พรรคทักษิณ ส่ง “เจ๊หน่อย” แบ็ก สมพงษ์ คุมฝ่ายค้านในรอบ 21 ปี

ในที่สุดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีมติเลือก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ปรับโฉมครั้งใหม่ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่พรรคตกเป็นฝ่ายค้านครั้งแรก “หลังเลือกตั้ง” ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 14 ก.ค.2541 หรือเมื่อ 21 ปีก่อน

อีกทั้งผูกมัดด้วยรัฐธรรมนูญ ที่ขีดเส้นให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่มี ส.ส.มากที่สุด จะต้องเป็น “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” เหตุนี้ ที่ประชุมใหญ่เพื่อไทยจึงเลือก “สมพงษ์” ส.ส.ที่อาวุโสสูงสุด รับบท หัวหน้าพรรค-ผู้นำฝ่ายค้านในสภา”

สำหรับตำแหน่งอื่นๆ มีรองหัวหน้าพรรค 15 คน กระจายอยู่ในสัดส่วนโควตาตามภาค และโควตาส่วนกลาง ประกอบด้วย 1.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 2.นายชูศักดิ์ ศิรินิล 3.นายปลอดประสพ สุรัสวดี 4.นายสามารถ แก้วมีชัย 5.นายเกรียง กัลป์ตินันท์

6.นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ 7.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 8.นายชวลิต วิชยสุทธิ์ 9.นายนคร มาฉิม 10.นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ 11.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 12.นายไพจิต ศรีวรขาน 13.นายวิชาญ มีนชัยนันท์ 14.นายวิทยา บุรณศิริ   15.พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิง

ฟาก “ทีมพ่อบ้าน”  คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนรองเลขาธิการมี 7 คน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล  น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล  นายจตุพร เจริญเชื้อ  นายสุรชาติ เทียนทอง  นางละออง ติยะไพรัช  นายศราวุธ เพชรพนมพร มีนายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนพรรค และหัวหน้าทีมงานโทรโข่งพรรค ประกอบด้วย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังตั้ง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และ นายเสนาะ เทียนทอง เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค จะไปทำหน้าที่เป็น ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน

@ พลิกประวัติสมพงษ์

ตามประวัติ – เส้นทางการเมือง “สมพงษ์” เป็น ส.ส.หลายสมัย ทั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ตั้งแต่พรรค ชาติประชาธิปไตย พรรคเอกภาพ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติพัฒนา พรรคไทยรักไทย และ เพื่อไทย

เป็นอดีตหัวหน้ากลุ่ม  16 อันประกอบด้วยนักการเมืองเขี้ยวลากดิน อย่าง สุชาติ ตันเจริญ เนวิน ชิดชอบ สรอรรถ กลิ่นประทุม ล้มรัฐบาลชวน หลีกภัย ในสภา ด้วยการเปิดศึกซักฟอกปมแจกเอกสารสิทธิ สปก.4-01

เคยเป็นเสนาบดีในตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วยว่าการ” ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคมนาคม เป็นรัฐมนตรีว่าการ ทั้ง รมว.อุตสาหกรรม รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม  รมว.ยุติธรรม รมว.ต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ก่อนจะมาจบด้วยตำแหน่ง “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย – ผู้นำฝ่ายค้านในสภา” สมพงษ์ รับตำแหน่ง “หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม” เมื่อ 30 ก.ย.2561 อันเป็นพรรค “อะไหล่” ของ “เพื่อไทย” หากถูกยุบพรรค แต่แล้วเมื่อสัญญาณยุบพรรคเป็นแค่สัญญาณลวง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่เพื่อไทย ปรับแผนใหม่ – ไม่ใช้งานเพื่อธรรม แล้วไปตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ตามแผนแตกแบงก์พันเป็นแบงก์นร้อย แก้กับดักเลือกตั้งรัฐธรรมนูญ 2560

“สมพงษ์” จึงถูกดึงกลับมาลงเลือกตั้งเชียงใหม่ เขต 5 ในนามพรรคเพื่อไทย แต่เดิมถูกวางตัวไว้เป็นคู่ต่อสู้กับ “เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์” บุตรชาย “นายบุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีตรมว.พาณิชย์ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่ง ““เดชนัฐวิทย์” ที่ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ต้องการลงแทนพ่อที่ถูกตัดสินจำคุกจากโครงการรับจำนำข้าว

เพื่อไทยแก้เผ็ดด้วยการส่งไม้แข็ง ใช้บารมี “สมพงษ์”  ป้องกันพื้นที่เชียงใหม่ เขต 5 ทำให้พรรคพลังประชารัฐ แก้เกมด้วยการส่ง ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ เป็นคู่ต่อกร แต่ต้องพ่ายแพ้ให้ “นายสมพงษ์”

@ อภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนสิ้นสมัยประชุม

หลังได้รับตำแหน่ง “หัวหน้าพรรค” คนใหม่ “สมพงษ์” กล่าวถึงการบริหารพรรค – ผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ขณะนี้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค นำพาพรรคไปในแนวทางที่ถูกที่ควร ด้วยจำนวนกรรมการบริหารพรรคที่ถูกกำหนดไว้ให้มีเพียง 29 คน เป็นคนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ไม่มีสตั๊นท์แมนหรือนอมินี จะสนับสนุนการอภิปรายในสภาฯ เจาะประเด็นในสิ่งที่รัฐบาลทำเสียหายต่อประเทศ มีเจตจำนงแก้ปัญหาให้ลุล่วง หาทางผลักดันให้รัฐบาลรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เมื่อตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วต้องทำประโยชน์ให้ประชาชนโดยตรง

“การทำงานในสภาฯนั้น จะเริ่มตั้งแต่อภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล เรื่องของจริยธรรม จากนั้นจะอภิปรายในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่จะเข้าสู่สภาฯช่วงเดือนกันยายน ต้องใช้บุคลากรของพรรคที่รอบรู้ชี้ให้รัฐบาลทราบว่าอะไรควรไม่ควร อะไรต้องตัด อะไรต้องแก้ไข และแน่นอนว่าก่อนปิดสมัยประชุมต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ”

“สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นรัฐมนตรีบางส่วนมาจากครม.ชุดที่ผ่านมา ดังนั้นเราจะดูการทำงานครม.ทั้งสองชุดควบคู่กันไป แต่ขณะนี้ไม่ยังเจาะจงไปที่ใครแต่เชื่อว่าท่านรู้ตัวท่านเอง”

@ เจ๊หน่อย โชว์ “ประชาชนคิดเพื่อไทยทำ”

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ โชว์วิสัยทัศน์ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ว่า ต่อจากนี้ เพื่อไทยยุคใหม่ จะเข้าถึงปัญหาของประชาชนให้มากขึ้น เราจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประชาชน เมื่อประชาชนมีปัญหา ทีมเพื่อไทยจะเป็นคนแรก ที่รู้ปัญหาของประชาชน จะเป็นสะพานเชื่อมให้ประชาชน และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มามีส่วนร่วมกับพรรคให้มากขึ้น เพื่อร่วมกันคิดร่วมกันทำ ร่วมกันกำหนดนโยบายพรรค  เพื่อไทยยุคใหม่จะเข้าสู่ยุคประชาชนคิดเพื่อไทยทำ จะนำประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในสภาให้มากขึ้น  เราจะทำให้ประชาชนมีช่องทางนำเสนอปัญหา  เสนอความคิด และร่วมติดตามการทำงานของรัฐบาล ร่วมกับ ทีมเพื่อไทย ในสภาให้มากขึ้น  เป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วม นำความคิดใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาสร้างความทันสมัย และความเจริญให้ประเทศชาติ

“จะจัดโครงสร้างการทำงานในพรรคใหม่ ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์นี้  โดยจะมีการกระจายอำนาจให้สมาชิกทุกคนจะได้มีส่วนร่วม ในการบริหารพรรค ได้รับโอกาสทำงานตามความถนัด และความสามารถอย่างเต็มที่  โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจจากส่วนกลาง เราเชื่อว่า จุดแข็งของเรา คือการมีบุคลากรที่มีความสามารถสูงในคน 3 รุ่น  เรามีผู้บริหารรุ่นใหญ่ ที่มากประสบการณ์ + ความรู้ ความเชี่ยวชาญ  เรามีผู้บริหารรุ่นกลาง ที่มีความสามารถเป็นมืออาชีพทุกสาขา เรามีคนรุ่นใหม่  ที่มีพลังเต็มเปี่ยม เเละมากด้วยความรู้ในโลกยุคใหม่ จะเปิดชั้นล่างของที่ทำการพรรคเป็น Co-working Space”

“จะเป็นพรรคที่เป็นเครื่องมือทำงานให้ประชาชน ได้ทรงอนุภาพกว่าเดิม  จะเป็นฝ่ายค้านที่แข็งแกร่ง ในการดูแลผลประโยชน์ของประชาชน เป็นสะพานเชื่อม นำความรู้ วิธีการทำมาหากินใหม่ ๆ จากโลกยุคใหม่ไปให้ประชาชน โดยไม่ต้องรออำนาจรัฐ”

@ อนุดิษฐ์ เป็นมือไม้รับใช้ ส.ส.

“น.อ.อนุดิษฐ์” ที่รับบทเป็นเลขาธิการพรรค กล่าวว่า เราฝ่าฟันสถาการณ์ทางการเมืองมามากมาย เพื่อไทยประสบความสำเร็จได้ด้วยดีตลอดเพราะกรรมการบริหารพรรค ตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน มาถึงเพื่อไทย  จากนี้สิ่งที่จะต้องรับผิดชอบ ดำเนินภารกิจจะไม่กระทำเพื่อตัวเองเป็นอันขาด จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของพรรคที่ยิ่งใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนและสมาชิกเพื่อไทย ยินดีเป็นไม้มือให้กับพี่ๆ ส.ส.ใช้งานได้เต็มที่ ใครที่เป็นน้องจะใช้โอกาสในฐานะเป็นพี่ให้คำปรึกษาน้องๆ ทุกคน

“ผมเป็น สส คนหนึ่งเขตภูบาล ผมมีความเข้าอกเข้าใจการทำงาน ส.ส.พื้นที่ทุกท่าน ขอปรนาตัวให้โอกาสได้ใช้โอกาสเป็นตัวเขื่อมพี่น้อง ส.ส.กับการยริหารส่วนกลาง จะใช้ความรู้ ความสามารถบริหารได้ดีที่สุด สำหรับความเปลี่ยนแปลงของโลก ยกระดับคุณภาพ ส.ส. ให้เป็นประโยชนในการประกอบภารกิจปรับปรุง และสร้างบ้านเมืองต่อไป”

@ “ปลอด” สั่งเตรียมพร้อมเป็นรัฐบาล

“ปลอดประสพ” ในฐานะรองหัวหน้าพรรค วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง – กำชับ ส.ส.เพื่อไทย ตอนหนึ่งว่า เสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ มีสียงมากกว่าฝ่ายค้าน 5 เสียง พรรคเพื่อไทยต้องอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการเลือกตั้งอย่างทันด่วน จะได้เป็นรัฐบาลที่มีความพร้อม