พรรคแตก!! “บิ๊กตู่” หย่าศึก พปชร. โยกทีม “สมคิด” ขึ้นแท่น รมว.ดีอี-พลังงาน

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

โผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ท่ามกลางข่าวความ “แตกแยก” ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งประกอบด้วย “กลุ่มสามมิตร” ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำที่ถูกปรับลดจาก 3 ตำแหน่งเหลือ 2 ตำแหน่ง และนายสุริยะ ถูกโยกจาก รมว.พลังงาน เป็น รมว.อุตสาหกรรม ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย แกนนำอีกราย “หลุดจากโผ” พ้นจากการได้เป็น “ว่าที่รัฐมนตรี” ส่วน ส.ส.ภาคกลาง จ.ชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็ไม่มีรายชื่อใน “โผใหม่”

โดยว่าที่รัฐมนตรีใหม่ ในกระทรวงใหญ่ ตกอยู่ในมือของทีม “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เช่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ขึ้นเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะได้เข้ามาแทนที่ คือ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล 1 ในทีมกรรมการบริหารพรรค พปชร. “กลุ่ม 4 กุมาร” ที่เป็นสายตรง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ จากพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ซึ่งไม่เคยอยู่ในโผ กลับได้เป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วย หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

และมีกระแสข่าวที่ร้อนแรงว่าด้วยการทวงเงินในการนำมารณรงค์หาเสียงคืนจากกลุ่มสามมิตร

ท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว เช้าวันที่ 1 กค. 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธว่ายังไม่ได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์ 2/1” ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยกล่าวเพียงว่า “โผ…ยังจ้ะ”

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “โผ ครม.นิ่งแล้ว” และ “นายกรัฐมนตรีเป็นคนเด็ดขาด” เชื่อมั่นว่าปัญหาการจัดโผ ครม.จะไม่บานปลาย

ทั้งนี้ ในวันที่ 1 กค. 62 พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบหมาย พล.ท.หม่อมหลวง กุลชาต ดิศกุล คณะทำงานของนายกฯ นำเอกสาร “สารจากนายกรัฐมนตรี” ซึ่งพิมพ์ใส่กระดาษเอ 4 จำนวน 1 หน้า มาแจกจ่ายแก่ผู้สื่อข่าว โดยเนื้อหาระบุว่า

“นายกรัฐมนตรีมีความรู้สึกไม่สบายใจ และต้องขอโทษพี่น้องประชาชนแทน พปชร. ในฐานะเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากในห้วงเวลานี้มีข่าวสารความขัดแย้งภายในพรรคปรากฏตามสื่อต่าง ๆ มากมาย อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ให้ที่สุด ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างในการบริหารภายในพรรค เนื่องจากเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นใหม่สมาชิกมาจากหลายกลุ่มหลายสาขา ที่มีความมุ่งมั่นจะทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และหน้าที่บริหารใน ครม.ให้ดีที่สุด”

เอกสารจากนายกฯ ระบุต่อไปว่า “การบริหารบุคลากรเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนพึงพอใจ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรประชาชนจะมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลและทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านให้มากที่สุด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ในฐานะรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งจะถือเป็นการเริ่มต้นปฏิรูปทางการเมืองของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อมิให้การดำเนินการทางการเมืองกลับไปเป็นปัญหาเช่นเดิม จนต้องเกิดการแก้ไขปัญหาแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนไม่ต้องการขึ้นมาอีก”

ข้อความท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ไม่ได้ต้องการตำหนิใครหรือสร้างความขัดแย้งใด ๆ ขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตาม นายกฯ ครม. และ ส.ส. ทุกคนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ต้องทำงานให้ได้ เพราะทุกคนคือคนไทย แผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลประชาธิปไตยอย่างทั่วถึงเท่าเทียมและเป็นธรรม”