รัฐบาลฮั้วเลือกซ่อม 4 จังหวัด “พปชร.” หลบพรรคร่วม ฝ่ายค้านสู้ทุกเม็ด

การเลือกตั้งซ่อมอย่างน้อย 4 เขต 4 จังหวัดกำลังจะระเบิดศึกขึ้น “เช็กเรตติ้ง” รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1เมื่อทุกเสียงล้วนมีความหมาย-ชี้ขาดกันเพียง 1 เสียง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของ “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ”

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม ในวันที่ 23 ต.ค. พรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่ส่งผู้สมัคร-หลีกทางให้พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ส่ง “ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร” สามี “จุมพิตา จันทรขจร-แชมป์เก่า” ลงเป็นผู้สมัคร-รักษาแชมป์

ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล-พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำ “ข้อตกลง” กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดทาง-เทคะแนนให้กับ “สุรชัย อนุตธโต” ผู้สมัครที่ได้คะแนนมากเป็นอันดับสอง จากค่ายประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.

แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ของ “วรวุธ ศิลปอาชา” เกิด “ผิดข้อตกลง” เมื่อ “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่มีคะแนนมากเป็นอันดับสี่ “ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้” แหกกฎมารยาทพรรคร่วมรัฐบาลขอ “แก้มือ”

ทำให้การแข่งขันในสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม เป็น “ศึกสามเส้า” เพราะที่ว่านอนมาแน่ หลังจากพรรคพลังประชารัฐ “โอนคะแนน (ลม)” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายต้อง “วัดกันหน้าคูหา” เช็กคะแนนส่วนตัว-กระแสรัฐบาลและผลงานฝ่ายค้าน

ขณะที่การเลือกตั้งเขต 2 กำแพงเพชร หลังจาก “พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” เจ้าของพื้นที่เดิมของพลังประชารัฐ ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก กรณีล้มการประชุมอาเซียนเมื่อปี”52

โดยพรรคพลังประชารัฐจะส่ง “ลูก” ของ พ.ต.ท.ไวพจน์ คือ “นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์” รักษาที่นั่ง “แทนพ่อ” ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ขอ “พักรบ” ไม่ส่งผู้สมัครลงชิงชัย เปิดทางให้พรรคพลังประชารัฐแบบไร้คู่แข่ง

ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่เข้าป้ายเป็น “อันดับสอง” ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.ยัง “คิดไม่ตก” ว่าในเชิงยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พันแบงก์ร้อย” ใครจะหลีกทางระหว่างพรรคเพื่อไทยหรืออนาคตใหม่

มาที่การเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐจะส่ง “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ป้องกันแชมป์ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง”แจกใบเหลือง” กรณีคนใกล้ชิดใส่ซองช่วยงานศพ

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาหล่นไปอยู่ “อันดับสี่” จึงเป็น “ไฟต์บังคับ” ขอ “เว้นวรรค”

ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่ตามมาเป็นอันดับสอง และอนาคตใหม่ที่ตามมาอันดับสาม “คะแนนดิบ” 2 พรรครวมกันแล้วทะลุ 6 หมื่นคะแนน หาก “ร่วมร่าง” กัน โอกาส “พลิกชนะ” พลังประชารัฐมีสูง

ปิดท้ายด้วยการเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น “นวัธ เตาะเจริญสุข” จากพรรคเพื่อไทย ต้อง “ยุติบทบาท” ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา “ประหารชีวิต” คดีจ้างวานฆ่า “สุชาติ โคตรทุม” อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เมื่อปี 2556

แม้คดี “ยังไม่ถึงที่สุด” เพราะเป็น “ศาลชั้นต้น” แต่เมื่อศาลไม่ให้ประกันตัว-เข้าเรือนจำ ทำให้สถานภาพการเป็น ส.ส.ของ “นวัธ” สิ้นสุดไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม กกต.และสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ-สถานภาพความเป็น ส.ส.ว่าสิ้นสุดหรือไม่ แต่คดีคง “ไม่พลิก” เดินหน้าเลือกตั้งซ่อมต่อไปได้

โดยพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างวาง “ตัวตายตัวแทน” แทนที่ “นวัธ” หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ไม่หลีกทางให้กับอนาคตใหม่

ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” ที่สู้ได้ “สูสี” และเป็นสนามเลือกตั้งซ่อมที่ 3 ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เพราะเขต 7 ขอนแก่น “แพ้ยับเยิน” คะแนนไม่ติดฝุ่น 5 อันดับแรก

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับจังหวัดนครราชสีมา 2 เขต ที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ออกมาป่าวประกาศว่ามีแนวโน้มว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อม ได้แก่ เขต 7 ของ “ทัศนียา รัตนเศรษฐ” ภรรยาของ “วิรัช รัตนเศรษฐ” และเขต 8 ของ “ทัศนาพร เกษเมธีการุณ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ น้องภรรยาของนายวิรัช

ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวิรัชกับพวกรวม 24 คน กรณีทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล โดย 2 ใน 24 คนนั้น เป็นคนของ “บ้านใหญ่รัตนเศรษฐ”

แม้ “ธนาธร” จะหวังสูงให้การเลือกตั้งซ่อมเกิดปรากฏการณ์โดมิโนทางการเมือง

ทว่าด้วยเสียงปริศนา-บริการเสริมที่มีมากกว่าฝุ่น PM 2.5 ความฝันว่าจะล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไกลเกินไป