การเมือง

“ประยุทธ์” เชื่อ “ชิม ช้อป ใช้” ได้ผล จึงถูกโจมตี ย้ำไม่ถือธงนำแก้ รธน. ถ้าทำได้ก็ทำไป

นายกฯ ไม่ถือธงนำแก้รัฐธรรมนูญ ขอให้ทำตามมาตรา 265 ถ้าทำได้ก็ทำไป ไม่แคร์ม็อบต้านที่สหรัฐฯ เย้ย ไม่เห็นจะมีคน อนุมัติแผนป้องกันฝุ่น PM 2.5 ขันน็อตทุกหน่วยคุมเอกชนลดการปล่อยฝุ่น ขอให้ประชาชนระวังตัวเอง รัฐบาลพยายามทำเต็มที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงจุดยืนของรัฐบาลต่อแนวคิดการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ว่า ยังไม่มีอะไร เป็นเรื่องของขั้นตอน เคยบอกแล้วว่าการแก้ปัญหาก็ต้องไปแก้ไขในมาตรา 265 ที่เขียนไว้ ถ้าทำได้ก็ทำกันไป แต่ต้องไปดูว่าจะต้องมีการทำประชามติด้วยหรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนและมีระยะเวลาที่กำหนดอยู่

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านต้องการให้นายกฯ ถือธงนำแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนไม่มีธง ธงของตนคือจะทำอะไรก็ตามต้องเป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็เพิ่งมีผลบังคับใช้ได้ไม่นาน

เมื่อถามว่า เหตุที่ฝ่ายค้านต้องการให้นายกฯถือธงนำ เพราะสังคมมองว่าจะสามารถขอความร่วมมือจาก ส.ว.ในสภาฯได้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “สังคมไหน สังคมกลุ่มไหน ประชาชนที่ว่าคนกลุ่มไหน ใช่ประชาชนทั้งประเทศหรือเปล่า ไปหามา”

@ ไม่แคร์ม็อบประท้วงที่สหรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามกรณีที่มีกลุ่มต่อต้านชูป้ายประท้วงระหว่างเยือนสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกฯ หรือไม่ ว่า ไม่ส่งผลกระทบอะไร ไม่มีใครสนใจ ต่างประเทศก็ไม่ได้สนใจ ตนก็ไม่สนใจ จะไปสนใจทำไม ตนไปทำในสิ่งที่ดี และคนเขาก็ตอบรับ ต่างชาติก็ตอบรับ ผู้นำประเทศก็ตอบรับ แล้วจะไปสนใจทำไม ประเทศไทยก็คือประเทศไทย ถ้าเราไม่รู้จักรักษาเกียรติของประเทศไทยเองมันก็ไปไม่ได้หรอก

เมื่อถามว่า การประท้วงครั้งนี้ดูมีจำนวนมากกว่าทุกครั้ง นายกฯ กล่าวว่า “ไม่เห็นจะมากกว่า ผมไม่เห็นจะมีคนเลย ส่วนกรรีที่มีเอกสารหลุดว่าหัวหน้าพรรคการเมืองไทยพรรคหนึ่งจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์นั้น ก็เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์และมีข่าวแพร่ในโซเชียล ทำไมต้องให้ตนพูดด้วย”

เมื่อถามว่า จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของกฎหมายก็ไปว่ากันมา เขามีคนทำอยู่แล้ว หน้าที่ของใครของมัน”

@ ชิม ช้อป ใช้ ได้ผลจึงถูกโจมตี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์โครงการชิม ช้อป ใช้ ว่า อะไรที่ได้ผลก็ถูกโจมตีพอสมควร การทำครั้งนี้ใช้ระบบควบคุม มีการขึ้นทะเบียน รีพอร์ตประจำวันเป็นตัวเลขชัดเจนสามารถชี้แจงได้ ส่วนเรื่องขั้นตอนที่ใช้เงินค่อนข้างยุ่งยากนั้น ต้องเข้าใจว่าเงินของรัฐบาล เงินหลวงไม่ได้ใช้ง่ายอะไรก็ได้ ถ้าผิดขึ้นมารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ ต้องเคารพกติกาบ้าง ใช้ฟุ่มเฟือยมากไม่ได้ ต้องใช้ตามความจำเป็น หากจะบอกว่าใช้เงินยุ่งยาก เราได้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดมาระยะหนึ่งแล้วเช่น ใช้เงินผ่านบัตรสวัสดิการประชารัฐ มีการโอนเข้าบัญชีไม่ได้แจกเงินสด ต้องช่วยกันศึกษาเรื่อง e-wallet เพราะรัฐบาลต้องมีมาตรการลักษณะนี้ออกมาเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์และใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรมดาที่เราไม่เคยใช้ ต้องเรียนรู้อีกหน่อยก็จะคุ้นเคยกับมันเอง เช่น บัตรสวัสดิการประชารัฐก็ยุ่งยากพอสมควร แต่วันนี้เข้าใจกันหมดแล้ว มีแต่คิดว่าเมื่อไหร่จะได้เงินมากกว่าเดิม ซึ่งรัฐบาลกำลังหาเงินอยู่

@ อนุมัติแผนคุมฝุ่น PM 2.5

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ได้มีการหารือกันและนำแผนปฏิบัติการของกรมควบคุมมลพิษกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาพิจารณาใน ครม. ใน 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งในระดับปกติ ไม่เกิน 100 ไมโครกรัม ยังไม่มีผลกระทบ แต่ถ้าเกิน 100 ไมโครกรัมจะมีผลกระทบ ก็ต้องมาดูเป้าหมายที่อ่อนแอก่อน ได้แก่ เด็ก ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ แต่ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศด้วย และมาตรการที่เสริมเรื่องการจราจร ยานพาหนะ เรื่องการเผาต่างๆ ก็เข้มงวดขึ้น เราก็รู้อยู่แล้วบางทีมีความยากง่ายในการปฏิบัติ การใช้กฎหมาย เพราะพี่น้องเกษตรกรหลายคนยังมีปัญหาอยู่ เราต้องร่วมมือกันต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้หลังเกิดวิกฤตไปแล้ว ถ้าเราแบ่งระยะออกไป คือระดับที่ 1 ค่าฝุ่นไม่เกิน 50 ไมโครกรัม ไม่มีผลกระทบ ระดับที่ 2 ค่าฝุ่นระหว่าง 51-75 ไมโครกรัม ระดับที่ 3 ค่าฝุ่น 76-100 ไมโครกรัม และระดับที่ 4 ค่าฝุ่นเกิน 100 ไมโครกรัม ถ้าเกินไปขนาดนั้นต้องมีการประชุมคณะกรรมการร่วมกัน และรัฐบาลต้องหามาตรการที่เข้มงวด สั่งการในระดับประเทศลงไป ซึ่งเราเคยทำมาแล้วบางพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างต้องอาศัยความร่วมมือด้วยกันทั้งหมด เพราะทุกอย่างมีกฎหมาย แต่อยู่ที่ว่าจะบังคับใช้ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร เจ้าหน้าที่บางทีไม่ได้อยากละเว้น แต่ปัญหาประชาชนมีผลกระทบก็ไม่ยอมกัน ก็ต้องค่อยๆ แก้กันไป

วันนี้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งไปแล้วใครเป็นกลุ่มเสี่ยงสุขภาพบ้าง เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ต้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้านสวมหน้ากากอนามัย เตรียมไปแจกจ่ายในกลุ่มจังหวัด หากไม่พอให้ขอมาที่ส่วนกลาง ขณะที่ทางกระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด ก็ขอความร่วมมืออย่าให้ต้องมาบังคับใช้กฎหมายกันนักเลย ต้องรับผิดชอบร่วมกันบ้าง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เรื่องการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทน การใช้รถส่วนบุคคลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ทั้งเครื่องยนต์ ท่อไอเสีย รถควันดำ ต้องเข้มงวด และขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการทุกส่วนด้วย ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจัดจุดตรวจทุกพื้นที่มีการเข้มงวดรถควันดำ ต้องหยุดใช้งาน จนกว่าจะปรับปรุงใหม่ และกระทรวงอุตสาหกรรมขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ควบคุมและลดการระบายฝุ่นมลพิษทางอากาศ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร หรือพื้นที่ก่อสร้างปริมณฑล ต้องขอความร่วมมือพื้นที่ก่อสร้างต้องลดฝุ่นละอองให้ได้ ต้องฉีดพ่นน้ำในช่วงที่มี PM 2.5 สูงขึ้น และวันนี้กระทรวงมหาดไทยจัดเตรียมเครื่องพ่นละอองไอน้ำในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงขึ้น

@ รัฐบาลพยายามทำเต็มที่

“ในช่วงนี้กรมอุตุฯพิจารณาแล้วว่าอากาศที่ปิด เป็นเหมือนโดมครอบกรุงเทพฯและประเทศไทยอยู่ เนื่องจากอากาศเย็นสูง ซึ่งอากาศจากจีนนิ่งทำให้ไม่มีลมมาทางเอเชียของเรา ต่างคนต่างครอบไว้ทั้งนั้น และอากาศหนาวก็เข้ามาเร็ว เป็นอากาศหนาวระยะสั้น ก็เกิดโดมขึ้นมาครอบอากาศหนัก ฝุ่นละอองก็เลยไม่กระจายไปในพื้นที่กว้าง ในบางพื้นที่เรามีศูนย์ควบคุมตรวจวัดอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังตัวเองด้วย

รัฐบาลจะพยายามทำอย่างเต็มที่ และกรมฝนหลวงก็พร้อมจะปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นและขึ้นบินในทันที ในส่วนความร่วมมือกับต่างประเทศวันนี้ก็มีทั้งละอองฝุ่นที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนต่างประเทศก็ประสานงานกันอยู่ต่อเนื่อง แต่ต้องเข้าใจว่าบางอย่างอาจไม่เร็วมากนัก อย่างที่ไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาก็มีเรื่อง PM 2.5 ด้วย ซึ่งทุกประเทศก็ให้ความสำคัญ และทุกประเทศก็มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้ขึ้นมา ก็ต้องมีส่วนในการลดด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว