เจาะทีมเสนาธิการ “ผู้นำฝ่ายค้าน” จรยุทธ์หลังม่าน เข็นญัตติร้อนในสภา

7 พรรคฝ่ายค้านเดินหน้าเปิดเกมรุก เขย่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 ด้วยเกมสภาเร่งเครื่องเปิดญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่รัฐบาลอึดอัดใจ-ไม่อยากตอบพ่วงกรณีแถลงนโยบายที่ไม่ระบุที่มาของงบประมาณ เข้าข่ายไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

เพื่อไทยล็อกเป้าไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ทั้งปมถวายสัตย์ฯ และแถลงนโยบาย ขณะที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี โดนตั้งธงซักฟอก “บกพร่อง-บิดเบือน” โทษฐานที่เป็นหัวหน้าทีมกฎหมายรัฐบาล แต่ไม่ยอมตักเตือน

การอภิปรายซักฟอกไม่ลงมติ แม้ถูกฝ่ายรัฐบาล “บีบ” ให้เหลือเพียงวันเดียว แต่ 7 พรรคฝ่ายค้าน เตรียม “ขุนพล” อภิปรายนายกฯไว้ 20 ชีวิต แบ่งเป็นเพื่อไทย 10 คน พรรคอื่น ๆ 10 คน

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการทำงานของ “ฝ่ายค้าน” ยุคเสียงปริ่มน้ำ นอกจากวิปฝ่ายค้าน-ดาวสภา เพื่อไทย ที่เป็นตัวชูโรง นำโดย “สุทิน คลังแสง” ประธานวิปประสานงานพรรคฝ่ายค้าน ร่วมกับพันธมิตร 7 พรรค เขย่าฝ่ายรัฐบาล

แต่ “มือทำงาน” คนเบื้องหลัง การเชื่อม-ขับเคลื่อน 7 พรรคในสภายังมีส่วนผสมของ “ทีมที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน” นำโดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่รับตำแหน่ง ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน

มี “อดิศร เพียงเกษ” เป็นโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน “ประยุทธ์ ศิริพานิชย์” เป็นเลขานุการ “สุรพล เกียรติไชยากร” เป็นผู้ช่วยเลขานุการ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” เป็นคณะทำงาน

สำหรับ “ภูมิธรรม” ยังเป็น “ตัวเชื่อม” 7 พรรคฝ่ายค้าน ตาม “งานเดิม” ที่เคยทำมาตั้งแต่ครั้งเป็นเลขาธิการพรรค

“ภูมิธรรม” บอกจ็อบเดสคริปชั่นตัวเองว่า นอกจากทำหน้าที่ประสานงานกับ 7 พรรคฝ่ายค้าน ยังต้องประสานงานกับฝ่ายรัฐบาลด้วย เพราะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์…ไม่ค้านทุกเรื่อง ต้องคุยกับพรรคอื่น ๆ ได้

หลังจากรับตำแหน่งใหม่ “ภูมิธรรม” ได้พบคนการเมืองที่ไม่ได้เจอกันมานาน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์รายชื่อให้ดู เป็นเบอร์ “เพื่อน (การเมือง) เก่า” ที่อยู่ในซีกรัฐบาล และได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ เช่น “บุญลือ ประเสริฐโสภา” ส.ส.ราชบุรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยเป็น รมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ในนามพรรคพลังประชาชน

อีกคนคือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม หัวขบวนกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ได้เจอกันหลายปี “สุริยะ” เดินเข้ามาทักทาย “ภูมิธรรม” ว่า “ยังคุยกันนะ…เพื่อไทย” และสวมกอดกัน โดยที่ “ภูมิธรรม” บอกภายหลังว่าไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี

“ผมยังเป็นคนที่คุยได้กับทุกฝ่าย เพราะเคยทำงานด้วยกันมาทั้งนั้น”

ในการวางกลยุทธ์ “ผู้นำฝ่ายค้าน” เขาเตรียมดึง “นักวิชาการ” มาเป็นที่ปรึกษา เพิ่มเติมในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ขับเคลื่อนวาระแก้รัฐธรรมนูญ-กฎหมาย และอภิปรายค้านรัฐบาล

“การจะเสนอญัตติ หรือทำงานต่าง ๆ ในสภาต้องใช้ผู้รู้ นักวิชาการ จะไปอภิปรายโดยไม่มีข้อมูลไม่ได้”

ส่วน “อดิศร เพียงเกษ” ในฐานะโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน ได้รับการปูนบำเหน็จรางวัล หลังจากในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เขาเป็นผู้นำทีมปราศรัยของเพื่อไทยทั่วอีสาน

อดิศร เล่าว่า “ผมแถลงข่าวครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนจะได้เป็นโฆษกหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน”

งานสภาของ “อดิศร” ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะเคยเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในสมัยที่พรรคไทยรักไทยคุมเสียงข้างมากในฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นรองประธานวิปรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นรัฐมนตรีช่วย 4 กระทรวง

สำหรับ “ประยุทธ์ ศิริพานิชย์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย อายุจริงบวกพรรษาการเมือง พอ ๆ กับผู้นำฝ่ายค้าน ในฐาน ส.ส.รุ่นเก๋า เขามีบทบาทในสภา เคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนทำให้รัฐบาลเพื่อไทยถึงทางตันก่อนจบลงที่รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557

ในช่วงพลังดูดการเมืองกระหน่ำเพื่อไทย “ประยุทธ์” เป็นแกนนำ ส.ส.อีสาน หลายสิบชีวิตตบเท้าประกาศตัวจะไม่ย้ายพรรค ส่วน “สุรพล เกียรติไชยากร” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ได้ตำแหน่ง อาจเป็น “รางวัลปลอบใจ” เพราะเป็น ส.ส.คนแรกที่ถูก กกต.แจกใบส้ม หลังเลือกตั้ง 24 มี.ค.ที่ผ่านมา อีกหนึ่งราย “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” คือเป็น “เด็กปั้น” ของ “ภูมิธรรม” เป็นแบ็กออฟฟิศ ที่ถูกผลักดันให้มาอยู่แถวหน้า

ยังไม่นับ “ตัวละครลับ” อย่าง “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ที่จะโฉบแวะเวียนช่วยขับเคลื่อนวาระอภิปรายกฎหมายที่สภา

เป็นส่วนผสมเสนาธิการผู้นำฝ่ายค้าน

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่!! เกม (ไม่แก้) รธน. 250 ส.ว.ทหารโหวตชี้ขาด