เปิดเส้นทางครม.บิ๊กตู่ สัญจร “สุพรรณ-อยุธยา” เปิดประตูการค้าภาคกลาง เชื่อมศก.ทวาย-อีอีซี

14 ก.ย. 2560 พันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) อย่างเป็นทางการ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 19 กันยายน 2560 พร้อมลงพื้นที่ทั้งจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพบปะประชาชนและติดตามผลการดำเนินงานของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคกลาง

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีฯ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้ คณะรัฐมนตรีมีวาระพิจารณาแผนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์และทิศทางการพัฒนาภาคกลาง เพื่อเร่งรัดโครงการต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ ในรอบเวลาที่กำหนดคือ พัฒนาภาคกลางสู่มหานครทันสมัยและเป็นฐานการเชื่อมโยงประเทศไทยสู่เส้นทางขนส่งสองฝั่งทะเล โดยมียุทธศาสตร์การพัฒนาประกอบไปด้วย 1. พัฒนากรุงเทพฯ เป็นมหานครทันสมัยระดับโลกควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง 2. พัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและสร้างความเชื่อมโยงเพื่อกระจายการท่องเที่ยวทั่วทั้งภาค 3. ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 4. บริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และคงความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน 5. เปิดประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย – ภาคกลาง – ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และ 6. พัฒนาความเชื่อมโยงเศรษฐกิจและสังคมกับทุกภาคเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้ติดตามประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และทิศทางการพัฒนาของภาคกลาง พร้อมทั้งโครงการตามแผนบูรณาการการส่งเสริมความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) โดยเฉพาะโครงการสำคัญขนาดใหญ่ในพื้นที่ด้วย

สำหรับประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีกำหนดการดังนี้

วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน 2560 เวลาประมาณ 07.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางจากสนาม ฮ. พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท ไปยังจุดจอด ฮ. ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปสักการะหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์วรวิหาร และพบปะประชาชน พร้อมตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังโรงเรียนเกษตรกรชาวนา สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง เพื่อเยี่ยมชมผลการดำเนินงานของโรงเรียนเกษตรกรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี ข้าวนาแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และโครงการ 9101 โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนักเรียนชาวนาและชาวสุพรรณบุรี ณ โรงเรียนเกษตรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเดินทางโดย ฮ. จากศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี ไปยังจุดจอด ฮ. สำนักงานเทศบาลตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเดินทางต่อไปยังหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทุ่งรับน้ำ “โครงการเปิดน้ำเข้านา – ปล่อยปลาเข้าทุ่ง” และเปิดประตูระบายน้ำบ้านแพนเข้านา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการทำนาเหลื่อมปีและโครงการขุดดินแลกน้ำ และพบปะประชาชนที่มาให้การต้อนรับ จากนั้นเวลาประมาณ 16.30 น. ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา นายกรัฐมนตรีจะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อมอบนโยบาย รับฟังการนำเสนอทิศทางการพัฒนาภาคกลาง และรับฟังโครงการสำคัญ ที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

วันอังคารที่ 19 กันยายน 2560 เวลาประมาณ 07.00 น. นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และชาวอยุธยาร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป ณ บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ พร้อมเยี่ยมชมตลาดกรุงศรี และนั่งรถรางเยี่ยมชมมรดกโลก (กิจกรรมเผยแพร่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว) ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จากนั้น เวลา 09.00 น. โดยประมาณ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2560 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา

ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.30 น. ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบปะประชาชน ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และเวลาประมาณ 17.10 น. นายกรัฐมนตรีออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร จากจุดจอด ฮ. สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปยังสนาม ฮ. พล. ม 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร