วันที่ 23 มกราคม 2563 เวลา 11.10 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงข้อกังวลต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
“สิ่งที่น่าจะมาถามผมวันนี้ คือจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งผมก็ต้องไปดูและหารือกับกระทรวงการคลัง และคุยกับสำนักงบประมาณ ว่าจะทำอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ต้องหารือกันอีกครั้งว่าเราจะแก้ไขในส่วนของการบริหารราชการอย่างไร ในส่วนของงบบุคลากร คงไม่มีปัญหามากนัก แต่จะมีปัญหาในเรื่องของงบลงทุน ซึ่งมีจำนวนหลายแสนล้านบาท ถ้าทำไม่ได้จะส่งผลให้เศรษฐกิจของเราไม่ดีขึ้นมากนัก ก็ต้องหามาตรการอื่นเข้ามาเสริมเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าไม่มีเงินลงไป มันก็เดือดร้อนกันทั้งหมด แต่ผมก็เคารพในกติกาในกฎหมายทุกฉบับ เรื่องนี้ก็ขอให้ติดตามกันต่อไป” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดว่างบประมาณฯ จะล่าช้าไปสักเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณานานหรือไม่นาน ซึ่งปกติเรื่องแบบนี้ก็นานพอสมควร นานเป็นเดือน ก็ทำให้ล่าช้า งบประมาณฯ ก็มีปัญหา สมมุติว่าการใช้จ่ายงบประมาณฯ ล่าช้าไปอีก 3 เดือน แล้วมันจะใช้ทันหรือเปล่าสำหรับเวลาที่เหลือ ก็จะเข้าไปไตรมาสสองอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้เงิน นายกฯ กล่าวปฏิเสธทันทีว่า ไม่สมควร ได้ปรึกษากันแล้วสำหรับเวลานี้
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องให้ทีมเศรษฐกิจเร่งออกแผนสำรองมารับมือก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วว่าต้องทำ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการประชุมในเรื่องของงบประมาณฯ ว่าจะต้องทำอย่างไรกันต่อไป ถ้าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องเลื่อนออกไป เราจะทำตรงไหนได้บ้าง การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐ ในส่วนที่สามารถใช้ได้ไปพลาง ๆ ก่อน จะทำอย่างไร ปัญหาวันนี้ที่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของงบการลงทุน
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการมองไปถึงความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่รัฐบาลด้วยกันเองออกมาเปิดเผยข้อมูล จนทำให้กลายเป็นปัญหาต่อเนื่องมาถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ จะพรรคไหน พรรคไหน ผมไม่รู้” ก่อนที่จะถอนหายใจเสียงดัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าปัญหาวันนี้เป็นเรื่องของส.ส.ขุดคุ้ยกันเอง นายกฯ ถึงกับถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า “ก็ต้องไปถามคนฟ้องดู อย่ามาถามผม ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย สรุปก็คือว่า ไม่ควรไปกระทำ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ก็ไม่ควรจะกระทำ ถ้ารู้ว่ามันผิดกติกาของสภาฯ เอาอย่างงี้ ผมก็ตอบแบบนี้ก็แล้วกัน”
ทางด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ระหว่างการลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จนประธานรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ากว่ากำหนด ว่า สมมุติว่าใช้เงินได้เดือนพฤษภาคมจะทำให้เหลือเวลาใช้จ่ายงบประมาณเพียง 4 เดือน (ถึงกันยายน) ใช้ไม่ทัน ส่วนจะต้องออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือไม่นั้น หากไปถึงขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญต้องตีความก็ไม่ควรทำอย่างนั้น อาจจะต้องใช้วิธีอื่น ซึ่งรัฐบาลได้หารือเพื่อแก้ปัญหาในหลาย ๆ วิธี เราเป็นจุดศูนย์กลางที่นักลงทุนสนใจอยู่แล้ว อย่าทำร้ายตัวเอง ขอแค่นี้