สมศักดิ์ : มือปืนรับจ้างคุมเกมรัฐบาล “ประยุทธ์หุ้นใหญ่ ประชาธิปไตยอยู่ในมือเรา”

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

สัมภาษณ์พิเศษ

โดย ปิยะ สารสุวรรณ

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” เปรียบตัวเองเป็น “มือปืนรับจ้าง” เก็บแต้ม-ก่อร่างรัฐบาลหลังการเมืองยุคปี”35 ก่อนจะรุ่งเรืองสุดขีดในยุคไทยรักไทย เป็นหัวหน้า “กลุ่มวังน้ำยม” แม้ถูกยุบพรรค-ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่เขายังเคลื่อนไหวตั้งก๊วน-ก๊ก พเนจรอยู่หลังม่านการเมือง ทั้งในชื่อกลุ่ม 8 ส.ส.พิเศษ-กลุ่มมัชฌิมา-กลุ่มสามมิตร

“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนาพิเศษ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แกนนำสามมิตร-พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึง “ปัจจัยเสี่ยง” ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 ในปี”63 ในการแก้ปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ “ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”

เคลียร์หัวหน้ามุ้งลงตัว

“สมศักดิ์” บอกถึงการปรับโครงสร้าง-เสริมทัพกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค เพิ่ม 17 คน ว่า ความเป็นก๊ก-เหล่าไม่เป็นปัญหา การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะทำให้การกำหนดนโยบายลงไปถึงชนบท คนต่างจังหวัด-รากหญ้า เพราะมี ส.ส.เข้าไปเป็น กก.บห.พรรคมากขึ้น

เมื่อเกลี่ยตำแหน่งสำคัญภายในพรรคลงไปแล้ว กก.บห.พรรคทั้ง 34 คน ปรับไปตามสถานการณ์และเวลา ในวันข้างหน้าอาจจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะอยู่ในจำนวนตามข้อบังคับพรรค ไม่เกิน 45 คน เป็นการปรับตามความจำเป็นเพื่อกำกับนโยบายของรัฐบาล ให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด

“ที่ไหน ๆ ก็มีกลุ่ม เป็นก้อน เป็นเรื่องธรรมดา แต่หัวหน้ากลุ่มรับแนวปฏิบัติเข้าไปทำงาน จะทำให้งานเดินไปในทิศทางเดียวกัน ตอนนี้เราอยู่กลุ่มหัวหน้าพรรค ทุกคนเป็นลูกทีมของหัวหน้าพรรค”

ประชาธิปไตยอยู่ในมือเรา

แม้รัฐบาลจะใช้บริการเสียงงูเห่า-มือปริศนา ล่าสุดการคว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เขต 7 เติมเสียงรัฐบาลได้เพิ่มอีก 1 เสียง รวมแล้ว 263 เสียง กลายเป็นเสียง “เหนือน้ำ”

ทว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า การ “ออกฤทธิ์” ของกลุ่ม ก๊วนทั้งในพรรค-นอกพรรค ทำให้เกิด “แรงกระเพื่อม” และอาจ “ตกม้าตาย” เพราะมาประชุมสภาไม่ทัน โดยมี “วาระร้อน” ในปีหน้า เช่น การลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 วาระที่ 3 และการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการโหมโรงแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560

“ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะรัฐบาลยังไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ประเด็นที่ฝ่ายค้านจะเอาให้รัฐบาลเจ็บป่วยคงไม่ได้ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำต้องร่วมแรงร่วมใจกันเต็มที่ ถึงจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ อย่าไปหลงลืม อย่าไปเที่ยวไหนเพลิน จนมาประชุมสภาไม่ทัน”

“ประมุขทุกประมุขอยากจะสร้างผลงาน ผมก็มีงาน เป็น ส.ส.ด้วย เป็นภาระที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ทั้ง 2 ข้าง”

“รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แพ้-ชนะกันไม่กี่เสียง แต่ถ้ามีเสียงให้ครบ ยกมือให้ได้เกินครึ่งหนึ่ง 250, 249 ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ต้องมาให้ครบ องค์ประชุมให้มันได้ จบ ประชาธิปไตยอยู่ที่มือ”

ไม่ไว้ใจเสียงงูเห่า-มือปริศนา

ถ้าเรามีพรรคร่วมรัฐบาลอยู่เพียงเท่านี้ บางพรรค (ประชาธิปัตย์) ไม่สามารถคุมเสียงของพรรคตัวเองได้ เขาก็รับผิดชอบ จะไปเสริม ไปเพิ่มเติมตรงไหนมา ก็ว่ากันไป แต่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ใช่ง่าย

“ไม่ไว้ใจหรอกมือปริศนา ไปไว้ใจได้ยังไง พวกฝ่ายค้านอิสระ ผมไม่ค่อยชอบเลย เพราะว่าเอาแน่นอนไม่ได้ ปวดหัว”

ประยุทธ์ หุ้นส่วนใหญ่

ส่วนจะดึงมาเข้าร่วมรัฐบาลถาวร หรือเรียกใช้บริการเสริมเป็นครั้งคราว “สมศักดิ์” ไม่ขอคิดแทนผู้นำรัฐบาล

“ท่านนายกฯวิสัยทัศน์กว้างไกลอยู่แล้ว ถ้าเป็นรัฐบาลท่านเป็นหุ้นส่วนใหญ่ คนอื่นถือหุ้นนิด ๆ หน่อย ๆ ต้องเป็นเรื่องของท่านนายกฯจะพิจารณาตัดสินใจ เราไม่สามารถไปยุ ไปห้ามได้ เป็นอำนาจเต็มของท่านที่ต้องตัดสินใจ ยังไปได้ ๆ กินข้าวกันบ่อย ๆ หน่อย กินเหล้าด้วย กินเหล้ากันบ่อย ๆ หน่อย”

อย่าไปหนักใจ เพราะฝ่ายค้านในรัฐบาลต้องหมดไป เขาแสดงออกมาไม่ใช่เพราะเกลียด หรือโกรธรัฐบาลถึงขนาดเปลี่ยนไม่ได้ เขาโกรธเพราะมีความในใจระหว่างพวกเดียวกันเอง ให้เขาไปปรับกระบวนท่ากันให้เรียบร้อย

สมมุติทั้งพรรคมี 50 คน มีหลายกลุ่มในพรรค ชี้ให้เห็นแล้วว่ามีกลุ่มในพรรค พรรคเขาก็มีชีวิต มีมือ เฮ้ย มือกูไม่มีความหมายหรือไง เลยยกสวนให้ดูบ้าง ก็ต้องไปปรับกันในพรรค ยังไม่ถึงขั้นเอาใหม่

“รัฐบาลทำงานมาเพียง 4 เดือนครึ่ง ปีเดียวเรื่องใหญ่ ๆ ก็เป็นเรื่องนิดเดียว มะพร้าวตกใส่ศีรษะก็ยังไม่เป็นไร ถ้าปีที่ 3 ไม่ได้แล้วทีนี้ เรื่องนิดเดียวก็ทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่ แค่ลมพัดมาแรงหน่อยก็อาจทำให้รัฐบาลทะเลาะกันได้ ใจเย็น ๆ อดทนเอา ยังไม่อยากเลือกตั้งกันใหม่หรอก ดูแล้ว เหนื่อย”

เขย่า 3 รองนายกฯ ศก.

“ตอนนี้ต้องดูเรื่องเศรษฐกิจให้ดี ท่านนายกฯพยายามสั่งงาน สั่งข้อมูล เก็บข้อมูลเศรษฐกิจชนบทออกมา แสดงให้เห็นว่า ท่านนายกฯตระหนักรู้เรื่องเศรษฐกิจ เพราะมีรองนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ท่านอาจจะต้องเตรียมข้อมูลของท่านเอง เพื่อเขย่าเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนด้วย เขย่า ๆ ทำงาน ๆ”

เรื่องเศรษฐกิจฐานรากทุกกระทรวงต้องขับเคลื่อน ครม.เป็นเจ้าภาพอยู่แล้ว ท่านนายกฯเอาไม้แส้หวดตรงไหน ก็ขยับตรงนั้น ตอนนี้ 3 รองนายกฯทำงานอยู่ ท่านนายกฯเป็นแกนกลางประชุม ครม.ทุกสัปดาห์ จี้ ทั้ง 3 คน น่าจะดีกว่าคนเดียว

เมื่อ “ทีมเศรษฐกิจ” รัฐบาลผสม 18 พรรค ที่มีรองนายกรัฐมนตรี จาก 3 พรรคการเมือง ทำงาน “ไม่เข้าขา” เขาเชื่อว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์อยู่เป็นหัวเรือใหญ่ จะสามารถปรับ-จูน 3 รองนายกฯ ให้ทำงานเป็น “ทีมเวิร์ก” ได้

“ท่านนายกฯอยู่ตรงกลาง เคาะ ครม.ทุกสัปดาห์อยู่แล้ว รองนายกฯเท่ากัน จูนกันไม่ได้หรอก ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันทุกกระทรวง ต้องสร้างกำลังซื้อโดยธรรมชาติให้มันเกิด”

เมื่อวาระเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสว่า วาระการเมืองถึงขั้นต้องปรับ ครม.หรือไม่

“สมศักดิ์” ตอบลึกซึ้งว่า ขึ้นอยู่กับว่า “ค่ากลาง” ระหว่างเศรษฐกิจดี-ไม่ดี อยู่ที่ใครเป็น “คนตีความ”

“แล้วแต่คนมอง เรื่องเศรษฐกิจ อย่างผมใช้จ่ายวันละ 100 บาท ออกจากบ้านมากระทรวงก็ใช้ 100 บาท ซื้ออาหารการกินก็อยู่ได้ แต่บางคนบอกว่า ไม่ได้ กลางวันต้องเข้าไปที่โรงแรม 5 ดาว มันก็ไม่พอ แล้วแต่จะวัดค่ากลางตรงไหน”

กระทรวงยุติธรรม A++

“สมศักดิ์” เชื่อว่าในปีหน้าที่รัฐบาลต้องฝ่าทั้งมรสุมการเมือง-มรสุมเศรษฐกิจยังสามารถไปต่อได้ แต่ทุกกระทรวงต้องเร่ง “สร้างผลงาน” โดยไม่ขอวิพากษ์ผลงานของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล

“สร้างความยุติธรรมให้เกิด ให้คนมีความสุข มีกำลังใจ คนก็ไม่อยากตาย อยากอยู่เพื่อต่อสู้ เพราะโลกนี้ยังสดสวยอยู่ บางคนไม่รู้จะไปไหน ท้อแท้ ฆ่าตัวตายดีกว่า ผมว่าไม่มี ตอนนี้แค่ปวดหัวตัวร้อนวิ่งมาที่กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข อย่างน้อย ๆ ก็มีคำตอบ”

ในฐานะที่เคยอกหักจากตำแหน่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์-กระทรวงเกรดเอ มานั่งเก้าอี้เสนาบดียุติธรรม กระทรวงที่ไม่มีเครื่องไม้-เครื่องมือสร้างคะแนนนิยม-ฐานเสียง แต่ “สมศักดิ์” ไม่คิดแบบนั้น

“คำว่าเกรดเอ ถ้านับว่างบประมาณไม่เยอะ ใช่ แต่ผมคิดว่า ไม่ได้นับตรงตัวเงิน นับตรงภาระที่เราได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแล หรือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ไม่ว่าผมจะขยับไปทางไหน เวลาทำงานไม่พอ ต้องทำงานวันหยุด ฉะนั้น กระทรวงยุติธรรมยิ่งกว่ากระทรวงเกรด A++”

วันนี้หลายคน ยิ่งคนใกล้ชิด ไม่ขอเอ่ยชื่อ ไม่อยากให้ไปอยู่กระทรวงอื่น อยากให้อยู่ตรงนี้สัก 4 ปี แก้ไขในเรื่องที่ควรแก้ไข ดูแลเกี่ยวกับเรื่องสังคม เพราะอาจจะเป็นความหวังบ้าง แต่ก่อนไม่เชื่อว่ามากระทรวงสังคมจะรู้อะไร ผมเป็นคนชนบท เข้าใจสังคมดี เป็นคนบ้านนอก ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เข้าใจถึงแก่นแกน

“มาอยู่ตรงนี้เป็นกระทรวงที่ไม่ต้องมีงบประมาณมาก แต่ทำแล้วคนใกล้ชิดบอกว่า มีความสุข ให้อยู่อย่างนี้ นำเสนองานสังคมออกไป ผมเป็นคนพูดอะไรไม่ยาว สั้น ๆ เข้าประเด็น ขยายบางประเด็นนิดหน่อย จะได้ไปตรงจุดอื่นได้” เขาย้ำถึง “คนใกล้ชิด” ที่ “พูดไม่ได้” หลายรอบ

“สมศักดิ์” ทดลองงาน “กระทรวงสังคม” มาแล้ว 4 เดือน ขณะนี้กำลังวางแผนงานร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทุกสัปดาห์ โดยมีงานหลัก 5-6 ด้าน ที่ต้องขับเคลื่อนในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

“ผลงานที่จะฝากไว้ในกระทรวงยุติธรรมมีเยอะ รอวันแถลงนโยบายยุติธรรม 1 ปี วันนี้งานที่ทำไปสำคัญทุกเรื่อง อย่างน้อย ๆ มีศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขรับเรื่องร้องเรียน วัน เวลา จะเป็นคำตอบให้เขา ไม่ต้องรอนาน”

มือปืนรับจ้างตั้งรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ “สมศักดิ์” จับจองเก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง-ช่วงฟอร์มรัฐบาล แต่เมื่อรัฐบาลไม่สามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้ 150 ที่นั่ง ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้-พลังประชารัฐไม่มีอำนาจต่อรองเก้าอี้กระทรวงหลักมาทั้งหมด

แม้มาอยู่กระทรวงยุติธรรม ทำงานหนัก-แต่ไม่ได้ “คะแนนสะสม” ทางการเมือง เขาจึงเปรียบตัวเองเหมือน “มือปืนรับจ้าง” และจะทำให้มีแต่คนแย่งกันมาอยู่กระทรวงยุติธรรม !

“ไม่ใช่หรอก มีแต่คนบอกว่าให้ผมอยู่ที่นี่ อย่าย้ายไปเลย ตอนแรกเขาหวังอยากให้ผมไปกระทรวงเกษตรฯ ผมก็บอกว่า ผมทำเต็มที่แล้ว เสียง ส.ส.ได้มาไม่พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อได้กระทรวงหลักมา ก็ต้องแบ่งให้พรรคอื่นไป ผมเป็นเหมือนมือปืนรับจ้าง”

“เมื่อพรรคไม่ได้กระทรวงเกษตรฯมา เราจะไปเอาได้อย่างไร หรือจะไปเอากระทรวงมหาดไทยเขาก็มีคนจองอยู่แล้ว แต่เราจะทำกระทรวงยุติธรรมให้ทุกคนแย่งกันมาอยู่ก็แล้วกัน ในสมัยหน้า”

ยังไม่ถึงครึ่งทางของอายุขัยของรัฐบาล แต่ “สมศักดิ์” ขอสนุกกับเจ้ากระทรวงยุติธรรมไปอีก 8 ปี ให้เหมือนกับการเล่นกีฬาฟุตบอลที่เขายังฟิตอยู่ในสนาม 120 นาทีเต็ม สมกับรัฐธรรมนูญที่”ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”