป็นพระราชภาระ เป็นเรื่องของผมรับผิดชอบ ผมก็ต้องทำให้ทันตามเวลาที่กำหนด และรอถวายสัตย์แล้วกัน กลางเดือนหน้าเรียบร้อย วันนี้ยังไม่ทันตั้งรัฐบาลก็จ้องล้มรัฐบาลกันแล้ว ผมว่าไม่ค่อยดี ผมบอกต่างประเทศว่าอย่ากังวลเลยนี่แหละ Thai talk เป็นอัตลักษณ์ของเรา ความเห็นแตกต่าง”

เมื่อถามว่า จะไม่ยอมพรรคร่วมรัฐบาลไม่งอแง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องพูดหรอก เชื่อว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าทุกคนมองประเทศชาติเป็นหลัก ใช้พุทธศาสนาเข้ามานำ เดินตามพระ

@ ยังแทงกั๊กนั่งหัวหน้า พปชร.

เมื่อถามถึงการตัดสินใจการรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายกฯ กล่าวว่า “มีผลกระทบกับใครเหรอ ผมจะเป็นไม่เป็น ใครจะได้รับผลกระทบหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างไรผมก็ทำงานได้ เรื่องการเมืองก็ว่าไป แต่ต้องมีคนทำงาน”

@ ขอให้เชื่อมั่นศาล ปมหุ้นสื่อ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณี ส.ส.ถูกร้องการถือหุ้นสื่อนั้น ตนเห็นว่าโดนทั้งสองฝ่าย เป็นรื่องที่ประธานสภา ต้องนำเข้าพิจารณาในสภา ถ้าจำเป็นก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินมาก็เป็นไปตามนั้น ไม่ได้กังวลทั้งสิ้น ทุกอย่างมีพัฒนาการเรื่อยๆ ตนก็แก้ไปตามกฎหมายตามขั้นตอน ขอให้เชื่อมั่นคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งแต่ละคดีเป็นเรื่องเฉพาะตัว เฉพาะเรื่อง ไม่มีบรรทัดฐานมากมาย เพราะมันกฎหมายคนละตัว ผลออกมาเป็นอย่างไรยังตอบไม่ได้ แต่เชื่อมั่นว่าทั้งหมดต้องร่วมมือกันทำงานกันตอนนี้ อย่าไปกังวลที่ขั้นตอนยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ผิดก็ว่าตามผิด