พรรคทักษิณ ไมเนอร์เชนจ์ ดันรุ่นใหม่ ‘เพื่อไทยพลัส’ ลงสนาม

อาจเรียกได้ว่า “เพื่อไทย” ในยุค “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคคนใหม่

อยู่ระหว่างกึ่งกลาง ใต้ร่มเงา “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ดูไบ กับใต้ร่ม “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ที่นั่งกุมบังเหียนเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนวาระ-ยุทธศาสตร์การเมือง

“สมพงษ์” ออกคำสั่งแรก ในบทบาท “ผู้บริหาร” แต่งตั้ง “กุนซือ” 4 คนข้างกาย ประกอบด้วย

1.นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรค เป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง

2.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง

3.นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย 4.นางนลินี ทวีสิน เป็นที่ปรึกษาฝ่ายต่างประเทศ

วางจ็อบเดสคริปชั่น ทั้ง 4 คนมีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำ แนวทาง หรือการดำเนินงานด้านการเมือง กฎหมาย ด้านการต่างประเทศและอื่น ๆ ให้กับหัวหน้าพรรค หรือปฏิบัติงานอื่นตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย

แม้ว่า “คณะยุทธศาสตร์” มี “คุณหญิงสุดารัตน์” นั่งหัวโต๊ะ และมีเลขาธิการพรรคเป็นคนสนิท ชื่อ “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” แต่ตัวละครที่นั่งเป็น “กุนซือ” หัวหน้าพรรค 4 คนล้วนเป็นบุคคลประเภท “สายตรง-ทีมทักษิณ”

“ทักษิณ” กล่าวถึงโฉมหน้าทีมงานเพื่อไทยชุดใหม่ว่า

“คุณสมพงษ์ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ทำหน้าที่ยุทธศาสตร์บริหารพรรคกันได้อยู่ คงไม่ต้องกังวล พรรคไปได้ดี และประชาชนยังเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยเป็นดีเอ็นเอที่ผมก่อตั้ง ตั้งแต่ไทยรักไทย”

ข่าวที่อัพเดตคือ “นลินี” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเข้ามาเป็นกุนซือด้านการต่างประเทศ ทั้งที่ “นลินี” รับหน้าที่เป็นกัปตันเรือ “เพื่อธรรม” แทน “สมพงษ์” ที่สละเรือกลับมาอยู่เพื่อไทย ซึ่งเวลานี้ “นลินี” ได้ทิ้งหัวหน้าเพื่อธรรม เพื่อรับตำแหน่งใหม่ในเพื่อไทยแล้ว

“ภูมิธรรม” กล่าวว่า ที่ปรึกษาอาจจะมีเพิ่มอีก ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมีมติอย่างไร แต่ที่ปรึกษา 4 คน

นอกจากนี้ หลังตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภา “ภูมิธรรม” จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาอีกแรง 

ส่วน “วิสาร” เป็นที่ปรึกษาในการบริหารงานพรรคเชื่อมกับ ส.ส.

ส่วน “น.อ.อนุดิษฐ์” บอกว่า ไม่ใช่การปรับโครงสร้างใหม่ คณะกรรมการชุดเก่า ๆ ยังมีอยู่ต่อไปตามข้อบังคับพรรค

ในเวลาเดียวกัน “เพื่อไทย” ยังเปิดตัวกลุ่ม “เพื่อไทยพลัส” ตามแผนของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ต้องการ “ปรับลุก” เพื่อไทยให้ทันสมัย

“สมพงษ์” อธิบาย “เพื่อไทยพลัส” ว่า เพื่อไทยมีบุคลากร 3 รุ่น คือ รุ่นใหญ่ กลาง และรุ่นใหม่ จึงรวมกันเป็นเพื่อไทยพลัส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปี ผู้นำไม่ได้คิดถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเลย แต่เราให้ความสำคัญจึงมีการดึงคนที่มีความรู้มาทำงาน

ขณะที่ตำแหน่งประธานกลุ่ม “เพื่อไทยพลัส” คือ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ “ลูกเขย” ของ “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ที่ปรึกษาด้านการเมืองหัวหน้าพรรค

“จุลพันธ์” บอกภารกิจ “เพื่อไทยพลัส” ว่า พรรคเพื่อไทยเรามีการปรับโครงสร้างใหม่ ได้พูดคุยกันมาตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง จนวันนี้เราได้บวกเอาคนรุ่นใหม่จากพรรคไทยรักษาชาติมาร่วมงานกัน วันข้างหน้าคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะต้องเข้าไปทำงานในสภา เพราะยังเชื่อมั่นว่าสังคมนี้ไม่ได้มีแต่ผู้ใหญ่

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ ฉายภาพกลุ่มเพื่อไทยพลัสจะเป็นการทำงานคู่กันทั้งในและนอกสภา เป็นการเติมเต็มกันที่ทำให้การทำงานทั้งในและนอกสภาเกิดความสมบูรณ์พร้อมในโลกยุคใหม่

เพราะคู่แข่งที่สำคัญที่สุดคือตัวของพรรคเองหากไม่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอาจถูก disrupt

แต่อันที่จริง “เพื่อไทย” ในยุค “สุดารัตน์” ใต้เงา “ทักษิณ” ปรับทัพ รับมือศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป ที่ประเมิน
ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้แล้ว

ยังต้อง “ปรับทัพ” เพื่อสู้กับ “อนาคตใหม่”


ที่แม้จะเป็นพันธมิตรขั้วเดียวกัน แต่ในสนามการเมืองก็คือคู่แข่งตัวฉกาจที่เพื่อไทยต้องปรับตัวและตามให้ทัน