พลังประชารัฐรื้อ กก.บห. 4 ก๊ก แชร์อำนาจ – ดึงขาใหญ่ ปชป.ร่วมวง “ประชาธิปัตย์พลัส”

ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในวันที่ 21 ธันวาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม.มีวาระเพื่อปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) “มีความเป็นได้” ที่จะ “เปลี่ยนตัว” หัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค

โดยเฉพาะตำแหน่ง “พ่อบ้าน” เป็นการ “ขับเคี่ยวกัน” ระหว่าง 4 ก๊กใหญ่ ได้แก่ 1.ก๊กสี่กุมาร 2.ก๊กสามมิตร 3.ก๊กกทม.-อดีตกปปส. และ 4.ก๊กบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

ก๊กสี่กุมาร ที่มี “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน “เก้าอี้ร้อน” มาตั้งแต่ในช่วงการ “ฟอร์มรัฐบาลบิ๊กตู่2” มีการขย่ม-เขย่าเก้าอี้พ่อบ้านพรรคกันดุเดือดถึงขั้น “เกณฑ์ส.ส.” ปลดกลางอากาศ

ขณะที่ก๊กกทม.-กปปส. ก็มีชื่อของ “เสี่ยตั้น-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” มีชื่อติดโผ “พ่อบ้านคนใหม่” มาโดยตลอด  ขณะที่ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ก็มองข้ามไม่ได้ เพราะมี “คอนเนกชั่นพิเศษ” สายตรงตึกไทยคู่ฟ้า

ส่วนก๊กสามมิตร ชู “เสี่ยแฮ้งค์-อนุชา นาคาศัย”  ขึ้นมาเชือด ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่

โดยมี “ก๊กใหม่” คือ “ก๊กบิ๊กป้อม” มาร่วม “แชร์อำนาจ” ที่มี “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ที่ยอม “ยุบพรรคตัวเอง” ก่อนจะได้ “โควตาตึกไทยคู่ฟ้า” เข้าไปนั่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560

รวมถึง “นฤมล ภิญโญสินวัตร” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ “ข้ามห้วย” จาก “ก๊กสี่กุมาร” กระโดดค้ำถ่อเข้า “สังกัดวงษ์สุวรรณ”

“นฤมล” ปัจจุบันยังเป็น กก.บห.พรรค โดยอาจจะได้เห็นนายไพบูลย์ – “เด็กบิ๊กป้อม” มีตำแหน่งแห่งหนในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

การประชุมรื้อโครงสร้าง กก.บห. “จัดระเบียบอำนาจใหม่” ภายในพรรค ยังเป็นการ “เสริมทัพ” ด้วยอดีตส.ส.- อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยอมจ่ายด้วย “ต้นทุนสูงลิบ” ตัดสินใจ “ทิ้งเก้าอี้ ส.ส.” อย่าง “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค”

จึงได้เห็นคำสั่งแต่งตั้ง “นายพีระพันธ์” ในตำแหน่งทางการ-ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำงานใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ กุมงานบริหารและความมั่นคง ตามรอยอดีตขุนพลประชาธิปัตย์ รุ่นก่อน ที่เริ่มงานจากทำเนียบ แล้วต่อสายไปสู่พรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่ “กรณ์ จาติกวาณิช” ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกคน ที่มี “สายสัมพันธ์” กับ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ในฐานะเป็นพี่-เป็นน้องกัน ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้นายกรณ์ยังมี “คอนเนคชั่นพิเศษ” กับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” 

ทว่าถ้า “กรณ์” เก็บกระเป๋าย้ายค่ายมาซบพลังประชารัฐ ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรีให้

สำหรับข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐที่จะใช้เลือก “กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่” ในที่ประชุมใหญ่ กำหนดให้มีจำนวนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไม่น้อยกว่า 8 คน แต่ “ไม่เกิน 45 คน” ประกอบด้วย 1.หัวหน้าพรรค 2.เลขาธิการพรรค 3.เหรัญญิกพรรค 4.นายทะเบียนสมาชิก 5.กรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น

โดยการ “ลงคะแนนลับ” ตามลำดับ ดังนี้ (1) ให้ที่ประชุมใหญ่กำหนดจำนวนของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง (2) ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองจนครบจำนวนตามกำหนดไว้ ซึ่งในการเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่ละตำแหน่งต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมรับรองไม่น้อยกว่า 10 คน และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องอยู่ในที่ประชุม

โดยให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่แต่งตั้ง “คณะผู้บริหารพรรคการเมือง” ไม่เกิน 7 คน ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค

ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคการเมืองมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง หรือ นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองชุดใหม่

“ข้อ 13 ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นกรรมการบริหารพรรคมิได้”ข้อบังคับข้อนี้ทำให้ “สุชาติ ตันเจริญ” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่สามารถเป็นกรรมการบริหารพรรคได้

สำหรับองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองรวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า 250 คน ประกอบด้วย 1.กรรมการบริหารพรรคไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 2.ผู้แทนของสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสาขาพรรคการเมือง ซึ่งจำนวนนี้จะต้องประกอบด้วยผู้แทนของสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่าสองสาขาซึ่งมาจากต่างภาคกัน 3.ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และ 4.สมาชิกพรรคการเมือง

การลงมติให้ถือเสียงข้างมากของที่ประชุม ในกรณีที่มีเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

สำหรับคณะกรรมการบริหารพรรค ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 มีจำนวน 23 คน ประกอบด้วย 1.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค 2.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค 3.นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เหรัญญิกพรรค 4.นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ 6.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 7.นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล 8.นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ 9.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล 10.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

11.น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ 12.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 13.นายอนุชา นาคาศัย 14.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 15.นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 16.นายณพพงษ์ ธีระวร 17.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 18.นายอิทธิพล คุณปลื้ม 19.นางวลัยพร รัตนเศรษฐ 20.นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ 21.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 22.นายชวน ชูจันทร์ และ 23.นายสันติ กีระนันท์

อ่านเพิ่มเติม