“ธนาธร” ประชุม ส.ส.ซ้อมชำแหละงบ 63 ชง 4 กรอบเสนอรัฐบาล

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ส.ส.อนาคตใหม่ในการเตรียมความพร้อม ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า หลังจากที่ศึกษางบประมาณมาอย่างเต็มที่โดยไม่หลับไม่นอน เห็นว่างบดังกล่าวมีปัญหาเยอะมาก สิ่งที่เราเห็นคือโจทย์ใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น เรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่มั่นคงในชีวิต ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ไม่ถูกแก้ไขในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ อนาคตใหม่มีแนวทางเสนอทำงบประมาณ 4 ข้อ 1.งบประมาณจากส่วนกลางจะต้องถูกย้ายไปให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารงบประมาณได้อิสระมากขึ้น central to local 2.งบดำเนินการนั้นเยอะเกินไป เรากำลังเงินภาษีประชาชนไปเลี้ยงระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะในรูปแบบงบเบี้ยเลี้ยง งบเดินทาง ค่าจัดสัมมนาต่างๆ เยอะมาก จึงเสนอให้ลดงบดำเนินการและเพิ่มงบลงทุน

“เราจำเป็นต้องมีการลงทุนมหาศาลทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และการจัดสรรเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจัดสรรงบลงทุนเหล่าไม่เพียงพอ 3.เราต้องทำให้รัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนที่จะเกิดขึ้นต้องทำเพื่อคนทุกคน เรามีการลงทุนขนาดใหญ่ ระเบียงพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แต่การลงทุนให้ชีวิตของคนไทยมั่นคงขึ้นเรามีน้อยมาก” นายธนาธรกล่าว

นายธนาธรกล่าวว่า อนาคตใหม่เห็นด้วยการลงทุนเมกกะโปรเจ็กต์ แต่ต้องเคลื่อนย้ายถ่ายเทเงินบางส่วนให้การลงทุนเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคม เช่น โรงเรียนขนาดกลาง ขนาดเล็ก สาธารณูปโภคพื้นฐาน 4.เราจำเป็นต้องสร้างสวัสดิการให้ครอบคลุมเพื่อความเสมอภาค ไม่ใช่สวัสดิการแบบอนาถา ต้องย้ายงบสวัสดิการแบบเบี้ยหัวแตก ทำให้เกิดสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

“ทุกคนจะได้เห็นการเสนองบประมาณรูปแบบใหม่ในสภา ในแนวคิดและกรอบแบบนี้ พร้อมทั้งแนวคิดและการนำเสนอ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่จะเกิดในสภา เช่น อภิปรายในกรอบงบประมาณ Central to local ย้ายงบส่วนกลางสู่ภูมิภาค การลงทุนแบบ investment for all จะเป็นการอภิปรายที่สร้างสรรค์และประชาชนได้ประโยชน์จริงๆ โดยที่หวังว่าข้อเสนองบประมาณของเราไม่มากก็น้อยจะไปสู่การแปรญัตติวาระ 2 ”นายธนาธรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณปี 2563 ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ยิ่งตอกย้ำถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ การลงทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำเมืองชนบทไม่มีให้เห็น งบฉบับนี้เป็นงบไม่มีความฝัน คืออยากเห็นสังคมแบบไหนใน 10 ปีข้างหน้า มีงบ 3.2 ล้านล้านจะขยับไปสู่สังคมที่ใฝ่ฝันอย่างไร แต่งบ 63 ไม่เห็น อย่างไรก็ตาม การอภิปรายจะไม่เน้นรายกระทรวง ด้วยภาระที่จำกัดพูดทุกกระทรวงไม่ได้ แบบที่เป็นรายกระทรวงและรายหัวข้อ รายประเด็นตัดผ่านทุกกระทรวง เช่น สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง ในส่วนของกระทรวง เช่นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเวลา 390 นาที ที่ อนค.ได้รับการจัดสรรถือว่าเป็นเวลาที่กำลังดี

เมื่อถามว่า มองการตั้งงบกลาง 5 แสนล้านบาทอย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า งบกลางที่ไม่ต้องใส่รายละเอียด ให้เป็นอำนาจฝ่ายบริหารทั้งหมด ซึ่งการตั้งงบกลางเยอะๆ เป็นการข้ามหัวสภา ข้ามหัวประชาชน พรรคจะอภิปรายเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ ม.รังสิต ระบุว่ามีกระบวนการความเมือง ผลักคนเห็นต่างให้เป็นศัตรู นายธนาธรกล่าวว่า เนื่องจากเตรียมการอภิปราย จึงไม่มีเวลาฟัง แต่ อนค.ไม่ได้มองใครเป็นศัตรูจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย เดินกลับไปสู่ความเป็นปกติ ถ้ามีกลุ่มคนมีความเห็นหลากหลายพร้อมจะแลกเปลี่ยนถกเถียงกัน เช่น รธน.ตั้งใจไม่ลงรายละเอียด เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนหาทางออก เราต้องกล้าพูดความจริง เหตุผลที่เรามีส่วนที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้กันหมด นักวิชาการ สื่อ กองทัพ นักการเมือง เราต้องตระหนักข้อเท็จจริง สังคมต้องการคือข้อตกลงร่วมกัน เห็นไม่ตรงกันได้ แต่อย่างน้อยกฎกติกาที่เคารพร่วมกันแม้เห็นไม่ตรงกัน แต่จะเคารพกติกานี้

ส่วนเรื่องพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วน ของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ของอนาคตใหม่จะลงมติงดออกเสียงนั้น นายธนาธรกล่าวว่า ทางพรรคยังไม่มีข้อสรุป มีการหารือเบื้องต้นกับ ส.ส.ของพรรค ไป 1 ครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปหลังการประชุม ส.ส.ในวันนี้หรืออย่างช้าในช่วงเช้าก่อนการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร