สมคิด ล้วงทุกลูกเร่งลงทุน ชง ครม.คลอดมาตรการภาษีจูงใจอังคารหน้า

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน ครั้งที่ 1 ว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมนโยบายการคลัง โดยจะนำมาตรการภาษีเพื่อจูงใจมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยให้ 1.5 เท่า ซึ่งทำให้เกิดการลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่ครั้งนี้จะให้มากกว่า 1.5 เท่าแน่นอน ภายในระยะเวลา 1 ปี ทั้งนี้ จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันอังคารที่ 28 มกราคมนี้

สำหรับมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะออกแพ็คเกจพิเศษพร้อมกันเพื่อจูงใจให้นักลงทุนลงทุนภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้การเดินทางไปชักจูงการลงทุนของกระทรวงการคลังและบีโอไอได้ผล

“จะให้คลังกับบีโอไอไปโรดโชว์ด้วยกัน เจรจากับกลุ่มเป้าหมายให้จบ รวมถึงกองทุนบีโอไอ โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เข้าไปช่วยบีโอไอร่างระเบียบว่าอะไรใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ เพื่อให้เงินในกองทุนบีโอไอ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ เพื่อแข่งกับเวียดนาม”

นายสมคิดกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวอย่างน้อยจะทำให้ช่วยเพื่อส่งเร่งให้เอกชนลงทุน รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

ขณะที่เรื่องของกระทรวงคมนาคม โครงการแรกคือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ซึ่งจะเข้าครม.ได้ในเวลาไม่นานนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สคล.) ถ้าผ่านก็จะเข้าสู่การประมูลได้ ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนต่อเนื่อง อย่างน้อยสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการต่าง ๆ สามารถออกมาได้

นายสมคิดกล่าวว่า โครงการต่อไปที่จะเร่งรัด คือ โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเดินหน้าไปแล้ว 4 โครงการ เหลือเพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ MRO และสมาร์ทซิตี้

“MRO ต้องเกิดให้ได้ โดยนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซีจะเซททีโออาร์ภายใน 1-2 เดือนนี้แน่นอน”

สำหรับโครงการน้ำ เนื่องจากปีนี้แล้งมาก จึงสั่งให้สำนักงบประมาณและเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วางแผนล่วงหน้าว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งแหล่งน้ำขนาดเล็กปีนี้ลงทุนไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการขนาดใหญ่ก็ว่าไปตามเนื้อผ้า

นายสมคิดกล่าวว่า ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดประชุมซีอีโอฟอรั่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้ผู้บริหารนำเสนอแผนการลงทุนทั้งหมดใหม่เพื่อเร่งรัด เช่น กระทรวงพลังงาน เฉพาะปตท. และ EGAT รวมกันมูลค่าโครงการลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท โดยปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนให้เร็วขึ้น มากขึ้น รวมถึงเร่งรัดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนให้ออกมาภายในครึ่งปีนี้ให้ได้ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานวิสาหกิจในกำกับของกระทรวงคมนาคมที่มีจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในไปป์ไลน์ที่จะสามารถเร่งรัดได้ โดยจะหารือกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่การกระทรวงคมนาคมต่อไป ว่าโครงการใดสามารถเร่งรัดได้

“ในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม จะเดินทางไปกสทช.เพื่อร่วมประชุมกับเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการลงทุน ไม่เฉพาะ 5 จี แต่รวมถึงโครงการลงทุนต่อเนื่องที่เกี่ยวกับ 5 G มูลค่าการลงทุนอย่างน้อยๆ 1 แสนกว่าล้าน ซึ่งจะทำให้เกิดซัพพลายเออร์เยอะมากในวันข้างหน้า เป็นสัญญาณที่ดีว่าเราจะไปสู่ 5 G แล้ว”


นายสมคิดกล่าวว่า ด้านการเจรจาทางการค้า ได้แก่ ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ต้องรีบให้ได้ข้อสรุปและเสนอ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) คู่ขนานกับการจัดตั้งกองทุนเยียวยาเพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด รวมถึงเอฟทีเอไทย-อียู และเอฟทีเอไทย-ฮ่องกง โดยกระทรวงการคลังและบีโอไอจะเดินทางไปโรดโชว์ในปีนี้หลายประเทศ ทั้งนี้ นายสมคิดจะเดินทางไปโรดโชว์อินเดีย