อนาคตใหม่แตกพรรค-พรรคแตก ตั้งไข่ “พลังอนาคต”

อนาคตใหม่แตกพรรค-พรรคแตก ตั้งไข่

อาจกล่าวได้ว่า อนาคตของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) “พรรคน้องใหม่” ที่มีอายุเพียง “ขวบเศษ” ต้องเผชิญอัตราเสี่ยงยุบพรรคสูงลิบ เพราะมี “คดีความ” ติดตัว-ติดพรรคกว่า 20 คดี ในกระแสข่าวตั้ง “พรรคสำรอง”

3 ดาบ 3 คดีที่เป็น “ชนักปักหลัง” ที่ “แหลมคมที่สุด” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และอนาคตใหม่ ซึ่ง “เดิมพัน” ด้วยการถูก “เว้นวรรค”-“ตัดสิทธิ” ทางการเมือง และ “เลวร้ายที่สุด” คือ “ยุบพรรค”

ดาบแรก ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย-ชี้ขาดนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในคดีถือหุ้นสื่อ-บริษัทวีลัค-มีเดีย อาจถูกตัดสิทธิการเป็น ส.ส.-พ้นสมาชิกภาพในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 20 พ.ย. 62

ดาบสอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 รับคำร้องคดีล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 62 พรรคอนาคตใหม่อาจถูกยุบพรรค-เพิกถอนสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค-ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 ชีวิต

ดาบสาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อยู่ระหว่างตรวจสอบนายธนาธร กรณีให้พรรคอนาคตใหม่ “กู้ยืมเงิน” จำนวน 191 ล้านบาทเพื่อดำเนินกิจการพรรคอาจเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พรรคการเมือง

85 เปอร์เซ็นต์ของ “พรรคพลังอนาคต” ที่ยื่นจดจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 62 ถูกคาดหมายว่าเป็น “พรรคสำรอง” ของพรรคอนาคตใหม่

โดยมี “จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ” หรือ “ดร.อ้วน” เป็น “หัวหน้าพรรค” และมี “ภัทรายุส สังข์ศิริ” เป็น “เลขาธิการพรรค”

ในแวดวงธุรกิจ “ดร.อ้วน” เจ้าของฉายา “มิสเตอร์พันล้าน” หรือ “พ่อมดน้อยด้านการเงิน” จากการเป็นเจ้าของบริษัท เจพี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) “ธุรกิจแฟรนไชส์” ศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสองเจ้าแรกของไทย

สะสมประสบการณ์ทางธุรกิจจนมี “พ็อกเกตบุ๊ก” เป็นของตัวเอง อาทิ “รวยพันล้าน สร้างด้วยธุรกิจแฟรนไชส์” ก่อนจะผันตัวเองมาสู่เส้นทางการเมือง-วางมือทางธุรกิจเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และออกพ็อกเกตบุ๊กชื่อ “จักรพันธ์ Vision”

“ดร.อ้วน” ยังเป็น “หลาน” นายสำเภา ประจวบเหมาะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และอดีต ส.ส.หลายสมัยในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 9 สมัย

ปัจจุบัน “ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังอนาคต” ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัท อินเตอร์ไพร์ม มีเดีย จำกัด ที่มี “พาที สารสิน” อดีตซีอีโอบริษัทสายการบิน “นกแอร์” ที่เป็นผู้บริหารระดับสูง เพื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัว

พรรคพลังอนาคตมีสมาชิก-ผู้ร่วมก่อตั้ง 600 คน เป็นการรวมตัวกันของ “นักธุรกิจคนรุ่นใหม่” ในวงการสตาร์ตอัพ-เอสเอ็มอี และอีสปอร์ต อายุเฉลี่ย 20-30 ปลาย ๆ

ขณะที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีทั้งหมด 9 คน อาทิ 1.จักรพันธ์-หัวหน้าพรรค 2.ภัทรายุส-เลขาธิการพรรค 3.จิณณ์ธิตา จันทสุวรรณสิน-“เจ้าแม่ความงาม” 4.กรพรหม ชุติชูเดช 5.ธิดารัตน์ ประจวบเหมาะ 6.พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม-เจ้าของคดี “เสี่ยเบนซ์” และ 7.พ.อ.ดุษฎี มุ่งเหมาะ

“จุดยืนยึดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารประเทศให้ทันกับโลกยุคปัจจุบัน ไม่ได้ฝักใฝ่ในเรื่องของการเมือง มุ่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก” วิสัยทัศน์ของว่าที่หัวหน้าพรรคพลังอนาคต

ทว่ายังไม่ทันได้ตั้งไข่ “พรรคพลังอนาคต” ถูกนำมาโยงว่าเป็น “พรรคอะไหล่” ของพรรคอนาคตใหม่ เพราะความสัมพันธ์และเชื่อมโยง ระหว่าง “ธนาธร”-“บริษัทวีลัค-มีเดีย” กับ “ดร.อ้วน” ว่าที่หัวหน้าพรรค
เรื่อง “บริษัทวีลัค-มีเดีย” ของ “ธนาธร” ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับ “นกแอร์” เพื่อ “ผลิตนิตยสาร” จนเป็น

“ชนวนเหตุ”ของการยื่นคำร้องใน “คดีถือหุ้นสื่อ” ที่เป็น “จุดตาย” ของนายธนาธร-พรรคอนาคตใหม่ในวันนี้
คำให้การนอกศาลของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โต้แย้งว่า เป็นสัญญาจ้าง “ค้างเก่า” และบริษัทวีลัค-มีเดีย มีหน้าที่เป็น “แท่นพิมพ์”-“โรงพิมพ์” ไม่มีส่วนในการกำหนดเนื้อหา-สาระ-โฆษณาใน “ฉบับสุดท้าย”

จึงต้องพิสูจน์ทราบกันชั้นศาล-หลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีการเผยแพร่ “นิตยสาร” ของสายการบินนกแอร์ “ฉบับส่งท้าย” หรือยัง และมีการโฆษณา-ชี้ชวน-ชวนเชื่อทำให้พรรคอนาคตใหม่เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่

 


คลิกอ่าน… “ส.ส.พึงมี” แผลงฤทธิ์ ป่วนการเมือง ถ้ายุบอนาคตใหม่ 38 ปาร์ตี้ลิสต์วงแตก ?