รัฐบาลกุมขมับ มีเวลาใช้งบประมาณ 2563 แค่ 4 เดือน

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ระหว่างการลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จนประธานรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ากว่ากำหนด ว่า สมมุติว่าใช้เงินได้เดือนพฤษภาคมจะทำให้เหลือเวลาใช้จ่ายงบประมาณเพียง 4 เดือน (ถึงกันยายน) ใช้ไม่ทัน ส่วนจะต้องออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือไม่นั้น หากไปถึงขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญต้องตีความก็ไม่ควรทำอย่างนั้น อาจจะต้องใช้วิธีอื่น ซึ่งรัฐบาลได้หารือเพื่อแก้ปัญหาในหลาย ๆ วิธี เราเป็นจุดศูนย์กลางที่นักลงทุนสนใจอยู่แล้ว อย่าทำร้ายตัวเอง ขอแค่นี้

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.10 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงข้อกังวลต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 หลังเกิดกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่าต้องหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หลายเรื่อง ซึ่งได้มีการหารือกันมาโดยตลอด แต่ก็ต้องดูว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร ในส่วนของรัฐบาลก็มีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“สิ่งที่น่าจะมาถามผมวันนี้ คือจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งผมก็ต้องไปดูและหารือกับกระทรวงการคลัง และคุยกับสำนักงบประมาณ ว่าจะทำอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ต้องหารือกันอีกครั้งว่าเราจะแก้ไขในส่วนของการบริหารราชการอย่างไร ในส่วนของงบบุคลากร คงไม่มีปัญหามากนัก แต่จะมีปัญหาในเรื่องของงบลงทุน ซึ่งมีจำนวนหลายแสนล้านบาท ถ้าทำไม่ได้จะส่งผลให้เศรษฐกิจของเราไม่ดีขึ้นมากนัก ก็ต้องหามาตรการอื่นเข้ามาเสริมเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าไม่มีเงินลงไป มันก็เดือดร้อนกันทั้งหมด แต่ผมก็เคารพในกติกาในกฎหมายทุกฉบับ เรื่องนี้ก็ขอให้ติดตามกันต่อไป”  นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดว่างบประมาณฯ จะล่าช้าไปสักเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณานานหรือไม่นาน ซึ่งปกติเรื่องแบบนี้ก็นานพอสมควร นานเป็นเดือน ก็ทำให้ล่าช้า งบประมาณฯ ก็มีปัญหา สมมุติว่าการใช้จ่ายงบประมาณฯ ล่าช้าไปอีก 3 เดือน แล้วมันจะใช้ทันหรือเปล่าสำหรับเวลาที่เหลือ ก็จะเข้าไปไตรมาสสองอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้เงิน นายกฯ กล่าวปฏิเสธทันทีว่า ไม่สมควร ได้ปรึกษากันแล้วสำหรับเวลานี้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องให้ทีมเศรษฐกิจเร่งออกแผนสำรองมารับมือก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วว่าต้องทำ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการประชุมในเรื่องของงบประมาณฯ ว่าจะต้องทำอย่างไรกันต่อไป ถ้าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องเลื่อนออกไป เราจะทำตรงไหนได้บ้าง การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐ ในส่วนที่สามารถใช้ได้ไปพลาง ๆ ก่อน จะทำอย่างไร ปัญหาวันนี้ที่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของงบการลงทุน

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการมองไปถึงความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่รัฐบาลด้วยกันเองออกมาเปิดเผยข้อมูล จนทำให้กลายเป็นปัญหาต่อเนื่องมาถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ จะพรรคไหน พรรคไหน ผมไม่รู้” ก่อนที่จะถอนหายใจเสียงดัง


เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าปัญหาวันนี้เป็นเรื่องของส.ส.ขุดคุ้ยกันเอง นายกฯ ถึงกับถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า “ก็ต้องไปถามคนฟ้องดู อย่ามาถามผม ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย สรุปก็คือว่า ไม่ควรไปกระทำ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ก็ไม่ควรจะกระทำ ถ้ารู้ว่ามันผิดกติกาของสภาฯ เอาอย่างงี้ ผมก็ตอบแบบนี้ก็แล้วกัน”