เมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย ตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมประชุมด่วนภายหลัง พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแกนนำพรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการ จำนวน 12 คน ในความผิดตามมาตรา 116 เนื่องจากจัดเวทีเสวนา “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยมีเนื้อหายุยง ปลุกปั่น
ภายหลังการประชุม ตัวแทน 7 พรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพท. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคพท. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) นายสมพงษ์ สระกวี ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคพท. ร่วมแถลงภายหลังการประชุมแกนนำ
โดยนายชูศักดิ์แถลงว่า ใครที่เรียนกฎหมายทราบดีว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 นั้น กำหนดความผิดไว้ว่านอกเหนือมีเจตนาธรรมดา ยังต้องมีมูลเหตุจูงใจ หรือเจตนาพิเศษ 3 ประการ 1.กระทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแผ่นดิน กฎหมายบ้านเมืองของแผ่นดิน กระทำเพื่อใช้กำลังข่มขืนใจ ประทุษร้าย
2.ต้องกระทำเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง 3.กระทำไปเพื่อละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม การจัดเสวนาในที่สาธารณะของตัวแทนพรรคการเมือง 7 พรรค ตัวแทนนักวิชาการ ไม่มีมูลเหตุจูงใจ 3 ประการ จึงไม่เข้าองค์ปะกอบของความผิดมาตรา 116
“ตั้งแต่มีการยึดอำนาจ คสช.ได้ใช้อำนาจกฎหมายที่ตัวเองมีอยู่แจ้งความดำเนินคดีกับประชาชน นิสิตนักศึกษา นักการเมือง ตามมาตรา 116 เป็นจำนวนมาก ล่าสุดศาลยกฟ้องหลายกรณี เช่น ยกฟ้องแกนนำพรรคเพื่อไทยที่แถลง 4 ปี คสช. เท่ากับว่า ที่ผ่านมาใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองสำหรับบุคคลที่มีอำนาจ เพื่อแจ้งความ อย่างน้อยปิดปากให้เขากลัวจะได้ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ต่อไปในอนาคต การแจ้งความที่ผ่านมา ไม่มีมูลตามกฎหมาย เป็นปัญหาทางการเมืองที่รัฐบาลพยายามใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองต่อไป” ชูศักดิ์ กล่าว
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พล.ต.บุรินทร์มาให้การต่อ กมธ.ชุดนี้ ว่าท่านอ่านกฎหมายอย่างไร ดูองค์ประกอบความผิด ตามมาตรา 116 อย่างไร ทำไมถึงเที่ยวไปแจ้งความเต็มไปหมด สุดท้ายทั้งอัยการก็ไม่ฟ้อง ศาลก็ยกฟ้อง แต่ตัวท่านกลับได้ดิบได้ดีขึ้นเป็นพลตรีจนถึงวันนี้ ซึ่งขณะนี้ได้รับการร้องเรียนเข้ามายัง กมธ. เกี่ยวกับกรณีที่นายทหารของ คสช.เที่ยวไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลจำนวนมาก จนพวกเขาเสียเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และทำให้เสียเวลาในการขึ้นศาล หากเรื่องนี้บรรจุเข้าระเบียบวาระ คงต้องมีการเรียก
“การแจ้งความ 7 พรรคฝ่ายค้าน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลขาลง จึงมีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ 1.ต้องการกลบเกลื่อนช่วงขาลงของรัฐบาลชุดนี้ บังเอิญขาลงมันมาเร็วผิดปกติ หลังเป็นรัฐบาลไม่กี่เดือนเท่านั้น ทั้งการบริหารงานที่ผิดพลาด การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นโยบาย ชิม ช้อป ใช้ ที่ไม่ได้ผล ต่างๆ นานา” นายปิยบุตร กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษโดย กอ.รมน. ซึ่งนายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ดังนั้นเท่ากับว่านายกฯเป็นผู้สั่งการให้มีการดำเนินคดี ซึ่งการแสดงความเห็นตามสิทธิเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การใช้กฎหมาย และยังเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลด้วย ดังนั้น วันนี้ที่เรารณรงค์กันก็เพื่อต้องการหลอมรวมสติปัญญาของประชาชน เพราะความมั่นคงของประชาชน คือความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ การที่ กอ.รมน.มาฟ้องร้องเช่นนี้ ตัวผู้แจ้งความ และนายกฯ กำลังจะบิดเบือนเจตนารมย์ของกฎหมาย ในฐานะผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค และนักวิชาการ เราจำเป็นต้องเอาสติปัญญาความคิดของคนทั้งประเทศ เพื่อให้เห็นว่าความมั่นคงของประชาชนเท่านั้นคือความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ของรัฐบาล
“ดังนั้น 1.ผู้ถูกกล่าวหาจะต่อสู้ทางกฎหมายหากมีการเรียกไปสอบสวน และ 2.เรามองว่าการแจ้งความเป็นการแจ้งความเท็จในหลายประเด็น เพื่อข่มขู่ ไม่ให้บ้านเมืองเกิดการพัฒนา และข่มขู่ไม่ให้มีการแสดงความเห็น ซึ่งเราจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แจ้งความเท็จทั้งคนแจ้งความ และผู้มีอำนาจ รวมถึงพิจารณาไปถึงนายกฯ หรือไม่ ก็ต้องดำเนินคดี”
ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ห่วงใย พล.ต.บุรินทร์ และ พิจารณาส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีต่อประชาชน บุคคลที่ได้รับมอบมาไม่น่าจะแตกฉานในข้อกฎหมายด้านความมั่นคง แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหา แต่จะเป็นเงื่อนไขย้อนกลับไปสร้างปัญหามากขึ้นทำให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อนเสียเอง นับตั้งแต่บัดนี้พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะมีมาตรการตอบโต้ ดังนั้น ในวันที่ 6 ต.ค..7 พรรคฝ่ายค้านจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษนายทหารที่มาแจ้งความ 7 พรรคฝ่ายค้าน
“ขอให้ใช้ดุลพินิจศึกษากฎหมายมากว่านี้ ถ้าจะทำตามใบสั่ง ต่อไปข้างหน้าจะเป็นทุกขัง อนิจจัง ต่อไปการทำงานในราชการจะไม่ราบรื่น และผู้บังคับบัญชาที่จะใช้บุคลากรในเงื่อนไขปัญหาความมั่นคงขอให้ใช้เจ้าหน้าที่ที่มีจิตสำนึก ตระหนักครรลองประชาธิปไตย การใช้อำนาจที่ไปละเมิดสิทธิของประชาชนต้องระวัง” พล.ท.ภราดร กล่าว