“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะยุทธศาสตร์ชาติ – ส.ว.ชง ควบรวม 3 การไฟฟ้า ลดซ้ำซ้อน-งบประมาณ

แฟ้มภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในวันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/5562 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวาระการพิจารณา 4 เรื่อง ดังนี้ 1.การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 2.การมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบเป้าหมายของแผนแม่บท 3.โครงสร้างรายงานประจำปียุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ และ 4.การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติผ่านแผนระดับต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังมีมีเรื่องเพื่อทราบ 4 เรื่อง ดังนี้ 1.การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย (เมษายน-มิถุนายน 2562) 2.ความคืบหน้าการปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน 3.ระเบียบว่าด้วยการติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2562 และ 4.การขับเคลื่อนและการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ การรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย (เมษายน – มิถุนายน 2562) ต่อวุฒิสภาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2562 มีประเด็นอภิปรายสำคัญ ดังนี้ 1.การปรับปรุงแบบการรายงานและการติดตามผลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น เป้าหมาย ตัวชี้วัด และขอบเขตการดำเนินการของหน่วยงานที่รับผิดชอบตามแผนการปฏิรูปประเทศ 2.การเร่งรัดกิจกรรมตามแผนการปฏิรูปประเทศที่สำคัญ และ 3.ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศ

สำหรับการอภิปรายของวุฒิสภาจำนวน 200 คน ในการเร่งรัดการปฏิรูปประเทศในด้านพลังงาน เช่น การโอนย้าย 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งมีแนวคิดมานาน แต่ไม่สามารถไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้จริง ทำให้เกิดการใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน หากสามารถทำงานร่วมกันได้จะลดค่าใช้จ่ายของประเทศได้จำนวนมาก และการจัดการก๊าซธรรมชาติไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก พื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา ควรมีการดำเนินการเช่นกรณีตัวอย่างไทย-มาเลเซีย เพื่อลดการนำเข้า LNG จากต่างประเทศ

ด้านสังคม แผนการเสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุในการทำงานขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 ด้านบริหารราชการแผ่นดินควรเร่งรัดดำเนินการ เช่น การลดขนาดกำลังคน และค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ที่มีผลผูกพันงบประมาณระยะยาว การลดจำนวนกำลังภาครัฐร้อยละ 10 ภายใน 5 ปี การสร้างแรงจูงใจสำหรับผู้บริหารที่สามารถยุบหรือลดกำลังคนได้ ควรได้รับงบประมาณเพิ่มเพื่อไปลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี การสร้างผู้นำ การพัฒนาผู้บริหารระดับสูงให้มีฝีมือในการบริหารองค์กรให้มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพ สามารถบริการประชาชนได้อย่างแท้จริง


ข้อเสนอแนะอื่น ๆ เห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และให้ความสำคัญกับการปฏิรูปประเทศในเรื่องของศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ หรือเพิ่มเป็นประเด็นปฏิรูปในแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม